ตอน 36

ทางเลือกของหงส์

 

 

ความขุ่นมัวในจิตใจ ณ ขณะนี้ เกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุประกอบกัน

ความอาลัยต่อการจากไปของน้ายงค์ คือ สาเหตุที่รู้สึกได้ชัดที่สุด  

การรับรู้ว่าอวัยวะภายในของเธอมีเนื้องอก คือ อีกสาเหตุหนึ่ง 

สาเหตุสุดท้าย คือ ความขัดเคืองที่มีต่อพี่ชาย  หากพี่ชายเลือกรักษาน้ายงค์เป็นคนแรก น้ายงค์อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้

ซีฟ่งยื่นปลายบุหรี่ปาดกำแพงนอกบ้านเพื่อดับ แล้วโยนก้นทิ้งในถังขยะ

สายวันนี้แดดไม่ร้อนเหมือนวันวาน เมฆดำกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า บังแดดให้เหลือส่องลอดมาได้เป็นหย่อม ๆ

โทรศัพท์มือถือดังขึ้น หน้าจอปรากฏชื่อ ทอมเป็นผู้โทรเข้า

เธอก้าวเท้าเข้ามาอยู่ใต้ร่มของต้นมะม่วงริมรั้ว  แล้วกดรับสาย

"หวัดดีค่า พี่ทอม ! คิดถึงจัง พี่ทอมหายไปเลย !"

"น้องหงส์เป็นยังไงบ้าง ? คิดถึงเหมือนกันนะ แต่ตัวพี่เองมีเรื่องโน่นนี่นั่นเข้ามาตลอด เลยไม่ได้ติดต่อไป"

"หงส์ก็เหมือนกันค่ะ มีเรื่องอะไรให้หนักสมองเล่นบ้าง ชีวิตหงส์จะได้สนุก  พี่ทอมโทรหาหงส์มีอะไรหรือเปล่าคะ ?"

"มีอะไรจะถามหน่อย พี่จำได้ว่า หงส์เคยเล่าให้ฟังว่า พี่แอนดี้เป็นคนตั้งชื่อหงส์ภาษาจีนให้ แล้วชื่อไทยของหงส์ใครเป็นคนตั้งให้ล่ะ ?"

หงส์นึกถึงชื่อ 'เลอหงส์' เธอจำได้อย่างดีว่าใครเป็นคนตั้งให้

"คุณหญิงเจนค่ะ !  คุณหญิงปรึกษาพระ แล้วพระก็ตั้งให้  ถามทำไมเหรอคะ ?"

"ก็ พี่คิดว่าเรื่องชื่อนี่อาจจะเกี่ยวข้องกับชะตาชีวิต  ช่วงนี้พี่เองมีแต่เรื่องวุ่นวาย  เลยนึกมาได้ว่า มีน้องคนนึงเล่าว่า ลุงของเขาเปลี่ยนชื่อ แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างดีขึ้น แล้วก็ประสบความสำเร็จตามที่ต้องการ"

"ตอนนี้ชีวิตพี่ทอมไม่ค่อยดีเหรอคะ ?"

เสียงถอนหายใจปลายทางดังมาก่อนคำพูด

"ช่วงนี้ มีแต่เรื่องให้ทุกข์ใจจนไม่เป็นตัวของตัวเอง"

"ถ้าพี่ทอมอยากเล่า หงส์จะฟังนะคะ"

ทอมหยุดคิด ก่อนตอบ

"เล่าตอนเจอกันดีกว่า เมื่อไหร่ได้เจอ พี่จะเล่าให้ฟัง"

"ได้ค่ะ ! แล้วพี่ทอมจะเปลี่ยนชื่อใหม่ให้กลับเป็นตัวของตัวเองเหรอคะ ?  ลุงของน้องคนนั้น เปลี่ยนชื่อแล้วชีวิตเปลี่ยนไปยังไงอะคะ ?"

"เค้าเป็นนักการเมือง ชื่อชลธี ไปให้คนที่ดูเรื่องชื่อให้ เค้าบอกว่า ชื่อ ชลธี แปลว่าน้ำ  ไม่เหมาะกับการเล่นการเมือง ไม่เหมาะกับงานที่ทำ  ถ้าจำเป็นต้องเป็นผู้นำ จะลำบาก   เลยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น รักชาติ เหมาะกับงานที่ทำ เหมาะกับอนาคต  พอเปลี่ยนชื่อเป็นรักชาติ ไม่ถึงหกเดือน ได้เป็นหัวหน้าพรรคเลย"

"อ๋อ ! หัวหน้าพรรคไทยนิรันดร์ ถ้าเขาอยากเป็นแบบนั้น แล้วมีความสุข ก็ดีค่ะ"

"จ้ะ น้องหงส์ ! พี่แค่อยากมีความสุข อยากให้คนที่เรารัก เข้าใจเรา"

หงส์คิดถึงตัวเธอเองบ้าง

"หงส์มีคนที่รักไม่เยอะนะคะ แต่หงส์ว่าหงส์โชคดี  พี่ชายหงส์เป็นพี่ที่ดีที่สุดในโลก  หงส์ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ว่าใครจะเข้าใจเรา แต่ใครที่หงส์รัก หงส์จะพยายามเข้าใจเค้า"

ทอมได้ฟังแง่คิดที่แตกต่างไปจากตัวเอง จึงมีคำถาม

"หงส์ไม่แคร์เหรอ ถ้าคนที่เรารัก ไม่เข้าใจเรา ?"

หงส์ตอบทันที

"ไม่แคร์ค่ะ ! เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรารักเค้า หงส์แค่ มีความสุขที่ได้ใช้เวลาเข้าใจตัวตนของเค้า แค่นี้มันก็พอแล้ว"

ทอมขมวดคิ้ว

"หงส์คงไม่ได้หมายถึงเหล่าซือแอนดี้แล้วมั้ง  เรารักใครอยู่เหรอ ?  รักเค้าข้างเดียวเหรอ น้องหงส์ ? เค้าไม่รู้ว่าเรารักเค้า หรือ เค้ายังไม่รู้จักเราด้วยซ้ำ ?"

"เปล่า ๆ ค่ะ ! หงส์พูดเรื่องทั่ว ๆ ไป  ไม่ได้หมายถึงตอนนี้   พี่ทอมมีปัญหากับพี่จิตรเหรอคะ ?"

เสียงปลายทางถอนหายใจอีกครั้ง

"ไม่ใช่พี่จิตรหรอก !  คนในบ้านน่ะ  ไว้เจอกันพี่เล่าให้หงส์ฟังดีกว่า  ไม่รู้จะคุยให้ใครฟัง"

"พี่รุ่งล่ะคะ ?  พี่สองคนเคยสนิทกันไม่ใช่เหรอ ?  พี่รุ่งเป็นคนฟังเรื่องพวกนี้หรือเปล่าคะ หรือ เป็นผู้ชายพวกฮาร์ดคอร์ ระบายอย่างเดียว แต่ไม่ฟังเพื่อนระบาย ?"

"ไม่ ๆ ! รุ่งเป็นคนที่ฟังนะ   ทั้งรุ่งทั้งวิทย์  สองคนนี้เป็นเพื่อนผู้ชายที่ไว้ใจได้"

"ค่ะ ! หงส์ก็ว่ายังงั้น  พี่รุ่งเหมือนมีอีกภาคเป็นหญิงในตัวด้วย คือ คนใกล้ชิดจะดูดซับความอ่อนโยนจากตัวเค้าได้"

ทอมอุทานเสียงยาวด้วยความประหลาดใจ

"เหอ....ยยย !  น้องหงส์ ! รู้จักรุ่งดีขนาดนั้น !"

หงส์เริ่มสนทนาต่อ ดีกว่าจะต้องเป็นฝ่ายรอตอบคำถาม

"พี่ทอมไม่คุยกับพี่รุ่งล่ะคะ ? เพื่อนเก่าอาจจะเข้าใจพี่ทอมดีกว่าหงส์ก็ได้นะคะ"

"อื้ม ! พี่จะได้เจอรุ่งเร็ว ๆ นี้  คงมีเรื่องคุยกันเยอะ"

"ก็ดีค่ะ ! หงส์อยากเห็นพี่ทอมมีความสุข  ถ้าหงส์จัดให้ อาจจะไม่ตรงใจพี่ทอม งั้น อะไรก็ได้ที่พี่ทอมแฮปปี้ หงส์ก็แฮปปี้ด้วย"

"หงส์จะจัดอะไรให้พี่เหรอ ?"

หงส์หัวเราะเบา ๆ

"ม่ายหรอกค่ะ ! มันเป็นแค่ความคิดแฟนตาซีของหงส์น่ะ พี่ทอมใช้ชีวิตจริงตามที่พี่ทอมสบายใจดีกว่า หงส์ขอเอาใจช่วยอยู่ข้าง ๆ ดีกว่า"

สองสาวคุยกันอีกไม่กี่ประโยค ก็ตัดสาย

เมฆดำบนท้องฟ้าเริ่มเกาะตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ บังแสงแดดได้เกือบมิด

ซีฟ่งยืนรับลมที่พัดมาอ่อน ๆ ปล่อยอารมณ์ให้ผ่อนคลาย  จิตเริ่มมีสมาธิ ความคิดเริ่มแล่นเข้ามา

น้ายงค์จากไปโดยไม่ร่ำลา  ฉันเองก็อาจจะเป็นโรคร้าย  ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริง ๆ

*******************************************************************************

ณ ห้องเก็บของ โซนสี่...บรรจง....สาวหัวหน้าพนักงานฟีลด์โซนสี่ กำลังนำประชุมพนักงานประจำวันช่วงเช้าก่อนปฏิบัติหน้าที่

เหตุการณ์อุบัติเหตุผู้ใช้บริการถูกไฟดูดเมื่อวาน อยู่ในเขตความรับผิดชอบของเธอ เธอจึงจำเป็นต้องสรุปเรื่องราวเหตุการณ์ทั้งหมด และ มาตรการที่ได้ประชุมกับผู้บริหารของฟันปาร์คให้แก่ลูกทีมฟัง

ลูกทีมเจ็ดคนเข้าใจถึงมาตรการ และ รับทราบวิธีปฏิบัติที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารเป็นอย่างดี

"บ่ายวันนี้ ทีมโลจิสติกส์จะมาเคลื่อนย้ายตู้เวนดิ้งอีกตู้นึงออกไปจากโซนเรา  เป็นอันว่า ช่วงนี้ในโซนเราไม่มีตู้เวนดิ้ง"

เฟิร์น....ลูกทีมสาวที่นั่งติดกับรุ่ง ถามขึ้น

"แต่ตู้เวนดิ้งโซนอื่น ก็ยังอยู่ตามปกติ  ตู้ที่จะยกไปในโซนเรา มันเกี่ยวอะไรกับเครื่องเมื่อวานล่ะ พี่จง ?"

"มันมาจากซัพพลายเออร์รายเดียวกัน  แต่ทางทีมช่างก็มั่นใจว่า มันไม่มีทางรั่วแน่ ๆ เพียงแต่เพื่อความมั่นใจ ก็เอาเก็บเข้าไปตรวจจนมั่นใจก่อน"

รุ่งหัวเราะหึ ๆ

"ผู้ใช้บริการคนนี้ อาจจะไฟแรงอยู่แล้ว เอาไฟตัวเองมาช็อตตู้ของเราเสียซะได้"

พี่จงหัวเราะ ยกนิ้วขึ้นชี้หน้า

"นี่นายรุ่ง !  เธอไม่โทษตัวเองว่า เพราะเธอนั่นแหละ ย้ายมาอยู่โซนนี้ ฟ้าเลยลงโทษ ?  ดีนะที่ผู้ใช้บริการไม่เป็นอะไรมาก ถ้าเค้าเจ็บหนักกว่านี้ เธอยังมีหน้ามาพูดเล่นแบบนี้ ชั้นจะจับเธอไปให้ไฟช็อตบ้าง"

ลูกทีมคนอื่นหัวเราะ  รุ่งยิ้มหน้าตาย

ลูกทีมชายชื่อเหวิน พูดขึ้น

"ช่วงนี้ปัญหาระบบไฟเยอะครับ พี่ที่อยู่โซนสามบอกว่า เครื่องปั่นน้ำในบ่อเก็บน้ำล่องแก่ง อยู่ดี ๆ ตู้จ่ายไฟร้อนจนไหม้ มีควันออกมา เมื่อวันก่อน"

รุ่งปรบมือเสียงดัง

"น่านไง ! มาโทษผมได้ยังไง ผมไม่ได้อยู่โซนสามนะ"

พี่จงพยักหน้าช้า ๆ

"พี่รู้เรื่องนั้น  ประชุมผู้บริหารเค้ารายงานในวันรุ่งขึ้น  ทางโอเปอเรชั่นกับไอทีกำลังโคกันเวิร์คเอ๊าท์เรื่องนี้อยู่ เห็นว่าตอนนี้หลายส่วนระบบไฟ ไม่ได้ต่อเข้าระบบมอนิเตอร์ของส่วนกลาง เกิดอะไรขึ้น ที่ฟีลด์ ส่วนกลางไม่รู้ทันที ต้องรอคนรายงาน  แต่อนาคต ไอทีจะเชื่อมทั้งหมดให้มอนิเตอร์ได้

เรื่องเครื่องปั่นน้ำเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หลังบ้าน มันก็ค่อย ๆ แก้ไปได้  ผู้ใช้บริการไม่ได้ไปสัมผัสส่วนนั้น

งานฟีลด์เป็นจุดคอนแทคกับผู้ใช้บริการ  อะไรที่เกิดขึ้นที่ฟีลด์ ผู้บริหารให้ความสำคัญอันดับหนึ่ง เพราะกระทบผู้ใช้บริการ

เหตุการณ์เมื่อวาน จึงถือเป็นเหตุการณ์ที่ซีเรียส  ต้องป้องกันให้ดีกว่านี้  ครั้งหน้าอาจจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้"

ลูกทีมทุกคนพยักหน้าเข้าใจ  หัวหน้าให้สัญญาณเลิกประชุม

ประตูห้องเก็บของเปิดออก  รุ่งเดินออกจากห้องเป็นคนแรก เขาหันหลังไปถามเหวินที่เดินตามออกมา

"เหวิน กี่โมงแล้ว ?"

เหวินยกข้อมือขึ้น รุ่งชะโงกหน้ามาดู แล้วพูดขึ้น

"เหลืออีกยี่สิบนาทีเข้างาน"

"จะไปกินข้าวเหรอ ?" เหวินถาม

"เปล่า ! จะไปแอ่วสาวฟลอร์เลสที่แคนทีนหน่อย ค่อยกลับมาเข้างาน"

เขาระลึกอยู่เสมอว่า วันเวลาที่จะได้พูดคุย หยอกล้อกับเพื่อนสาวเชื้อสายอินเดียคนนี้ เหลือน้อยลงทุกที

*******************************************************************************

ไม่กี่นาทีถัดมา รุ่งโรจน์ยืนอยู่หน้าห้องอาหารพนักงานประจำโซนเอ ซึ่งปกติ เพื่อนสาวสายเลือดอินเดียน - อเมริกัน จะแวะมาทานอาหารเช้าที่นี่ ก่อนเข้างาน

เป็นไปตามที่คาด เมื่อเขามองเข้าไปในห้องอาหาร  แคลร์กำลังยื่นถาดอาหารคืนที่เคาน์เตอร์ แล้วเดินสะพายกระเป๋าออกมา

สาวภารตะอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดคอปกซีดาร์ฟันปาร์ค กางเกงขายาว

ทันทีที่เห็นเพื่อน  เธอหยุดยืนแล้วเอียงคอ

"ว่าไงโรมิโอ ! เธอมากินมื้อเช้าที่นี่เหรอ วันนี้ ?"

"เปล่า ! ฉันมาตามหาชาร์ลี สุดที่รักของฉัน"

คำทักทายของรุ่งทำให้เธอมีรอยยิ้ม

"ทำไมไม่ไปหาฉันที่คอมเซ็นเตอร์ ? ยังไงฉันก็ต้องไปเช็คอินที่นั่นก่อน"

รุ่งมองเข้าไปในห้องอาหาร แล้วมองหน้าเธอ

"รู้มั้ย ทำไม ฉันถึงมาหาเธอที่นี่ ?"

"ไม่อยากรู้ ถ้าเธอไม่อยากบอก ฉันทนได้ เธอก็เก็บมันต่อไปแล้วกัน"

ความกวนของแคลร์ทำให้รุ่งหัวเราะ

"เธอหายจากอาการป่วยเด็ดขาดแล้ว  นี่เป็นเครื่องยืนยัน ถึงพูดจาเป็นปกติได้แบบนี้"

แคลร์ยักไหล่

"อ้าว แน่นอน ! ถ้าเธอไม่อยากบอก ฉันก็จะไปเข้างานละ"

เธอเดินผ่านรุ่งไป แต่เขาเอื้อมมือไปคว้าสายกระเป๋าสะพาย รั้งตัวเธอไว้

"เดี๋ยว ๆๆๆ ! บอกก็ได้"

สาวอินเดียตั้งใจฟัง

รุ่งชี้เข้าไปในห้องอาหาร

"ก็ที่นี่.... เป็นที่ที่ฉันรู้จักเธอเป็นครั้งแรก  เธอจำได้มั้ยว่า ฉันเป็นฝ่ายทักเธอก่อน แล้วเราก็คุยกันที่นี่ ?"

แคลร์หันหลังกลับไปมอง แล้วชี้นิ้ว

"โต๊ะตัวนั้น จำได้ !"

"ใช่ ! เธอนั่งอยู่กับซูซาน แล้วก็เพื่อนคนไทยอีกสองคน ความจำดีมั้ยล่ะ ?"

แคลร์ผงกหัว ส่งยิ้มให้  เธอมองออกไปที่ลานข้างนอก แล้วชี้

"แล้วที่โน่น !..."

รุ่งมองตามนิ้วชี้ของเธอ

"ที่โน่น ทำไม ?"

แคลร์กลอกลูกตากลับมาที่เขา  แต่เธอไม่พูด

รุ่งถามซ้ำ

"ตรงโน้นมีอะไร ?"

เพื่อนอินเดียไม่ตอบคำถาม แต่ตั้งคำถามกลับ

"เธอจะมาลำดับความหลังเหรอ ว่าเราเจอกันที่ไหน กี่ครั้ง ได้มีกิจกรรมอะไรบ้าง ได้คุยอะไรกันบ้าง ?"

รุ่งพยักหน้า อมยิ้ม

"เธอจำได้หมดเลยมั้ยล่ะ ?"

แคลร์ก้าวเท้าออกเดิน

"คงไม่ !"

รุ่งเดินตาม

"ก็ไม่เป็นไร ! ฉันก็คงจำไม่ได้หมดเหมือนกัน  ฉันมานัดเธอเดทครั้งสุดท้าย เธอว่างวันไหน ?"

แคลร์ก้าวเท้าช้าลง ใช้ความคิดเพียงอึดใจ

"อาจจะเป็นวันเสาร์ช่วงเย็น ก่อนงานเปิดตัวโรงแรม   เธอหมายถึงเดทกันในนี้ใช่มั้ย ? เพราะฉันอาจจะไม่มีเวลาพอที่จะออกไปข้างนอก"

"ได้ ๆ ! ในฟันปาร์คนี้แหละ ฉันจะพาเธอไปที่ที่เคยพูดไว้ว่าจะพาไป  แล้ว เธอต้องขออนุญาตโทนี่ก่อนหรือเปล่า ?"

"เดทกับเธอนี่ มันถึงขั้นไหนได้ล่ะ ?  เดทแบบเพื่อน หรือว่า ต้องมีกอด  ถ้าต้องกอด กอดนานแค่ไหน กี่วินาที ?...."

"พอ ๆ ! ไม่มี ไม่ต้องกอด  แค่เดทแบบเพื่อน"

แคลร์หัวเราะชอบใจที่กวนเพื่อนได้สำเร็จอีกครั้ง

"งั้นก็วันเสาร์นี้ ตั้งแต่บ่ายสี่ถึงก่อนเจ็ดโมงเย็น"

"ได้ !"

รุ่งโบกมือลา แคลร์โบกมือกลับ แล้วเดินมุ่งหน้าไปอาคารคอมเซ็นเตอร์

*******************************************************************************

อ่านหน้า > 2, 3, 4, 5

สั่งซื้อนิยายหมอเถื่อนรวมเล่ม คลิ๊กที่นี่

กลับขึ้นด้านบน  อ่านตอนอื่น 

 

 

 

 
Copyright © 2008, pendulumthai.com All rights reserved