เอนกหยุดรถสนิทที่โรงรถของบ้าน แอนดี้เปิดประตูรถก้าวเท้าลงมา
ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกโล่งใจที่คำแนะนำขั้นแรกของพระนาง เขาทำได้สำเร็จ
ทันที่ก้าวเข้าตัวบ้าน ก็ตรงไปยังบันได เดินขึ้นไปหน้าห้องนอนของน้องสาว
"เสี่ยวฟ่ง เสี่ยวฟ่ง !"
แอนดี้ยืนเรียกน้องสาวอยู่หน้าประตูห้องนอน
ประตูถูกเปิดออก ซีฟ่งอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืด กางเกงขาสั้น
แอนดี้พูดภาษาจีนกลาง
"ให้ฉันเข้าไปคุยหน่อย !"
น้องสาวเบี่ยงตัวหลีกทางให้พี่ชายเดินเข้ามาในห้อง
เธอเดินมาทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียง แอนดี้ยกเก้าอี้มานั่งประจันหน้า
"อาฟ่ง ! มีเรื่องที่ฉันต้องตัดสินใจเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ เรื่องนี้ เธอต้องเชื่อฉัน"
น้องสาวจ้องหน้าพี่ชาย
"พี่ใหญ่ไปไหนมาเหรอ ?"
แอนดี้พยักหน้า 
"นี่ไง ฉันกำลังจะเล่า !
พระนาง ฯ บอกวิธีที่จะแก้ไข ให้อาการของเธอ เบาบางลง มันเป็นพิธีกรรม ไม่ใช่การรักษาด้วยการกินยา ฉันอยากให้เธอทำ ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่ ครั้งนี้ ฉันขอ ฉันขอให้เธอทำตาม
ฉันรู้ว่า เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และ เธอก็......"
น้องสาวเอื้อมมือมาจับข้อมือพี่ชายทันที
"ฉันจะทำ ! พี่ใหญ่ไม่ต้องพยายามอธิบายขนาดนั้น ฉันก็รักชีวิตตัวเอง ฉันอยากอยู่กับพี่ไปนาน ๆ เหมือนกัน ทำไมฉันจะไม่เชื่อพี่ล่ะ ในเมื่อ สำหรับฉันแล้ว พี่คือพระเจ้า ?"
สิงห์ต้าลู่รู้สึกโล่งอก ที่น้องสาวไม่เล่นบทดื้อรั้น ผิดกับที่คาด เขามีรอยยิ้มออกมา เอื้อมมือไปลูบหัวเธอ
เธอก็มีรอยยิ้ม
"แล้วฉันต้องไปลุยไฟ หรือ ว่ายน้ำข้ามทะเลที่ไหนล่ะ ? พี่บอกมาได้เลย"
แอนดี้หัวเราะเบา ๆ
"ไม่ใช่เรื่องลำบากกาย แต่จะลำบากใจมั้ย ต้องแล้วแต่เธอ
สิ่งที่พระนางแนะนำ คือ จะต้องมีคนที่หนุนชะตาของเธอได้ มาอุปถัมภ์เธอในฐานะแม่บุญธรรม แล้วทั้งสองคน จะต้องทำพิธีรับเป็น แม่-ลูกบุญธรรม
พระนางได้ดูชะตาและบุญที่สมพงศ์กัน บุญเก่าของแม่บุญธรรม สามารถหนุนให้เธอรอดพ้นวิกฤตนี้ได้ หนัก ก็จะกลายเป็นเบา"
น้องสาวไม่มีความสันทัดในเรื่องเหล่านี้ จึงไม่ถามถึงเหตุ และ ผล
"ค่ะ ! แล้วฉันต้องเป็นลูกบุญธรรมของใครล่ะ ?"
"คนที่เหมาะสมที่สุด ณ เวลานี้ คือ คุณย่าเฉลา ไตรสรณ์ เธอต้องเป็นลูกบุญธรรมของท่าน
ในอดีต เธอเคยเกิดเป็นลูกสาวท่านมาก่อน มีความผูกพันกันมา พระนางแนะนำว่า หากได้เป็นลูกบุญธรรมของท่าน หนักก็จะกลายเป็นเบา"
"แล้วคุณย่าเฉลา จะยอมรับฉันเป็นลูกบุญธรรมง่าย ๆ เหรอ ?"
"เรื่องนั้น เรียบร้อยแล้ว ! ฉันกำลังทำอะไรบางอย่าง เพื่อช่วยครอบครัวไตรสรณ์ คุณย่าเฉลารู้ดี
สำหรับท่านแล้ว ฉันก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่ง ถึงแม้ ฉันจะไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงสำคัญมากขนาดนั้น แต่ เวลานี้ ไม่ใช่เวลาสงสัย ฉันขอเพียงแค่ จัดการให้เธอพ้นวิกฤตนี้ ฉันทำทุกอย่าง
คุณย่าเฉลา เข้าใจสถานการณ์ของเธอ ณ ตอนนี้ ท่านยินดีรับเธอเป็นลูกบุญธรรม พร้อมทั้งเตรียมเงินรับขวัญไว้
เงินนี้ ก็จะพอให้เธอรักษาตัวเอง แล้วถ้าเธอใช้อย่างประหยัด เงินนี้ก็อาจจะทำให้เธอสบายไปช่วงหนึ่งของชีวิตได้เลย"
หงส์ขมวดคิ้ว
"เงิน ! ทำไมต้องมีเงินมาเกี่ยวข้องด้วย ? เราต้องรับเงินจากท่านด้วยเหรอ ?"
"พระนาง ฯ บอกว่า มันเป็นพิธีกรรม แม่บุญธรรม ให้เงินรับขวัญลูกบุญธรรม ตามธรรมเนียม เป็นเงินเท่าไหร่ก็ได้ แต่ขอให้เป็นเลขเก้า คนไทยถือว่า เลขเก้าเป็นเลขที่นำความก้าวหน้ามาให้ จะเป็นเก้าบาท หรือ เก้าสิบเก้าบาท หรือ เก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท ก็ได้ทั้งนั้น แล้วแต่แม่บุญธรรมจะเมตตา
ถ้าแม่บุญธรรม เมตตาให้เท่าไหร่ ห้ามปฏิเสธ ต้องรับไว้เป็นเงินรับขวัญ"
"แล้วจำนวนเงินที่ท่านให้ เป็นเท่าไหร่กันแน่ ?"
"เก้าล้าน เก้าแสน เก้าหมื่น เก้าพัน เก้าร้อย เก้าสิบเก้าบาท !" 
ซีฟ่งสั่นหัวทันที
"เงินตั้งสิบล้าน ! ทำไมต้องมากขนาดนั้น ?"
"คุณย่าเฉลายืนยันที่จะให้เธอรับไว้ เงินนี้จะเป็นหลักประกันสำหรับค่ารักษาพยาบาล
ฐานะการเงินของเราสองพี่น้องตอนนี้ นับว่าไม่เหลืออะไรอีกแล้ว หากบุญของคุณย่าเฉลา หนุนชะตาเธอได้ ชะตาของเธอจะไม่ขาด แต่ ก็คงต้องรับกรรมเจ็บป่วยต่อไป
ยังไง ก็ต้องการเงินที่จะเป็นหลักประกันสำหรับชีวิตเจ็บป่วยที่เหลือของเธอ"
อาฟ่งพยักหน้าเข้าใจ สีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ครุ่นคิด
"พี่ใหญ่พูดไม่ผิด ! เราจะหาเงินมาจากไหนได้ หากฉันป่วย ฉันก็คงไม่สามารถหาเงินได้เต็มที่ เราต้องมีหลักประกัน
แต่... ฉันต้องเปลี่ยนนามสกุล ? คงไม่ต้องใช่ม้้ย ? เพราะเป็นแค่ลูกบุญธรรม"
"ไม่ต้อง ! เรื่องพิธีการรับเป็นลูกบุญธรรม จะไม่ทำอย่างใหญ่โต จะมีแค่เพียงคุณย่าเฉลา เธอ และ ฉันเท่านั้น เธอก็ยังใช้ชื่อสกุล เลอหงส์ จงมีทรัพย์ เหมือนเดิม เพียงแต่ จะต้องเรียกคุณย่าเฉลาว่า แม่"
"แล้วคนในสกุลไตรสรณ์คนอื่นล่ะ ? พวกเขาต้องรับรู้เรื่องนี้หรือไม่ ?"
"พวกเขา จะรับรู้ หลังจากที่ฉันได้ช่วยพวกเขาสำเร็จ ซึ่งไม่น่าจะเกินหนึ่งเดือนนับจากนี้ คุณย่าเฉลาจะบอกคนในไตรสรณ์ทุกคนว่า ได้รับเธอเป็นลูกบุญธรรมแล้ว ณ ตอนนั้น คนในครอบครัวไตรสรณ์ทุกคน จะรับรู้ว่า ฉัน เป็นคนที่สำคัญสำหรับพวกเขา"
หงส์ขมวดคิ้ว สั่นหัวช้า ๆ
"ฉันไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เลย ! คุณหญิงเจน เคยบอกฉันว่า พี่ใหญ่จะกลับมาทวงอะไรจากครอบครัวไตรสรณ์ ฉันเข้าใจว่า นี่มันเป็นเรื่องบาดหมางระหว่างสองตระกูล แต่วันนี้ ตัวฉันเอง กลับต้องเข้าไปเป็นตัวแปรในเรื่องนี้ด้วย
เอ้อ... จริงสิ ! ถ้าตอนนั้น คุณย่าเฉลา ประกาศว่าฉันเป็นลูกบุญธรรม แปลว่า ฉันก็เป็นพี่น้องกับคุณมัณฑนา ?"
แอนดี้นึกตาม แล้วพยักหน้า
"ใช่ !"
หงส์จินตนาการต่อได้เอง
"ฉันก็เป็นน้าสาวของวิภวา ที่เคยเป็นนักเรียนของพี่ใหญ่"
"ใช่สิ ! วิภวาคงต้องเรียกเธอว่า น้าหงส์ ทำไมเหรอ ? ไม่อยากรู้สึกว่าแก่ขนาดนั้นเหรอ ?" พี่ชายยื่นหน้ามาจ้องหน้าน้องสาว
หงส์มีรอยยิ้ม แล้วสั่นหัวเบา ๆ
"ไม่ใช่ ! ฉันมีทางเลือกอื่นอีกมั้ย ถ้าไม่ใช่คุณย่าเฉลา ?"
แอนดี้ประหลาดใจที่ได้ยินคำถามนี้
"ทำไมล่ะ ? เธอติดปัญหาอะไร ? บอกฉันมา !"
น้องสาวอึกอัก ไม่สามารถพูดความจริงที่ออกมาจากใจได้
"ฉันขอเลือกทางเลือกอื่น ไม่ใช่คุณย่าเฉลา ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องเป็นญาติกับครอบครัวไตรสรณ์"
คำตอบนี้ทำให้พี่ชายผงะ จู่ ๆ น้องสาวก็เปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลัน ท่าทีที่ยินยอมมาตั้งแต่ต้น กลับเปลี่ยนเป็นขัดขืน
"เกิดอะไรขึ้น ? ก็ตอนแรกเราคุยกันอยู่ดี ๆ เธอก็เข้าใจดีแล้ว ทำไมปุ๊บปั๊บก็เปลี่ยนใจ ?"
น้องสาวมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แสดงถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
"ขอทางเลือกอื่นให้ฉันเถอะ ฉันไม่อยากเป็นญาติกับครอบครัวไตรสรณ์"
เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าผาก 
แอนดี้รู้สึกใจเสีย ซีฟ่งต้องมีความรู้สึกที่ไม่เป็นมิตรกับครอบครัวไตรสรณ์แน่ ๆ
น้องสาวก้มหน้า
"คำตอบของฉันตอนนี้ คือ ไม่ ! ขอฉันพักผ่อนก่อนได้มั้ย ? ตอนนี้ฉันรู้สึกเพลีย อยากพัก"
"ได้ ๆ ! เธอพักไปก่อน ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น ฉันจะปรึกษาพระนาง ฯ อีกครั้ง"
แอนดี้เดินออกจากห้องน้องสาวด้วยความรู้สึกฉงนกับพฤติกรรมของน้องสาว แต่ อาจเป็นไปได้ว่า อาการป่วยทำให้จิตใจของน้องสาววิตกกังวลมากเกินไป
พระนาง ฯ... ผู้ซึ่งไม่มีคำว่า หมดหนทาง ! ต้องมาดูกันแล้วว่า สถานการณ์แบบนี้ พระนาง ฯ จะมีหนทางไหนมาให้เลือกได้อีก
**********************************************************************************

ละอองฝนที่โปรยมาโดนแขน ทำให้รุ่งต้องเงยหน้าขึ้นมองฟ้า
เมฆดำรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ปกคลุมทั่วทั้งเขตสวนสนุก
รถตู้ของทีมโลจิสติกส์กำลังถอยเข้าจอดที่ริมทางเดินติดกับลานตู้เกมส์
เสียงพี่บรรจงตะโกนมาแต่ไกล
"รุ่ง ! วันนี้ไปเป็นผู้ช่วยไรด์ แอทเทนแดนท์ ที่ฟรีฟอลครึ่งบ่ายเจนต้องเข้าไปที่ออฟฟิศ"
รุ่งพยักหน้ารับทราบ
ฝนเริ่มลงเม็ดถี่ขึ้น เมื่อเขาก้าวเข้าชายคาสถานีเครื่องเล่นฟรีฟอล
ทุกครั้งที่เขาเงยหน้า แหงนคอขึ้นมองเครื่องเล่นชนิดนี้ ขนจะลุกเกรียวด้วยความเสียวทุกครั้ง ถึงแม้ได้รับค่าจ้างเป็นหมื่นให้เขาขึ้นไปเล่นเครื่องเล่นชนิดนี้ เขาคงปฏิเสธ

ก่อนเวลาเข้าประจำสถานีทุกครั้ง รุ่งจะปิดโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นกิจวัตรปกติของเขา
ขณะที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้น
หน้าจอขึ้นชื่อผู้เรียกเข้าคือ คุณหงส์ !
รุ่งขมวดคิ้ว กดรับสาย
"คุณหงส์ อาการเป็นไงบ้าง ?"
เสียงหัวเราะเบา ๆ ลอดมาในสาย
"คุณหงส์.... !" เธอทวนคำ "หงส์จะต้องทำยังไงดีนะ พี่รุ่งถึงเรียกหงส์ โดยไม่มีคำว่าคุณ ?"
รุ่งยิ้มทันทีเมื่อได้ยินบทสนทนาเบา ๆ แบบนี้ อาการของคู่สนทนาคงจะดีขึ้นบ้างแล้ว
"ไม่ต้องทำยังไงครับ เดี๋ยวผมทำของผมเอง"
"ทำยังไงคะ ?"
"คงใช้คัตเตอร์มั้งครับ ! ตัดแม่งออกไป" เจ้าตัวพูดแล้วก็หัวเราะคำพูดตัวเอง
"อื้ม.... ตัดแล้วก็ตะไบด้วยนะคะ"
รุ่งหัวเราะ
"เหมือนตัดเล็บเลยนะครับ !"
"ค่ะ ! ไหน ๆ จะตัดคำว่าคุณแล้ว ตัดคำว่าครับออกบ้างก็ได้นะคะ"
"หือ !?!? ผมพูดคำว่าครับมากไปเหรอครับ ?"
หงส์หัวเราะหึ ๆ
"ค่ะ ! มันฟังแล้วเกร็ง ๆ เหมือนไม่เห็นว่าหงส์เป็นเพื่อน หรือว่า หงส์ไม่สมควรเป็นเพื่อนพี่รุ่งคะ ?" 
เขารีบตอบแบบระร่ำระลัก
"เปล่า ๆ ! ไม่ ๆๆๆ ไม่ใช่แบบนั้นเลย เป็นได้ครับ คุณหงส์เป็นเพื่อนได้ จริง ๆ เป็นได้มากกว่าเพื่อนซะอีกครับ"
"มากกว่าเพื่อนด้วยเหรอคะ ?"
"หา... ! ผมหมายถึง .... เอ่อ.... คุณหงส์เป็นน้องพี่แอนดี้ด้วย มันก็......."
"ก็ เหมือนเป็นน้องสาวพี่รุ่งด้วย อย่างนั้นใช่มั้ยคะ ?"
รุ่งรู้สึกแปลกใจ ที่จู่ ๆ เขาก็ถูกเธอต้อนด้วยคำถามแนวนี้
ฝนเริ่มตกหนาเม็ดขึ้น ลมกระโชกฝนสาดเข้ามาโดนตัว
"เอ้ย !" เขาถอยหลังจากริมชายคา เข้ามาด้านใน
"ที่นี่ฝนตกครับ ! ฝนสาด"
"เหรอคะ ? ที่นี่ก็กำลังจะตก"
น้ำฝนจากกันสาดตกลงมากระทบพื้น เสียงดังลอดเข้าไปในสาย
"หงส์ได้ยินเสียงฝนตกด้วย ตกหนักเลยเหรอคะ ?"
"ไม่หนักครับ เสียงที่คุณหงส์ได้ยินนี่ เป็นเสียงน้ำไหลจากหลังคาตกลงบนพื้นปูน"
รุ่งพักสายตาไปกับสายฝน ฝนมาเยือนแบบนี้ ผู้ใช้บริการเครื่องเล่นกลางแจ้งคงมีน้อยลงตามไปด้วย
"พี่รุ่ง ชอบฝนตกหรือเปล่าคะ ?"
"ชอบครับ ! คุณหงส์ล่ะ ?" 
"สรุปว่า ไม่รับหงส์เป็นเพื่อนเหรอคะ ? ทั้งคุณ ทั้งครับเลย"
รุ่งหัวเราะ
"อ้อ ลืมไป ! ด้าย เป็นเพื่อนก็ด้าย ! งั้นถามใหม่ .... แล้วมึงล่ะ ฝนตกชอบป่าววะ ?"
คำถามนี้ทำให้คู่สนทนาหัวเราะร่วน
"ฮ่า ๆๆๆๆ ! เออ ให้มันได้งี้สิวะ ! ชอบ กูก็ชอบหน้าฝน แม่งโรแมนติคดีว่ะ" เธอตอบได้โดยไม่ต้องคิด
รุ่งหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำตอบจากอีกฝ่าย
"ฮ่า ๆๆๆ ! ฮาดีเหมือนกันนะ น้องหงส์เนี่ย"
"อืม... ฟังแล้วดีจัง....น้องหงส์ พี่รุ่งเรียกหงส์ว่า หงส์ หรือ น้องหงส์แบบนี้ก็ได้ มันดูกันเองกว่า"
รุ่งอมยิ้ม
"ครับ ! แล้วผมเรียกตัวเองว่าอะไร พี่เหรอ ?"
"ค่ะ ! ก็ดีนะ เรียกว่าพี่ หรือพี่รุ่งจะเรียกตัวเองว่ากู หงส์ก็รับได้นะ"
รุ่งหัวเราะอีกครั้ง
"ฮ่า ๆๆ ! คงไม่ดีกว่า เดี๋ยวพี่แอนดี้ได้ยิน กูคงโดนกระทืบ"
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของอีกฝ่าย ทำให้รุ่งรู้สึกผ่อนคลาย
"บอกหงส์หน่อยสิคะ ทำไมพี่รุ่งถึงชอบฝนตก ?"
เขาสูดลมหายใจยาว ๆ ความชื้นกับกลิ่นดินอบอวลอยู่ในอากาศ ขาก็เริ่มก้าวไปทางอีกด้านของชายคา หยุดยืนมองไปที่ทางเดินสต๊าฟรูท
"ฝนตกที่นี่ มันได้อารมณ์มาก ที่นี่มีทางเดินเลียบบริเวณรอบนอกฟันปาร์ค เป็นทางสำหรับคนเดิน กับ รถคลับ ข้างทางเป็นพงหญ้า เวลาฝนตก มันลื่น เป็นโคลน เดินแล้วก็เลอะขากางเกง"
เสียงหัวเราะหึ ๆ ทำให้รุ่งชะงัก
"น้องหงส์ หัวเราะอะไร ?"
"พี่รุ่งได้อารมณ์ เพราะมันทำให้ถนนลื่น เป็นโคลน เดินแล้วเลอะกางเกง เวลามองขากางเกง มันคงฟินสุด ๆ ใช่มั้ยคะ ?"
คำตอบแกมประชดเล็ก ๆ ทำให้รุ่งนึกขำตัวเอง
"เปล่า ๆ ! ยังเล่าไม่หมด ไม่ได้ชอบตรงนั้น ยังเล่าไม่ถึงจุดที่ชอบเลย"
"อ้อ ค่ะ ค่ะ ! ขอโทษที่หงส์ด่วนสรุป งั้นเล่าต่อค่ะ"
"ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ฝนตกแล้วรู้สึกมันสดชื่น อากาศดี เย็น ๆ มีกลิ่นดิน แล้วพอได้ฟังเพลงตอนฝนตก มันก็อิน"
"ฝนมาถึงที่นี่แล้วค่ะ !" เสียงปลายทางบอกมา
"หงส์อยู่นอกบ้านเหรอ ?"
"เปล่าค่ะ ! หงส์อยู่ในห้องนอน ตอนนี้มองจากหน้าต่างห้องออกไป แล้วก็ต้อง..... เนี่ย !"
"หือ ต้องอะไรครับ ?"
"ต้องเปิดเพลงฟังค่ะ เมื่อกี๊เอื้อมมือไปกดไอพ็อด"
*************************************************************************************
1, 2, 3 <อ่านหน้า > 5
สั่งซื้อนิยายหมอเถื่อนรวมเล่ม คลิ๊กที่นี่
กลับขึ้นด้านบน อ่านตอนอื่น
|