ตอน 39 หน้า 1

วันล้างแอร์ (2)

 

 

 

โทรศัพท์มือถือของเขา ขึ้นข้อความจากญาติสาวให้โทรกลับ รุ่งโรจน์จึงหาเวลาสะดวกเพื่อโทรกลับ

"น้องวิ ว่าไง !"

ญาติผู้น้องรับสายแล้วรีบสนทนาตามที่คิดไว้

"มีสามเรื่องนะพี่รุ่ง น้องวิจะไม่ใช้เวลามาก พี่รุ่งจะได้ไปทำงานต่อ"

ญาติผู้พี่หัวเราะ

"ไม่ต้องรีบหรอก ! พี่โทรมานี่ก็เพราะมีเวลา คุยได้ ค่อย ๆ ว่ามาก็ได้ สามเรื่อง อะไรบ้าง ?"

"อ้อ ดีค่ะ ! น้องวิต้องลิสต์เรื่องที่จะคุยไว้ก่อน ไม่งั้น คุยกับพี่รุ่ง จะลืมเรื่องที่จะคุยทุกทีเลย นึกแต่เรื่องเดียว"

"หือ นึกแต่เรื่องอะไร ?"

"นึกแต่ว่า น้องวิคิดถึงพี่รุ่งจัง ฮิ ฮิ" เธอหัวเราะคิกคัก

"งั้น เรื่องแรก จะคุยเรื่องคิดถึงพี่ก่อนก็ได้นะ ว่ามาว่า อะไรทำให้คิดถึง ?"

"ง่า... เรื่องคิดถึงพี่รุ่งนั่นมันธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ เป็นน้องสาว ก็ต้องคิดถึงพี่ชาย ใครเป็นน้องสาวพี่รุ่ง ก็ต้องคิดถึงพี่รุ่งแน่นอน"

"อือ จ๊อดก็โชคดีเนอะ น้องวิคงคิดถึงเค้าเป็นธรรมชาติเหมือนกัน เฮอะ ๆ"

"น่านแหละ เรื่องของพี่จ๊อด หนึ่งในเรื่องที่น้องวิอยากเล่า พี่รุ่งเดาได้เก่งมาก ! แต่ เอาเรื่องอื่นก่อน"

"ว่ามา !"

"เรื่องแรก วันนี้ วันล้างแอร์ พี่แอนดี้ไปทำพิธีที่บ้าน คุณย่าจัดการนัดทุกคนไปเยี่ยมคุณพ่อที่โรงพยาบาล   แล้วไปกินข้าวกันต่อ แล้วให้คนดูแลบ้านบางคนลาหยุดงาน  คุณย่าเฉียบมากเลย ทุกคนก็เป็นไปตามแผนหมด แต่พลาดไปคนเดียว"

"ใครเหรอ ?"

"ต้น ! ต้นโทรมาหาน้องวิเมื่อกี๊ เค้าบอกว่าจริง ๆ เค้าต้องไปทำกิจกรรมกับเพื่อนเกษตร ฯ ที่ต่างจังหวัด ต้องออกแต่เช้า บอกทุกคนไว้แล้ว แต่ไม่รู้เป็นอะไร วันนี้เค้าดันไม่ตื่นตามเวลา ตื่นอีกทีก็สาย เลยบอกเพื่อนว่าไปไม่ทัน พอสาย ๆ เดินลงมาจากบ้าน ก็เจอพี่แอนดี้พอดี ความแตกเลย ฮ่า ๆๆๆ !"

"อ้าว ! แล้วยังไงเนี่ย ? พิธีก็ทำไม่ได้เหรอ ?"

"เปล่า ๆ ค่ะ ! ต้นบอกว่า พี่แอนดี้ให้ต้นอยู่ด้วยได้ ไม่เสียพิธีอะไรเลย กลับดีซะอีก เพราะต้นช่วยพี่แอนดี้ได้ ท่าทางเค้าจะสนุกนะ เค้าบอกว่าชอบคุยกับพี่แอนดี้ ไว้กลับไป ต้นจะเล่าให้ฟัง"

"อือ โชคดีที่เป็นต้นนะ"

"ช่าย ! ถ้าเป็นพี่ต่อนะ น้องวิไม่อยากจินตนาการเลยว่า มันจะวุ่นวายขนาดไหน"

เธอหยุดคิดหนึ่งอึดใจ ก่อนจะสนทนาต่อด้วยคำถาม

"พี่รุ่ง ! บ้านไตรสรณ์โดนของจริง เหมือนกับที่ต้นสงสัยใช่มั้ย ?"

"โห.... ! มาถามพี่ พี่ตอบไม่ได้หรอก ! รอฟังจากพี่แอนดี้ดีกว่า"

"ค่ะ ! น้องคนนั้นเป็นไงบ้างล่ะ พี่รุ่ง ?"

"น้องคนไหน ?"

"น้องคนที่ช่วยถอนของให้คุณพ่อน่ะ !"

"อ๋อ แพทตี้น่ะเหรอ ? เค้าโอเคแล้วล่ะ เค้าเก่งนะ แต่คืนนั้นก็เล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน ต้องให้พี่แอนดี้ไปฟื้นพลังให้"

"ใครกันนะที่ทำให้คุณพ่อเป็นแบบนี้ น่ากลัวจังเลย !"

"พี่เชื่อใจพี่แอนดี้ ถ้าน้องวิเชื่อพี่รุ่ง ก็ขอให้ไว้ใจพี่แอนดี้ พี่แอนดี้จะช่วยทุกคนได้"

"ค่ะ !"

"เข้าเรื่องที่สองเลย เรื่องพี่จ๊อด"

"อื้ม ! จ๊อดเป็นไง ?"

"เมื่อเช้าพี่จ๊อดโทรมาคุย น้องวิรู้สึกเป็นห่วง พี่จ๊อดท่าทางเครียด หลังจากที่เจอกับคุณย่าครั้งที่แล้ว พี่จ๊อดกลับไปคิดมาก ท่าทางจะเกลียดคุณย่ามากขึ้นอีก"

"ทำไมล่ะ ?"

"พี่จ๊อดบอกว่าคุณย่าตั้งใจทำลายชีวิตพี่จ๊อด แต่ที่พี่จ๊อดเล่าความรู้สึกมา น้องวิก็เห็นใจพี่จ๊อดเหมือนกัน มันก็เหมือนกับอามัณที่มากำหนดชีวิตของน้องวิว่า จะให้เรียนอะไร จบแล้วให้มีอาชีพอะไร มันก็เครียดแบบนึง แต่พอจะเข้าใจอามัณได้

แต่กับเรื่องคุณย่าที่ทำกับพี่จ๊อด อันนี้เข้าใจยากกว่า น้องวิก็ไม่เข้าใจคุณย่าเหมือนกันว่า ต้องทำกับพี่จ๊อดถึงขนาดนั้นด้วยเหรอ ? หรือว่า เพราะคุณย่ารักพี่รุ่งมากกว่า ก็เลยเขี่ยพี่จ๊อดทิ้ง ?"

"จ๊อดก็เลยเข้าใจไปว่า พี่จะไปแย่งทุกอย่างจากเค้า"

"ใช่ค่ะ ! ซึ่งเค้าไม่เข้าใจพี่รุ่ง แต่สถานการณ์แบบนั้น มันก็เข้าใจไปในทางอื่นไม่ได้ น้องวิไม่อยากให้พี่น้องกันต้องเกลียดกันเรื่องพวกนี้ ยังไงพี่จ๊อดก็เป็นน้องพี่รุ่ง เราเป็นญาติพี่น้องกัน ทำไมต้องมีเรื่องแย่งตำแหน่งอะไรแบบนี้กันด้วย ?"

"สองปีกว่าแล้ว จ๊อดยังไม่หายคาใจเรื่องนี้อีกเหรอ ?

"ไม่เลยค่ะ ! มันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

รุ่งถอนหายใจ

"น้องวิไม่อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้" เสียงของญาติผู้น้องสั่นเครือ เธอกำลังร้องไห้

"คุณพ่อก็ป่วย พี่จ๊อดก็ยังไม่กลับบ้าน ... ฮือ...." เธอเริ่มปล่อยโฮ

รุ่งไม่ขัด ปล่อยญาติผู้น้องระบายความเครียดออกมาทางน้ำตา

ญาติสาวเริ่มสนทนาต่อด้วยเสียงที่ยังสั่นเครือ

"น้องวิจะไปหาพี่จ๊อด อยากเจอพี่จ๊อดอีกครั้ง ไม่อยากให้พี่จ๊อดทำอะไรที่มากไปกว่านี้ น้องวิคิดว่า มีอยู่วิธีนึง ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ พี่จ๊อดอาจจะเปลี่ยนความรู้สึกได้บ้าง พี่รุ่งให้อภัยพี่จ๊อดด้วยนะคะ"

รุ่งตอบอย่างช้า ๆ ด้วยเสียงโทนต่ำ

"สบายใจเถอะ ! ไม่ต้องขออภัย ในชีวิตพี่ก็มีปัญหาของพี่เอง ปัญหาทั้งหมดที่มี ไม่มีอะไรที่จ๊อดเป็นต้นเหตุซักอย่าง เรื่องที่น้องวิเล่ามา ไม่เคยกระทบถึงพี่เลย"

"ขอบคุณพี่รุ่ง"

"เรื่องของจ๊อด ก็แก้ปัญหากันไปตามเหตุ  แต่ขอให้ตัดพี่ออกไปได้เลย  พี่ไม่เคยคิดเรื่องของจ๊อดในสมองเลย  เอาใจช่วยขอให้ทุกเรื่องจบได้ด้วยดีนะ"

"ค่ะ !  งั้น เรื่องสุดท้าย  คนไข้พี่รุ่งที่บางพลี !"

คนไข้ที่บางพลี !

แค่วลีนี้ ก็ทำให้หมอเถื่อนที่ชื่อรุ่งโรจน์รู้สึกเสียวสันหลัง การประเมินต้นเหตุของโรคที่ผิดพลาด จึงบอกวิธีการบำบัดที่ไม่ตรงต้นเหตุ  บำบัดแล้ว กลับทำให้อาการของโรคกำเริบมากขึ้น

มันเป็นความทรงจำ ที่ไม่น่าประทับใจ  ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะจำให้รกสมอง  แต่ หากคนไข้ได้รับผลร้ายจากการให้คำแนะนำที่ผิดพลาดของเขา  เขาคงจำเป็นต้องยอมรับความจริง

หมอเถื่อนพยายามตั้งสติ แล้วพูดช้า ๆ

"คนไข้ที่บางพลี .... เค้า..... ไม่รอดแล้วใช่มั้ย ?"

น้องวิ เงียบไปสักพัก แล้วตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา

"ช่ายค่ะ ! เค้าไม่รอดแล้ว !"

หัวใจของหมอเถื่อนสลายลงในทันที  

ณ วินาทีนี้  สติต้องทรงอยู่ให้ได้   อนิจจังคือ คำตอบสุดท้าย  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาต้องรับได้

รุ่งมีสติที่ดีพอ เขาสูดหายใจยาวอย่างช้า ๆ แล้วถามกลับ

"ศพตั้งอยู่ที่วัดไหน ?"

วิภวา ขึ้นเสียงสูง

"พี่ รู่....งงง !  ศพใคร อยู่วัดไหน ?  ทำไมพี่รุ่งประเมินตัวเองต่ำขนาดนั้นล่ะ ?"

ความฉงนจู่โจมสมองทันที

"หา...!!! ตกลง คนไข้คนนั้น รอด หรือ ไม่รอด ?"

"ไม่รอดไงคะ !  เพราะเค้าเจอพี่รุ่ง เค้าเลยไม่รอดไง !"

"อ้าว ! ไม่รอด ก็เสียแล้วหรือยังไง ? หรือ ยังไม่เสีย  โคม่าอยู่เหรอ ?"

"ไม่รอดจากฝีมือหมอรุ่งไง !  เจอหมออื่น รอดมาตลอดเลย  ไม่เคยมีใครเอาอยู่ไง  เจอหมอรุ่ง ไม่รอด จอดเลย !"

ญาติผู้พี่ ยกมือขึ้นเกาหัว

"เอาไงกันแน่ !  นี่พี่ซีเรียสนะ น้องวิ !   ตกลง คนไข้คนนั้น เค้าหาย หรือว่าตาย ?"

เสียงญาติผู้น้องหัวเราะมาตามสาย

"ไม่ตายค่ะ ไม่ตาย ! เค้าดีขึ้น  แต่เรียกว่าหายหรือเปล่าเนี่ย พี่รุ่งไปเจอกับเค้าเองนะคะ  น้องวิจะนัดพี่รุ่งให้เจอกับเค้าอีกครั้ง แล้วพี่รุ่งช่วยดูให้เค้าอีกทีว่า เค้าหายหรือยัง"

หมอเถื่อนถอนหายใจยาว เสียงดังฟืดเข้าไปในโทรศัพท์

"โธ่ ! ใจหายหมด !"

น้องวิยังหัวเราะคิกคัก

"ก็นี่ไงคะ เรื่องที่สาม น้องวิจะนัดพี่รุ่งให้เจอกับเค้าอีกครั้ง พี่รุ่งสะดวกวันไหน ค่อยบอกมานะ"

"อือ ๆ ได้ !  ล่อซะใจเสียหมด  วันอาทิตย์นี้พี่ว่าง นัดได้เลย"

"อาทิตย์นี้ ได้ค่ะ ! เดี๋ยวน้องวิถามเค้าก่อนว่าสะดวกหรือเปล่า ยังไงจะแจ้งพี่รุ่งอีกครั้ง หมดเรื่องรบกวนพี่รุ่งแล้ว น้องวิขอทูลลา"

อย่างน้อยวันนี้ก็มีข่าวดีเล็ก ๆ 

คนไข้ที่เขาเคยคิดว่าประสบความล้มเหลวจากการใช้ลูกดิ่งต้นหาต้นเหตุของโรค กลับผิดคาดในทางที่ดี 

เทวดาองค์ใดที่เป็นผู้สงเคราะห์เขาผ่านสื่อลูกดิ่งเพนดูลั่ม ขอให้เทวดาองค์นั้นโมทนาบุญจากการนี้ด้วย

***************************************************************************************

โทรศัพท์มือถือของฐิติชญา ขึ้นชื่อผู้โทรเข้า คือ นิมิต เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ ที่ดูแลด้านการป้องกันการโจมตีทางด้านไอที (Cyber Defense)

ทอมขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ  นิมิตไม่เคยติดต่อเธอด้วยเรื่องส่วนตัว ทุกครั้ง จะเป็นเรื่องงานทั้งสิ้น 

ตั้งแต่โครงการของ NLT กับ กองทัพไทยต้องหยุดพักไป เพราะ มีการเปลี่ยนตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลไทย เธอก็ไม่ได้รับการติดต่อจากนิมิตอีกเลย

ฐิติชญากดรับสาย

"พี่นิมิต หวัดดีค่า"

"ญา ผมคุยได้หรือเปล่า ?"

"สะดวกค่ะ คุยได้ !"

"ญา กับ พี่จิตรไม่ได้รับโค้ดจากเอ็นแอลทีเหรอ ?"

"หือ โค้ด เหรอคะ ?" เธอนึกถึงข้อความจากหน่วยงาน NLT ที่เธอเคยได้รับแล้วแปลความหมายไม่ออก

"drop the river โค้ดนี้ใช่หรือเปล่าพี่นิมิต ?"

"ไม่รู้ อย่าถามผมเลย เพราะเวลาเค้าส่งโค้ด เค้าส่งให้เฉพาะคนที่เกี่ยวข้องอ่านเท่านั้น คนไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้รับ มันเป็นโค้ดส่วนตัว ตัวเองรู้ของตัวเองเท่านั้น"

เธอคิดแล้ว ยิ่งสงสัย

"อ้าว ! แล้วพี่นิมิตรู้ได้ยังไงว่า ญาได้รับโค้ดคะ ?"

"ผมน่ะไม่รู้หรอก ! แต่ที่โทรไปเตือน เพราะ โธมัสกับผมติดต่อกันอยู่ 

เรื่องมันยาว คือ ผมน่ะ ได้รับบรรจุให้เป็นข้าราชการของกระทรวงกลาโหมแล้ว  แต่ญาเองน่ะ ต้องรีบจัดการเรื่องโค้ดที่ได้รับ เพราะถ้าเค้าสั่งงานมาในช่วงที่เป็นสุญญากาศ

คือ ผู้ใหญ่ฝ่ายเราเปลี่ยนหัว ลำตัวก็ต้องเปลี่ยนคนไปด้วย  

เอ็นแอลทีก็ต้องการปิดโครงการที่เราทำเป็นความลับไว้ก่อน  จะสั่งคำสั่งผ่านช่องทางทหารไม่ได้ ก็สั่งตรงมาที่หน้างานเลย โดยส่งมาให้เป็นโค้ด 

ซึ่งจริง ๆ หัวหน้าทีม คือ พี่จิตร ต้องได้รับโค้ด แล้วมีหน้าที่เช็คความหมาย แล้วค่อยมอบหมายให้คนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตาม 

แต่เมื่อพี่จิตรเช็คโค้ดแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติ  ทางโน้นเลยส่งโค้ดมาหาญาเอง เมื่อญาได้รับโค้ด แล้วต้องล็อกอินเข้าเซิฟเวอร์ จะรู้ความหมาย"

คำพูดของนิมิต ทำให้เธอรู้สึกกังวลทันที

"ตายละ !  ได้รับโค้ดมาตั้งนาน ญาไม่ได้ล็อกอินเข้าไปดู"

"ไม่ได้ล็อกอินได้ยังไง ? โธมัสบอกว่า โค้ดนี้ได้รับการล็อกอินเข้าไปเช็คความหมายแล้ว  แล้วป่านนี้ ญายังไม่ได้ดำเนินการตามแอสไซน์เม้นท์ ซึ่งตอนนี้ เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว"

"เรื่องอะไรคะ ?  ความหมายโค้ดคืออะไร ถึงต้องเป็นเรื่องใหญ่ ? พี่นิมิตรู้ความหมายหรือเปล่า ?"

"ไม่รู้ !  โค้ดคนอื่น ผมไม่รู้หรอก  โธมัสไม่ได้บอก แค่บอกว่า พี่จิตร กับ ญาไม่ยอมทำตามคำสั่งที่ได้รับ  เลยให้ผมโทรมาถามว่า เกิดอะไรขึ้น ได้รับโค้ดแล้วทำไมไม่ทำตามแอสไซน์เม้นท์"

เธอจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า พิจิตร ก็ได้รับโค้ดเดียวกับเธอ แต่เธอไม่ควรบอกนิมิตไปอย่างนั้น เพราะไม่ต้องการให้นิมิตรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพิจิตร

"ถ้างั้น เดี๋ยวญาจัดการหาวิธีล็อกอินเข้าไปเช็คเอง   เมื่อกี๊พี่นิมิตบอกว่า พี่ได้บรรจุแล้ว หมายถึง โครงการเอ็นแอลทีกับกองทัพไทย รัฐมนตรีคนใหม่อนุมัติให้ดำเนินการต่อเหรอคะ ?"

"รัฐมนตรีใหม่ อนุมัติในหลักการ เรื่องทำงานร่วมกัน แต่ในรายละเอียด ยังไม่ได้พิจารณา 

นโยบายของรัฐมนตรีคนใหม่ ก็เปลี่ยนใหม่ หัวหน้าโครงการก็คงเปลี่ยน ไม่ใช่ผู้พันทรงยศ  เป็นใครต้องรอให้เจ้ากระทรวงคนใหม่คุยกับทางกองทัพ"

"อ้อ ค่ะ ! แล้วพี่นิมิตยังต้องทำงานเกี่ยวข้องกับเอ็นแอลทีอยู่หรือเปล่าคะ ?"

"เกี่ยวสิ ! ที่กระทรวงกลาโหมบรรจุผมเข้าได้ เพราะจะให้ผมรับงานไซเบอร์ดีเฟ้นซ์นี่แหละ แต่เอ็นแอลทีที่จะร่วมงานกันใหม่ ก็คงจะหาคนทำงานใหม่"

"อ้าว ทำไมพี่จิตร กับ ญา ถึงต่อสัญญาไม่ได้ล่ะ ? ก็เราทำงานมาตั้งสองปี รู้งานดีกว่าใคร จะต้องไปรับคนใหม่ ฝึกใหม่ ไม่เสียเวลาเหรอคะ ?"

"เรื่องญาน่ะ ผมคิดว่าต่อสัญญาได้นะ  แต่พี่จิตรนี่ ไม่ได้แน่ ๆ"

"เอ๋อ... แปลก ! พี่จิตรกับญา แตกต่างกันยังไงคะ ? พี่จิตรเป็นหัวหน้าด้วยซ้ำ น่าจะสำคัญที่สุด"

"ก็คงงั้นมั้งครับ ทางกระทรวง ฯ ก็เลยเข้มงวดหน่อย อยากให้ตำแหน่งหัวหน้าส่วนงานนี้ เป็นคนกลาง"

ยิ่งได้ฟัง ยิ่งเพิ่มความฉงนแก่ฐิติชญา

"คนกลาง ! คนกลางคืออะไรคะ ? พี่จิตรอยู่ฝ่ายไหนเหรอ ถึงไม่เป็นกลาง ? เป็นไปได้ยากแล้วค่ะ จะหาคนที่เก่งกว่าพี่จิตร   พี่จิตรนี่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลย  ทั้งยังมีทัศนคติที่ดีมาก เสียสละ หรือว่า..."

เธอชะงัก เมื่อนึกถึงกฏระเบียบข้อที่ห้าม ผู้บังคับบัญชา กับ ผู้ใต้บังคับบัญชา ชอบพอกันอย่างคนรัก

"เอ่อ... อันนี้ผมรู้มาจากคนในกระทรวงอีกที 

พี่จิตรเป็นคนของพลเอกวสันต์ ซึ่งถูกจับยัดให้เข้ามาตำแหน่งนี้ได้ โดยนายพลวสันต์เป็นคนคุยกับคุณโธมัส 

ตอนนั้นทางเอ็นแอลทีของเยอรมันเองก็ต้องยอม เพราะทางโน้นก็อยากได้โปรเจกค์ของกองทัพไทย ไม่งั้น ก็ต้องค้นหาคนอื่นที่มีคุณสมบัติตรงกว่านี้

พี่จิตร มีคุณสมบัติไม่ครบ ตามข้อกำหนดของทางเอ็นแอลที !"

ทอมหัวเราะ

"คุณสมบัติข้อไหนคะ ที่ไม่ตรง ? เป็นไปไม่ได้หรอก !  

คุณสมบัติของพี่จิตร ดีกว่าญาตั้งเยอะ  ถ้าพี่จิตรไม่ควอลิฟาย  ญาเองก็คงต้องปิ๋วไปด้วย 

แล้วถ้าเอ็นแอลทีไม่รับ  แต่พี่นิมิตก็ให้ทางกระทรวงกลาโหมบรรจุได้   ถ้างั้น กระทรวง ฯ ก็รับพี่จิตรได้  แต่ ทำไม กระทรวงไม่ติดต่อพี่จิตรก่อนพี่นิมิตล่ะ ?"

เสียงปลายทางถอนหายใจ

"ญาอย่าเพิ่งเป็นห่วงพี่จิตรขนาดนั้นเลย  ญาเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ !

ญายังถือว่าเป็นลูกจ้างของเอ็นแอลทีเยอรมันอยู่ ก็ต้องทำตามหน้าที่ 

เช็คโค้ดก่อนว่า ได้รับแอสไซน์เม้นท์อะไร   ญาเองอาจจะได้ต่อสัญญาก็ได้ ถ้าปฏิบัติหน้าที่ได้ดี   เรื่องของพี่จิตรน่ะ ไว้ให้พี่จิตรแก้เองเถอะ !"

ทอมหัวเราะเบา ๆ

"เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ พี่นิมิต  ถ้าพี่จิตรไม่ได้ต่อสัญญา ญาก็ไม่มีทางได้ต่อหรอก  คนที่มีค่าต่อกองทัพไทยที่สุด คือ  พี่จิตร  คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนที่สุดสำหรับเอ็นแอลที ก็คือพี่จิตรอยู่ดี ไม่ว่าจะมองในมุมไหน  พี่จิตร คือ บุคลากรที่ทั้งสองแห่งต้องการตัว"

นิมิตกลับหัวเราะ

"อือ ! ฮะ ๆ ! อันนี้ก็ต้องรอดูผลกันนะ ผมก็แค่เตือนตามที่โธมัสแจ้งมาเท่านั้น  ยังไงญาก็ลองดูโค้ดแล้วกัน"

"ได้ค่ะ ได้ ! ขอบคุณพี่นิมิตที่โทรมาแจ้ง"

โทรศัพท์จากนิมิต ทำให้ฐิติชญานึกถึงบรรยากาศการทำงานของ เธอ นิมิต และ พิจิตร กับหน่วยงาน NLT ที่เยอรมัน เวลาสองปีนั้นช่างเป็นเวลาที่สนุก และ มีค่าเกินกว่าที่จะเล่าให้คนอื่นเข้าใจได้

นิมิตใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องปฏิบัติการไอทีของเอ็นแอลที  ในขณะที่เธอ กับ พิจิตร ใช้เวลาด้วยกันกับการศึกษาผลิตภัณฑ์ในรายละเอียด ทั้งคุณสมบัติ และ วิธีใช้งาน  ทั้งฮาร์ดแวร์ และ ซอฟท์แวร์

ถึงแม้นิมิตจะใช้เวลากับพิจิตรไม่มากเท่าเธอ  แต่นิมิตก็ให้เกียรติพิจิตรในฐานะหัวหน้าทีม และ ในฐานะผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา

ช่วงเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ หลายครั้ง ที่ทั้งสามคนใช้เวลาร่วมกัน ช็อปปิ้งบ้าง เที่ยวต่างเมืองบ้าง  เธอแน่ใจว่า ระหว่างนิมิต กับ พิจิตรแล้ว ทั้งสองคน มีแต่ความรู้สึกที่ดีต่อกัน

แต่คำว่า 'ถูกจับยัด' ที่นิมิตพูดถึงพิจิตร เธอคิดว่าคำนี้ น่าจะแรงเกินไปสำหรับคนที่มีความสามารถสูงอย่างพิจิตร

'จับยัด' น่าจะหมายถึง การเอาใครที่ไหนก็ไม่รู้ มารับตำแหน่งโดยที่เขาไม่มีความสามารถในการทำงานเลย  ศัพท์คำนี้ จึงเป็นการดูถูกพิจิตรมากเกินไป

***********************************************************************************

ฐิติชญาค้นบันทึกวิธีการล็อกอินเข้าไปดูความหมายโค้ด  พบว่า สิ่งที่ต้องใช้สำหรับการยืนยันตัวตน คือ ชื่อที่ถูกต้องตามพาสปอร์ต และ รอรับรหัสผ่านจากอีเมล์บัญชีที่เคยแจ้งให้ NLT บันทึกไว้

เมื่อได้รับรหัสผ่านทางอีเมล์  เธอสามารถเปิดดูความหมายของโค้ด "drop the river"

ความหมายของ the river คือ สถานเอกอัคราชฑูตประจำประเทศนั้น ๆ

ความหมายเต็มของ drop the river ใช้ในสถานการณ์ที่

หากหน่วยงาน หรือ กองทัพของ ประเทศที่ร่วมโครงการกับ NLT เกิดสถานะเปลี่ยนจาก 'ร่วมงาน' เป็น 'เลิกล้ม' หรือ 'พักการร่วมงาน'   และ ประเทศนั้น ๆ ไม่มีกองกำลัง Bundeswehr (บุนเดสแวร์ = Military of Germany กองทัพเยอรมันนี) ประจำการอยู่

ให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับโค้ดนี้ นำอุปกรณ์ที่เป็นทรัพย์สินของ NLT ทั้งหมด ไปคืนให้แก่

หน่วยงาน Militärattachéstab (Military Commissioner ฝ่ายกรรมาธิการทหาร) ณ สถานเอกอัคราชฑูต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศนั้น  ภายใน 48 ชั่วโมง

ทอมเกิดความกังวลขึ้นทันที เพราะ เป็นเวลาหลายวันแล้ว ที่เธอได้รับโค้ดนี้จากหน่วยงาน NLT จนป่านนี้  อุปกรณ์เหล่านั้น ก็ยังอยู่ในความครอบครองของ เธอ และ พิจิตร   ไม่มีใครได้ปฏิบัติตามโค้ดนี้

แต่... ถ้าพิจิตรได้รับโค้ดนี้เช่นกัน เหตุใดเขาจึงไม่ล็อกอินเข้าไปตรวจสอบความหมาย ?

***********************************************************************************

อ่านหน้า > 2, 3, 4

สั่งซื้อนิยายหมอเถื่อนรวมเล่ม คลิ๊กที่นี่

กลับขึ้นด้านบน  อ่านตอนอื่น 

 

 

 

 
Copyright © 2008, pendulumthai.com All rights reserved