ตอน 34 หน้า 2

เพลิงแห่งเตโช

 

 

ซีฟ่งเริ่มรู้สึกตัว ความอ่อนระโหยทำให้ไม่อยากจะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองโลก

เมื่อเริ่มขยับร่างกาย สามารถรับรู้ว่า ขณะนี้มีผ้าห่มคลุมตัวอยู่   มือข้างซ้ายอยู่ภายใต้ไออุ่นของฝ่ามือใครสักคนหนึ่ง

เธอกระชับฝ่ามือเบา ๆ   ไออุ่นที่ไว้ใจได้มาตลอดชีวิตแบบนี้ คือ ไออุ่นของพระเจ้าอย่างแน่นอน

สัมผัสของหมอน ที่นอน และ ผ้าห่ม  ให้ความรู้สึกที่แปลกออกไป  เธออาจจะกำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลที่ไหนสักแห่ง

"หว่อไจ้หน่าเอ๋อเนอ ?" (นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย ?) เธอพูดกับพระเจ้าของเธอด้วยภาษาจีนกลาง

เสียงผู้หญิงพูดกลับมาเป็นภาษาไทย

"หนูหงส์ ! เป็นยังไง ? ตื่นแล้วเหรอ ?"

ไม่ใช่เสียงพี่ชาย !!!   เธอเปิดเปลือกตาขึ้นทันที

ข้างเตียงของเธอ คือ ใบหน้าของครูอาวุโสที่เธอเพิ่งรู้จักเมื่อวาน

มือของครูยาใจ ยังกุมมือเธออยู่

ครูยาใจลุกขึ้นยืน โน้มตัวก้มหน้าเข้ามาใกล้

"ตื่นแล้ว ยังปวดท้องอยู่มั้ย ?"

เธอสั่นหัว กลอกตามองดูรอบห้อง นี่คงเป็นห้องเดี่ยวของโรงพยาบาล

"โรงพยาบาลอะไรคะ ?"

"โรงพยาบาลกรุงเทพจ้ะ ! พอจำอะไรได้บ้าง ?"

คนไข้กระพริบตาช้า ๆ พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา

"หงส์ปวดท้องที่บ้าน ให้คนพามาส่งโรงพยาบาล จำได้แค่นี้ค่ะ พี่แอนดี้ล่ะคะ ?"

ครูยาใจสังเกตลักษณะความเฉื่อยช้าของการพูด ก็รู้ได้ว่าคนไข้กำลังเพลียมาก

"พี่แอนดี้ อยู่ที่บ้าน ไม่ต้องกังวลหรอก  ครูรู้จักผู้บริหารโรงพยาบาล เลยจัดให้หนูมาอยู่ห้องนี้ พักเสียก่อน สาย ๆ หมอเจ้าของไข้คงมาเยี่ยม"

"หมอได้ตรวจอะไรบ้างแล้วคะ ?"

"อัลตราซาวด์จ้ะ !"

"หงส์จะขยับตัวลุกขึ้นมั้ย ? เดี๋ยวครูบังคับหัวเตียงให้เงยขึ้นซักนิดดีกว่า"

คนไข้พยักหน้า

ครูหญิงกดปุ่มที่แป้น บังคับให้เตียงไฟฟ้าเลื่อนระดับหัวเตียงขึ้น

"พอรึยัง แค่นี้ ?"

หงส์พยักหน้า

"อาจารย์มาที่นี่ได้ยังไงคะ ?"

"โชคชะตามั้ง ! ครูโทรไปหาแอนดี้ จะคุยเรื่องอาหารนาโนที่หมอณรงค์ให้มา  มันมีข้อต้องระวังในการใช้เหมือนกัน 

โทรไปที่เบอร์แอนดี้ ตอนสามทุ่ม เอนกรับสาย บอกว่าแอนดี้ยังไม่ออกจากห้อง  ครูเลยขอคุยกับหงส์  เอนกบอกว่า หงส์จู่ ๆ ก็ปวดท้อง เพิ่งมีคนไปส่งหงส์เข้าโรงพยาบาล  จะไปโรงพยาบาลแถว ๆ คลองตันหรือยังไงเนี่ย  ไม่ใช่โรงพยาบาลประจำ 

ครูก็คิดว่า อ้าว ! ถ้ายังงั้น ครูให้เข้าที่โรงพยาบาลกรุงเทพดีกว่า  เลยโทรไปดักเค้าไว้  บอกให้พามาแอ๊ดมิทที่นี่แทน"

คนไข้ยกมือขึ้นไหว้

"ขอบคุณอาจารย์ค่ะ !  อาเจิ้นเค้ากลับไปแล้วเหรอคะ ?"

"ยัง ๆ ! หนูจะหาเค้านะ เดี๋ยวครูตามให้"

*******************************************************************************

ครูยาใจเดินมาที่บริเวณรับแขกของชั้น เจอกับหนุ่มจีนหน้าเหี้ยม ซึ่งเพิ่งกลับมาจากการไปหาที่พักสูบบุหรี่

"คุณเฉิน !"

เจิ้นประสานมือกุมเป้า แล้วโน้มหัวเล็กน้อย

"เจิ้นครับ !"

"อ้อ...ขอโทษ ! คุณเจิ้น หงส์เค้าอยากเจอกับคุณน่ะ  คุณได้ติดต่อแอนดี้หรือยัง ?"

เจิ้นห่อไหล่ โน้มหัว เหมือนกับเด็กนักเรียน ยืนอยู่หน้าคุณครู

"ติดต่อแล้วครับ ! พี่แอนดี้เพิ่งฟื้นจากป่วยเมื่อเช้าครับ  เมื่อคืนป่วยนานผิดปกติ"

"อ้าวเหรอ ? คุณแอนดี้จะมาที่โรงพยาบาลมั้ย หรือว่ายังเพลียอยู่ ?"

"อาจจะมาเยี่ยมตอนเย็นก่อนไปงานศพ พี่แอนดี้ต้องไปร่วมงานศพตอนค่ำครับ"

"หา ! ตัวเองยังป่วยอยู่ มีงานศพเข้ามาอีก  โถ ๆ จะไหวมั้ยเนี่ย ?  ใครกันน่ะ สนิทกันเหรอ คนตายน่ะ ?"

"ครับ ! สนิทครับ"

ครูยาใจพยักหน้าช้า ๆ  เธอฟังแล้วก็รู้สึกเห็นใจ

"คุณเจิ้น ปกติหนูหงส์ป่วยบ่อยมั้ย ?"

"ก็ ถ้าเรื่องปวดท้อง ก็ประจำครับ บางครั้งปวดมาก ก็ต้องเข้าโรงพยาบาล"

"แล้วใครมาดูแลล่ะ ?"

"ปกติ จะมี เอ่อ.... อาหลง เป็นพี่ชายอีกคน มาดู แต่เค้าเสียไปแล้ว   ถ้าเป็นตอนนี้ ผมว่างก็จะมาเยี่ยมบ้าง"

ครูหญิงขมวดคิ้ว

"นอกจากแอนดี้ มีคุณเท่านั้นเองเหรอ ?" 

นี่ถ้าพี่ชายไม่ว่าง  น้องสาวคนนี้ก็คงต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงลำพัง

อาเจิ้นพยักหน้า

"ตายจริง ! เป็นผู้หญิง ต้องแอดมิทโรงพยาบาลคนเดียว"  เธอมองหน้าอาเจิ้น

"ไปก่อนเถอะ คุณเจิ้น  คุณไปหาหนูหงส์ก่อนเถอะ !"

"ครับ !" เจิ้นผงกหัวทำความเคารพ แล้วเดินผละไป

ด้วยความใจร้อน ครูยาใจหยิบโทรศัพท์มือถือ โทรหาคุณหมอเจ้าของไข้

"ค่ะ หมอผดุงค่ะ อาจารย์ !"

"คุณหมอ ผลอัลตราซาวด์ของเลอหงส์เป็นไงบ้าง ? เดี๋ยวบ่ายนี้ครูมีประชุม คงคุยโทรศัพท์ไม่ได้ถึงเย็นเลย  แต่อยากรู้ว่าหลานครูป่วยเป็นอะไร"

"ผลอัลตราซาวด์ เจอซีสต์ที่รังไข่ค่ะ แต่ ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นฟังก์ชั่นนอลซีสด์ หรือ ทูเมอร์  ต้องซักประวัติด้วยค่ะ  เบื้องต้นก็บอกได้แค่นี้"

"ไอ้ฟังก์ชั่นนอล กับ ทูเมอร์ มันแตกต่างกันยังไงน่ะ ?"

"ฟังก์ชั่นนอลซีสต์ ส่วนใหญ่ไม่อันตราย บางรายก็หายเองภายในสามสี่เดือนค่ะ  แต่ทูเมอร์นี่ต้องตรวจอีกว่า เป็นทูเมอร์ที่เป็นเนื้อร้าย หรือ ทูเมอร์ที่ไม่เป็นเนื้อร้าย"

"เอาล่ะ ! พอเข้าใจแล้วว่าเจอซีสต์  แต่ต้องรอตรวจต่อไปว่าอันตราย หรือ ไม่อันตราย  ประมาณนี้นะ"

"ค่ะ ใช่ค่ะ !"

"คุณหมอ ครูฝากดูแลคนไข้รายนี้ด้วยนะ หลานครูเอง  ไว้เราคงได้เจอกันนะ ครูคงต้องมาที่นี่อีกแหละ"

"ค่ะ ไม่ต้องห่วง  หนูจะดูแลอย่างดีค่ะ"

อาจารย์ใหญ่ถอนหายใจยาว  เธอรู้สึกเป็นห่วงหลานสาวคนนี้อย่างมาก

*******************************************************************************

สมชายบึ่งรถเข้าเขตตัวเมืองโคราช.....

การนำเสนองานครั้งแรกต่อหน้าคุณศุภชัย ... เจ้านายใหญ่ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงแม้เขาจะตีความจากสีหน้าท่าทางของคุณศุภชัยไม่ออก เพราะ เพิ่งเป็นการพบกันครั้งแรก แต่ รอยยิ้มของคุณวรัญที่มีให้เขาตลอดการนำเสนอ  มันคือรอยยิ้มของความภาคภูมิใจ

หากจะให้มั่นใจในตัวเองมากขึ้น เขาน่าจะโทรศัพท์ไปถามความเห็นของคุณวรัญซะเลย ดีกว่าคาดคะเนจากความรู้สึก

เมื่อเหลือบมองนาฬิกาที่หน้าปัดรถยนต์ น่าจะได้เวลาที่คุณวรัญเลิกประชุมแล้ว  เขาจึงกดโทรศัพท์โทรออก

"คุณวรัญครับ เลิกประชุมแล้วใช่มั้ยครับ ?"

"ใช่ ! ว่าไง ? ขับถึงไหนแล้ว ?"

"เข้าโคราชแล้วครับ !  ที่ผมพรีเซ้นท์เมื่อเช้าเป็นไงบ้างครับ ?'

"พรีเซ้นท์เหรอ ?.... อื้ม ! มีเรื่องที่ต้องบอกคุณสองเรื่อง  เอาเรื่องแรกก่อน คุณทำงานกับผม ผมพูดตรง ๆ คุณต้องรับได้"

คำเกริ่นของวรัญทำให้สมชายเตรียมใจ

"ครับ ! รับได้ครับ"

"คุณทำงานเข้ากับคน ยังใช้ไม่ได้ !  คุณจะคิดว่างาน คือ งานเท่านั้น   คนไม่สำคัญ... ไม่ได้ ! 

หลังจากคุณกลับไป  ก่อนเที่ยง ผมประชุมกับสาขา ผู้จัดการสาขาเค้าบ่นเรื่องการประสานงานกับคุณ  คุณต้องรู้ว่าคุยกับผู้จัดการสาขา พวกเค้าไม่ใช่เด็ก  คุณไปแยกแยะ แล้วชี้จุดบกพร่องแบบนั้น คุณตายแน่ !   

ผมไม่ตายนะ เพราะผมอาวุโสพอ เค้าเกรงใจ  ถ้าผมสื่อสารกับเค้าแบบนั้นน่ะ.... โอเค   แต่ผมก็ไม่เคยซัดตรงประเด็นแบบนั้น   ข้อมูลของคุณที่แจ้งพวกเค้า เค้าหน้าหงายกันไปหมด"

"อ้อ.... ครับ !" สมชายตอบด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย เขานึกออกทันทีว่า ข้อมูลที่เขาวิเคราะห์แล้วส่งกลับให้สาขา คงแสดงศักยภาพมากกว่าที่เขาต้องการ 

"งั้น ผมคงต้องปรับครับ !"

"ใช่ ! คุณต้องปรับแน่นอน !  คุณต้องหาวิธีบอกข้อมูลพวกนี้ให้พวกเค้า แบบสุภาพ  มีลูกล่อลูกชน ไม่ใช่ใส่เข้าไปทื่อ ๆ แบบนั้น 

คุณกำลังอยู่ฝ่ายบริหารส่วนกลาง ไม่ใช่ออดิต  หน้าที่งานออเปอเรชั่น คือ ทำให้มันราบรื่นสำคัญที่สุด เรื่องความถูกผิด จุดรั่วไหล ให้ดูว่ามันกระทบงานประจำวันของสาขามากน้อยเป็นหลัก

อะไรยังไม่กระทบ ต้องปล่อยไปก่อน ออดิเตอร์เค้าถึงเวลา เค้าก็จะทำหน้าที่เค้าเอง"

"ครับ ! ผมจะปรับปรุงครับ"

"เดี๋ยวผมต้องออกไปข้างนอกก่อน ไว้ค่อยคุยกันต่อนะสมชาย"

"อ้อ ได้ครับ ! ขอบคุณครับ !"

ความมึนเกิดขึ้นในสมองทันที  เขาต้องบังคับรถเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน เพื่อแวะเข้าห้องน้ำล้างหน้า

****************************************************************************** 

ลมยามบ่ายสี่ พัดโกรกเป็นระยะ ๆ

สมชายยืนอยู่บริเวณสวนหย่อมเล็ก ๆ หน้าร้านสะดวกซื้อของปั๊ม เขาหยิบแว่นตากรอบทองกลับขึ้นสวม

ลมเย็นสบายช่วยคลายอารมณ์เครียดลงได้บ้าง

ก่อนหน้าวันนี้ เขาได้ใช้เวลาทั้งเดือน พูดคุยกับสาขาต่าง ๆ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ซักซ้อมกับคุณวรัญ กว่าจะได้ข้อสรุปมาเป็นแนวทางในการนำเสนอให้คุณศุภชัยในเช้าวันนี้

ก่อนสนทนาโทรศัพท์กับคุณวรัญ เขายังมั่นใจว่า แรงกายแรงใจที่ทุ่มเทไป น่าจะมีผลลัพธ์ในทางบวกต่อทัศนคติของคุณศุภชัย  ซึ่งแน่นอนว่า คุณวรัญ ก็จะรับรู้ และ สบายใจที่ได้รับคนที่มีประโยชน์ต่อองค์กรเข้ามาทำงาน

เขาไม่ได้ต้องการได้รับคำชม เขาเพียงแค่ ไม่ต้องการให้คุณวรัญได้รับคำตำหนิว่า รับคนที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาทำงาน

ผลลัพธ์ที่คาดไว้เพียงน้อยนิด กลับออกผลที่ต่ำกว่าคาดเสียอีก  

ผลงานของเขา คือ หน้าตาของคุณวรัญ คือ หน้าตาของเถ้าแก่ไพบูลย์  และ คือ หน้าตาของวรรณา  ไม่ใช่สิ ! ถึงแม้จะเป็นแค่ความนึกคิด แต่ เขาก็ควรคิดถึงชื่อเธอให้คุ้นว่า...กชมน 

การทำงานกับเถ้าแก่ไพบูลย์ย่อมแตกต่างจากการทำงานกับคุณวรัญ  ด้วยขนาดองค์กรที่แตกต่างกัน เขาจำเป็นต้องติดต่อประสานงานกับคนในองค์กรจำนวนมากมาย  ความน่าตื่นเต้น และ ความสนุก มันก็อยู่ตรงจุดนี้

ขณะเดียวกัน คนจำนวนมากมายเหล่านั้น ก็มีตำแหน่ง มีความอาวุโส มีความชำนาญ มากกว่าเขาทั้งนั้น  ความกดดันก็ย่อมตามมาด้วยเช่นกัน

คิดแล้วก็ทำให้นึกถึงคุณจินตนา  ผู้ดูแลด้านการเงินของเถ้าแก่ไพบูลย์ วันสุดท้ายของการทำงานที่นั่น คุณจินตนามองเขาด้วยสายตาที่แปลกไป เขาคิดว่า สายตานั้น มันมีความอบอุ่น และ ห่วงใย เหมือนกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งห่วงใยลูกหลาน

คุณจินตนา คือ ผู้ที่สร้างแรงกดดันอันดับหนึ่งในองค์กรเล็ก ๆ แห่งนั้น   แต่ที่องค์กรแห่งนี้ ความกดดันมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า  ทุกคนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่มีใครมีสายตาที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับคุณจินตนา

โลกทัศน์ของเขาได้เปลี่ยนไปอีกระดับหนึ่ง เมื่อเข้ามาทำงานกับคุณวรัญ   ยิ่งถ้าเทียบกับสองปีก่อนหน้าที่จะมาทำงานที่โคราช เขาคงเปลี่ยนไปเยอะมาก จนตัวเองเริ่มไม่คุ้นเคยกับภาพตัวเองในอดีต

ในอดีต เขาไม่เคยมีเวลาจะมาพิจารณาว่าใครเป็นยังไง รู้สึกอะไรในที่ทำงาน   แต่ สมชาย ณ วันนี้ รู้สึกถึงความเป็นอิสระ และ ความเป็นตัวของตัวเอง  เขามีเวลาเพียงพอที่จะสัมผัสได้ถึง สายตาแบบนั้นของคุณจินตนา 

นี่อาจจะเป็นความละเอียดอ่อนที่มีขึ้นในใจของคนที่รู้สึกเป็นอิสระ !

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ผู้เรียกเข้าคือ กชมน

"ใช้มือถือได้แล้วเหรอ ?"  สมชายเอ่ยคำทักทายด้วยคำถามทันที

"ใช้ได้ ! คุยได้หรือเปล่า ?"

"คุยได้"

"สองวันก่อน หมวยเล็กมาหาเรานะ ที่กรุงเทพ ฯ  โตแล้วน่ารักขึ้นเยอะเลย"

"อ้าว ! เข้ากรุงเทพ ฯ เหรอ ? ไม่เจอหมวยเล็กนานเท่าไหร่แล้วล่ะ ?"

"สามปีมั้ง ? นี่สมชาย เรามีเรื่องฝากหน่อยสิ คิดว่าสมชายช่วยได้"

"เรื่องอะไร ?"

"หมวยเล็กเล่าให้ฟังว่า เดือนหน้าต้องฝึกงานที่บริษัท สมัครไปสองที่ ที่นึงที่กรุงเทพ ฯ ที่นึงที่โคราช  เค้าอยากได้บริษัทที่โคราชมากกว่า เพราะจะได้พักที่บ้าน  เราได้ยินชื่อบริษัทแล้วก็นึกถึงสมชาย"

"บริษัทอะไร ?"

"เคทีที !"

แน่นอนว่า ชื่อนี้ เป็นชื่อบริษัทที่เขารู้จัก

"เคทีที อยู่เส้นบายพาสไปขอนแก่นใช่มั้ย ?"

"ไม่แน่ใจ แต่ได้ยินชื่อนี้ก็รู้แล้วว่าสมชายช่วยได้ สองสามวันนี้หมวยเล็กกลับไปโคราช ถ้าต้องนัดให้เค้าไปที่เคทีทีก็บอกกับเค้าเองได้"

เขาไม่ตอบรับ เพราะในใจก็รู้ดีอยู่ว่า ผลที่ได้อาจจะไม่คุ้ม

"เธอบอกหมวยเล็กไปแล้วเหรอ ว่าเราจะช่วยได้ ?"

"เปล่าหรอก ! สมชายยังไม่อยากกลับไปยุ่งกับอดีตล่ะสิ"

"อื้อ ! ตอนนี้มีอิสระดี  แฮปปี้แล้ว !"

"สมชาย.....  ตอนที่หมวยเล็กมาหาเราที่นี่ เค้าเล่าอะไรให้เราฟัง  เราอยากถามสมชายเรื่องนึง"

"หมวยเล็กไปเล่าอะไรให้ฟัง ?"

"เค้าก็เล่าชีวิตสมชายอีกด้านนึงที่เราไม่เห็นไง"

สมชายหัวเราะ

"ไม่เห็นมีอะไรเลย ส่วนใหญ่เราก็จะเล่าให้เธอฟังไปแล้ว ไม่มีอะไรแปลกใหม่"

"ใช่ไง ! ด้านที่เราไม่เห็น พอเราฟังแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่เลย  เราเลยคิดว่าสมชายน่ะ.... หมกมุ่น !"

เขาหัวเราะอีกครั้ง

"อ้าว เป็นงั้นไป ! หมกมุ่นเรื่องอะไร ?"

"หมกมุ่นเพราะกลัวว่าชีวิตจะกลับไปเหมือนเดิม  ตอนที่อยากเปลี่ยนตัวเอง ตอนนั้นก็หาอะไรใหม่ ๆ ทำให้มันลืมวันเวลาเก่า ๆ   ได้งานก็มุ่งแต่งานจะได้ลืมอดีต  ได้เรากลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง สมชายก็มีเพื่อนแค่เราคนเดียว ไม่คบหากับเพื่อนในอดีต  ฟังจากหมวยเล็กเล่านะ  ชีวิตสมชาย มีแค่งาน กับ เรา"

"อือ ก็ดีแล้วนี่ ! เราแฮปปี้ของเราแบบนี้"

"แล้วถ้าวันนึง ไม่มีเราล่ะ ?"

คำถามที่ได้ยินแล้วเริ่มสะเทือนใจได้ในเสี้ยววินาที  สมองเตรียมพร้อมอยู่แล้วที่จะฉายภาพวันที่เพื่อนสาวคนนี้ลาจากโลกไป  การสนทนากันครั้งหลัง ๆ เขาหยุดถามถึงอาการป่วยของเธอแล้ว เพราะคำตอบที่ได้ มันเป็นคำตอบเดิม ๆ ที่ไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความสุขมากขึ้น

คนที่ต้องตอบคำถาม ก็คงจะเบื่อ ในการเล่าว่า อาการโน่นนี่นั่น ยังคงอยู่   คนถาม เมื่อได้ฟังอาการเหล่านั้นซ้ำ ๆ จิตใจก็มีแต่หดหู่ลงไปเรื่อย ๆ

น้ำตาเริ่มออกมาคลอ เขาถอดแว่นตา หวังให้ลมโกรกนัยน์ตา

"อย่าถามประโยคแบบนี้อีก ขอร้อง !"

"เราถามด้วยความหวังดีนะ สมชายน่าจะเข้าใจ  หมกมุ่นเกินไปมันจะไม่ดี  รู้สึกอิสระแล้วก็น่าจะเปิดโลก ยอมรับอะไรใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต มีแค่งาน กับ เรา ไม่ได้....."

"ให้เราตัดสินใจเอง !" เขาพูดสวนขึ้น  "ถ้าคุยเรื่องนี้ เราคงไม่คุย เดี๋ยวต้องไปธุระต่อ ไว้ค่อยคุยกันใหม่แล้วกัน"

"อ้อ... ได้ ได้ ! ก่อนวางสาย ขอบอกอะไรหน่อย ลายมือข้างซ้ายของสมชายน่ะ ดีกว่าลายมือข้างขวาอีก ไม่รบกวนแล้ว"

กชมนตัดสายไปแล้ว

เพื่อนคงรับรู้ว่าเขากำลังไม่สบอารมณ์กับการสนทนา 

เขาเลือกที่จะจบการสนทนา ดีกว่าการตะโกนสวนกลับไปว่า  'หมวยเล็กไม่มีทางมาแทนเธอได้'   แต่ ประโยคสุดท้ายของเพื่อน ก็ยังคงแฝงกำลังใจ แนบกลับมาให้เขาได้สัมผัสอีกครั้ง

เมื่อคิดถึงเหตุผล ความกังวลใจก็กลับเข้ามาแทนที่  อาการป่วยของเพื่อนสาวคงต้องทรุดลงไปกว่าเดิม ถึงได้มีคำถามในเชิงสั่งเสียมาตั้งให้เขาต้องตอบ

เขากดโทรศัพท์โทรออกไปหาลูกสาวเถ้าแก่ไพบูลย์

ปลางทางรับสาย

"สวัสดีค่ะ ทามาดะซัง ! อย่าบอกนะว่ามาโคราช นี่หมวยเล็กอยู่ที่โคราช"

"ครับ ผมมาโคราช !"

"โอ๊ะ ! แล้วรู้ได้ยังไงว่าหมวยเล็กกลับบ้านวันนี้ ?"

"ผมคุยกับวรรณา วรรณาบอกครับ  พอดีวันนี้ ผมมีของฝาก อยากจะฝากเอาไปให้คุณจินตนา หมวยเล็กจะกลับบ้านกี่โมงครับ ?"

"ให้โกวจิน ! เกิดอะไรขึ้น ? จู่ ๆ ทำไมนึกถึงโกวจินล่ะ ? แล้วของหมวยเล็กไม่มีอะไรฝากเหรอคะ ?" สาวน้อยพูดด้วยเสียงสดใส

"หมวยเล็กอยากได้อะไร ? ผมเลี้ยงกาแฟได้ มีเรื่องจะถามหมวยเล็กด้วย"

"เรื่องอะไรเหรอคะ ? ถามมาได้เลย"

"ถามเรื่องเกี่ยวกับวรรณาน่ะแหละ หมวยเล็กได้ไปเจอพี่เค้ามาใช่มั้ย ?"

"ค่ะ ! งั้น นัดไปเจอกันที่ร้านกาแฟก็ได้  มีร้านกาแฟน่ารักจะพาทามาดะซังไปกิน พี่ต้องไม่เคยไปมาก่อนแน่เลย"

"ผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องร้านกาแฟหรอก หมวยเล็กบอกมาเลยว่าให้ไปเจอกันที่ไหน"

"ถนนอัษฏางค์ค่ะ !  ร้านนี้อยู่ในตรอกปลาทู รถเข้าไม่ได้  แต่เดี๋ยวหมวยเล็กส่งแผนที่ไปให้ พี่ต้องไปหาที่จอดรถแถวนั้นก่อน แล้วไปเจอกันหน้าตรอก"

"ได้ครับ ! เดี๋ยวเจอกัน !"

*********************************************************************************

 1< อ่านหน้า > 3, 4

สั่งซื้อนิยายหมอเถื่อนรวมเล่ม คลิ๊กที่นี่

กลับขึ้นด้านบน  อ่านตอนอื่น

 

 

 

 

 
Copyright © 2008, pendulumthai.com All rights reserved