ตอน 39 หน้า 3

วันล้างแอร์ (2)

 

 

แอนดี้เดินตรงผ่านบ่อปลา ไปทางสวนหย่อม

เมื่อพ้นสวนหย่อม ก็เห็นโรงเก็บของอยู่ข้างหน้า  เสียงเห่าของสุนัขดังมาจากในโรงเก็บของตลอด

หน้าประตูโรงเก็บของ เต็มไปด้วยแมวจรจัด ที่เดินไปเดินมาอยู่ทั่วบริเวณ

ต้น กับ คนสวนชายสองคน คนหนึ่งยังอยู่ในวัยหนุ่ม อีกคนหนึ่ง อายุประมาณเกือบหกสิบปี ทั้งสองคนถือท่อนไม้ในมือ กำลังยืนคุยกับต้นอยู่ห่างจากกลุ่มแมวไม่กี่ก้าว

เมื่อเห็นแอนดี้ปรากฏตัวขึ้น ต้นก็พูดขึ้นทันที

"พี่แอนดี้ แมวพวกนี้มันรู้ได้ไงว่า เราจะมาที่นี่ ? พอเดินเข้าไปใกล้ มันร้องขู่ลั่นเลย"

แอนดี้ยกมือห้าม

"ต้นอย่าเข้าใกล้ มันกัดแน่"

เสียงเห่าของสุนัขจากโรงเก็บของดังกลบเสียงแมว 

แอนดี้เดินตรงฝ่ากลุ่มแมวพวกนั้น  แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่เขาคาด

ฝูงแมวเริ่มจู่โจม

แมวลายเสือตัวหนึ่งเข้ามางับที่ชายกางเกง  แมวดำอีกตัวกระโจนสูงขึ้นมาเกาะที่แขน แล้วข่วน

แอนดี้สะบัดทั้งมือ และ เท้า

ต้นตะโกนบอกคนสวน

"พี่เป้า ลุงพล เข้าไปช่วยหน่อย เร็ว !"

คนสวนทั้งสอง ถือไม้แล้วเดินฝ่าเข้าไปในวงล้อมแมว  มือก็ตวัดดุ้นไม้เพื่อไล่แมว

แมวจรจัดสองสามตัวโชคร้าย โดนปลายไม้ของหนุ่มเป้าฟาดเข้า ร้องลั่น

ลุงพลรุดไปยืนข้างหน้าแอนดี้ แล้วเหวี่ยงไม้กันให้  แต่การปราบกลุ่มแมวโดยใช้แค่ไม้สองท่อน ดูเหมือนจะประเมินค่าอันธพาลกลุ่มนี้ต่ำเกินไป

แมวสองตัว โดดลงมาจากหลังคาโรงเก็บของ ตัวหนึ่ง เกาะเข้าที่คอของลุงพล  แยกเขี้ยวกำลังจะงับที่คอ  อีกตัวเกาะอยู่ที่กลางหลังของสิงห์ต้าลู่

แอนดี้มือไว ตะปบหลังแมวที่อยู่บนคอของลุงพลก่อนที่มันจะฝังเขี้ยวลงในเนื้อ  เขาจิกแมวตัวนั้นออกจากคอลุงคนสวนแล้วเหวี่ยงมันกระเด็นออกไป

เป้าชี้ไปที่แมวที่กำลังกระโจนไต่จากกลางหลังขึ้นใปบนหัวแอนดี้  

ทิดเอกหมุนตัวเหวี่ยงพร้อมกับสะบัดหัวด้วยความเร็ว แมวถูกเหวี่ยงลงบนพื้น  ทันทีที่มันลงสู่พื้น ปลายด้ามไม้ของหนุ่มเป้าก็เหวี่ยงกระทบเข้าที่กลางหลัง

'พลั่ก !' แมวร้ายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด

ท่อนไม้เพียงสองท่อน ไม่เพียงพอกับการต่อกรกับแมวจำนวนมาก ซึ่งฉลาดพอที่จะเพิ่มกลยุทธ์การโจมตีทางอากาศ เพื่อเสริมกองกำลังภาคพื้นดิน

แมวแยกกลุ่มกันกระโจนขึ้นกำแพง แล้วกระโดดต่อไปที่หลังคาโรงเก็บของ

กลยุทธ์การโจมตีทางอากาศเริ่มขึ้นอีกครั้ง

แมวสีขาวตัวโต ดิ่งเวหาจากหลังคา พุ่งลงมาอย่างเร็ว เล็บจิกเข้าที่หัวไหล่ของเป้า แต่ก่อนมันจะทรงตัวบนไหล่เขาได้ เป้าก็รีบสะบัดจนมันตกลงมา

แมวเทาตัวขนาดย่อม กระโจนจากหลังคา เป้าหมายคือ ลำคอของสิงห์ต้าลู่  แมวทิ้งตัวลงอย่างแม่นยำที่ต้นคอ

'พลั่ก !" กรงเล็บเกาะแน่นกับเสื้อเชิ้ต

ด้วยสัญชาตญาณ แอนดี้สะบัดไหล่ แล้วพยายามคว้ามือขึ้นจับให้โดนตัวแมว ก่อนที่แมวจะกัด เจ้าแมวยกขาหน้าขึ้นปัด

เป้าตะโกนขึ้น

"คุณ ๆ ! เอามือลง เอามือลง !"

แอนดี้เห็นเป้ากำลังยกดุ้นไม้จ้องอยู่  เขาเอามือลง

"เล็งดี ๆ นะ น้อง !" แอนดี้ตะโกน

เป้าตวัดปลายดุ้นไม้ หวดขึ้น

'โพล๊ะ !' ปลายไม้โดนหัวแมวเทาอย่างเต็มที่ มันร่วงหล่นจากตัวแอนดี้ แล้วรีบวิ่งออกจากกลุ่ม

แอนดี้ตะโกนขึ้น

"ถอยออกมาให้ห่างจากหลังคา"

มนุษย์ทั้งสามชีวิต จำเป็นต้องถอยออกมาตั้งหลักให้ห่างจากโรงเก็บของ  เพราะเจอยุทธการดิ่งเวหาของแมวร้าย

เสียงเห่าของสุนัขสามสายพันธุ์ จำนวนหกตัวยังดังลั่นมาจากข้างในโรงเก็บของ

แอนดี้ควักผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมา แล้วยื่นไปซับที่บริเวณหลังใบหูของลุงพล

"รอยข่วน มีแลือดออก !" แอนดี้พูดขึ้น

ลุงพลจับผ้าเช็ดหน้า แล้วคลำ ๆ ที่หลังใบหู เขาก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนข่วน  หยิบผ้าเช็ดหน้ามาดู เห็นรอยเลือด

"ขอบคุณครับ ! ผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดเลย เสียดายผ้าเช็ดหน้า" ลุงคนสวนพูดเสียงเหน่อ

แอนดี้พยักหน้า

"ไม่เป็นไรครับ !"

"พี่แอนดี้  ต้นนิมนต์หลวงพี่มาช่วย !"

เสียงต้นตะโกนมา  เขาเดินกลับมาพร้อมพระโป่งที่ถือย่ามมาด้วย

แอนดี้ยกมือไหว้

"นิมนต์หลวงพี่มาช่วยนั่งดูผมกัดกับแมว"

หลวงพี่เดินมาถึงบริเวณที่คณะสู้แมวทั้งสามคนกำลังยืนอยู่

"ก็คุณไม่บอกผมนี่ว่าจะมาทำอะไร จู่ ๆ ก็เดินออกมาซะงั้น  ไอ้ผมจะไปรู้เรอะ ไม่ได้มีเจโต ฯ จะได้อ่านจิตคุณออก"

แอนดี้ชี้ไปที่กลุ่มแมว

"แมวพวกนี้นี่ ถือว่าถูกสั่งมาใช่มั้ยครับ ?"

หลวงพี่มองไปที่แมว แล้วพยักหน้า

"ใช่ ๆ !  พวกนี้รับจ๊อบมา"

แอนดี้หัวเราะในศัพท์ของหลวงพี่

พระโป่งถาม

"คุณบอกผมมาดีกว่า ว่าคุณจะทำอะไร ทำไมถึงต้องไปทะเลาะกับมัน ?"

แอนดี้ชี้มือไปที่โรงเก็บของ

"ผมจะไปที่ประตูนั่นครับ แต่พวกแมวมันขวางอยู่ เลยต้องรบกับมัน"

ศิษย์พี่พยักหน้า

"เข้าใจละ !  ไอ้เสียงเห่านี่ เพื่อนคุณทั้งนั่นสินะ ในโน้นน่ะ ?"

แอนดี้พยักหน้า หันไปยักคิ้วให้ศิษย์พี่

"เหมือนเดิมนะ หลวงพี่พรมน้ำมนต์ให้ผมนะ"

เป็นสัญญานที่เข้าใจกัน  เมื่ออดีตที่เคยธุดงค์ด้วยกัน พระโป่งเคยเสกคาถาเป่ากระหม่อมให้พระเอก เดินฝ่าดงงูสำเร็จมาแล้ว

สิ้นคำนับสาม แอนดี้ตั้งจิต สวดมนต์ บทขันธปริตรในใจ โดยไม่ต้องหลับตา

ส่วนพระโป่ง สวดออกเสียง

"วิรูปักเขหิ เม เมตตัง....."

เมื่อพระโป่งร่ายบทสวดถึงช่วงสรรเสริญคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  แอนดี้เริ่มพนมมือขึ้นจรดหน้าผาก

"....อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ..."

หลวงพี่สวดท่อนสุดท้าย

"....นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง"

แอนดี้ชะโงกหน้าเข้าใกล้ศิษย์พี่เพื่อรอรับการเป่า 

โดยไม่คาดคิด พระโป่งเป่าลมพร้อมน้ำลายพรวด พุ่งกระจายเต็มหน้าทิดเอก

ต้นหัวเราะลั่น

"ฮ่า ๆๆๆ !"

ฆราวาสที่เพิ่งได้รับน้ำมนต์ทำตาเหลือก

"ทำไมมีน้ำลายติดมาด้วยล่ะครับ ?"

พระโป่งนึกขำตัวเอง หัวเราะออกมา

"เอ๊อะ ! ฮ่า ๆๆๆ ! มันกลั้นไม่อยู่ว่ะ !  ไม่เป็นไร รับทั้งลมทั้งน้ำ ศักดิ์สิทธิ์ดีนัก หรือ คุณจะเอาเสลดด้วย  ขา......ก !"

แอนดี้ยกมือห้ามเมื่อพระโป่งทำท่าขากเสลด เสียงดังลั่น

"ไม่ ๆๆๆ ! ไม่ต้อง หลวงพี่ !  เหม็นขนาดนี้ แมวคงทนไม่ไหวแล้วล่ะครับ"

พระโป่งมองตรงไปที่ประตูโรงเก็บของ แล้วก็ก้าวเท้าเดินนำ

"คุณตามผมมา !"

ทิดเอกเดินตามโดยไม่ถาม เอื้อมมือเกาะย่ามของศิษย์พี่ไว้อย่างหลวม ๆ

เมื่อเท้าของพระผู้ทรงอภิญญาก้าวเข้าในเขตวงชุมนุมของหมู่แมวรับจ๊อบ  แมวต่างหลีกทางให้  แยกเขี้ยวขู่ เสียงร้องดังลั่น แต่ไม่มีแมวตัวไหนกล้าจู่โจม

แอนดี้เดินตามหลังศิษย์พี่อย่างกระชั้นชิด เขาเงยหน้าขึ้นมองบนหลังคา  แมวจรจัดไม่ต่ำว่าสี่ตัว เกาะอยู่ที่คานใต้เพดาน

หากพวกมันดิ่งพสุธาจู่โจมมาพร้อมกัน  คงยากที่จะไม่เสียเลือดเนื้อกันแน่

ไม่กี่ก้าวที่เดินฝ่าวงล้อมแมว พระโป่ง และ แอนดี้ ก็เดินมาถึงประตูโรงเก็บของ

ต้น กับ คนสวนสองคน เห็นเหตุการณ์เป็นที่น่าอัศจรรย์  ฝูงแมวที่ยังแสดงทีท่าเกรี้ยวกราดดุร้าย  กลับได้แต่แยกเขี้ยว ร้องขู่  แต่ไม่มีตัวไหนกล้าเข้าไปใกล้พระโป่ง และ แอนดี้

แอนดี้จับลูกบิดประตู เปิดประตูโรงเก็บของ

ทันทีที่ประตูเปิด เสียงเห่าของเหล่าสุนัขก็ทวีความดังขึ้นอีกสองเท่า

ฝูงแมวจรจัดที่อยู่หน้าโรงเก็บของ ต่างวิ่งอย่างเร็วออกไปตั้งหลัก  รวมกลุ่มอยู่ที่บริเวณใกล้สวนหย่อม ห่างจากโรงเก็บของประมาณยี่สิบเมตร

พระโป่งยืนอยู่หน้าโรงเก็บของ  แอนดี้รีบเข้าไปในโรงเก็บของ แล้วปลดตะขอสุนัขทีละตัว

เริ่มต้นด้วยโดเบอร์แมน  เมื่อตะขอถูกปลด  โดเบอร์แมนตัวแรก วิ่งออกจากโรงเก็บของ  เมื่อสายตากวาดไป  ตามกลิ่นที่จมูกรับรู้ มองเห็นกลุ่มแมวที่อยู่ข้างหน้า  มันทะยานตัวอย่างเร็วพุ่งเข้าสู่จุดหมาย

โดเบอร์แมนตัวที่สอง วิ่งตามมาติด ๆ

เยอรมันเชฟเฟิร์ดเป็นตัวที่สาม  เสียงเห่าของมันดังก้องอย่างน่ากลัว

บัดนี้ แมวจรจัดที่ได้ทำตัวเป็นเจ้าถิ่นอยู่ชั่วคราว กลับวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

เยอรมันเชฟเฟิร์ดตัวที่สอง กับ ร็อตไวเลอร์ ทะยานออกจากโรงเก็บของ วิ่งไปร่วมกับเพื่อนสุนัข ไล่ล่ากลุ่มแมวอันธพาล

แอนดี้เดินมาอยู่ที่หน้าโรงเก็บของ แล้วตะโกนลั่น

"ที่สนามหญ้าตึกใหญ่  ไปจัดการตรงโน้นด้วย !"

ต้นกำลังประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น เหมือนกับสุนัขเข้าใจภาษาพูดของแอนดี้ 

หมาทั้งห้าตัวที่กำลังวิ่งไล่แมวกระเจิดกระเจิง กลับหยุด แล้วต่างเปลี่ยนทิศทาง  วิ่งกรูกันไปทางตึกใหญ่แทน

ต้นนับได้ห้าตัว เขาร้องถามขึ้น

"ไอ้โบ้ไปไหนครับ ?"

แอนดี้เดินออกมาจากโรงเก็บของ พร้อมเจ้าร็อตไวเลอร์ที่เดินอยู่ข้าง ๆ

"ไอ้โบ้มันจะอยู่ป้องกันพี่  มันบอกว่าถ้ามีมันอยู่ ไอ้พวกกองทัพอากาศ ไม่กล้าโดด มันบอกยังงั้น" แอนดี้ตอบ พร้อมชี้มือให้ต้นดูหมู่เสืออากาศที่ยังเกาะอยู่ที่คานใต้หลังคา

พระโป่งหัวเราะหึ ๆ

"หมากลับชาติมาเกิดก็ยังงี้แหละ  สื่อกันรู้เรื่อง เฮอะ ๆ !"

ต้นพูดขึ้น

"ผมวิ่งไปดูที่สนามหญ้าดีกว่า"

แล้วก็ออกวิ่งตามกลุ่มสุนัขไป

หนุ่มเป้า และ ลุงพล สองคนสวน ยกมือไหว้พระโป่ง

ลุงพลพูดขึ้น

"สาธุ ! ได้หลวงพี่มาช่วย อัศจรรย์แท้ ๆ ! แมวไม่กล้ายุ่งเลย"

แอนดี้พูดกับพระโป่ง

"ลุงคนนี้ช่วยผมเมื่อกี๊ ที่คอโดนข่วนเป็นแผลครับ"

พระโป่งพยักหน้าให้ลุงคนสวน

"มานี่ซิ โยม !"

ลุงพลเดินเข้ามาแล้วคุกเข่าลงที่พื้นต่อหน้าพระโป่ง

แอนดี้ชี้ให้หลวงพี่ดูแผลที่หลังใบหู

พระโป่งหยิบของในย่ามออกมา เป็นกระปุกสมุนไพร  เปิดฝากระปุกออก แล้วเทผงสมุนไพรสีแดงออกมาอยู่ในอุ้งมือ หลับตาร่ายคาถาเพียงไม่กี่วินาที แล้วก็ลืมตาขึ้น

หลวงพี่แบมือที่เต็มไปด้วยผงสมุนไพร แล้วค่อย ๆ ลูบไปบนแผลที่บริเวณคอหลังใบหูลุงพล

"เจ็บมั้ย ?" ท่านถามคนสวน

"แสบนิด ๆ ครับ !"

"พอกมันไว้อย่างนี้สักชั่วโมงนึงนะ อย่าเพิ่งโดนน้ำ  พ้นชั่วโมงแล้วค่อยล้างออกนะ"

ลุงพลยกมือขึ้นพนม แล้วก้มกราบลงที่ปลายเท้าสามครั้ง

"ถือว่าไหว้พระนะ ขอให้คุณพระพุทธเจ้าคุ้มครองนะโยม"

***************************************************************************

เอนก กับ เพ็ญ ยืนอยู่บริเวณริมสนามหญ้า  สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้า ในขณะที่เสียงเห่าของเพชฌาตชาติสุนัขดังมาแต่ไกล กลุ่มแมวที่ชุมนุมกันหน้าสนามหญ้าพากันแตกตื่น

สัญชาตญานการเอาชีวิตรอดย่อมมีติดอยู่ในจิตของสัตว์โลกทุกชนิด สมาชิกผู้ชุมนุมพร้อมใจกัน ทะยานไปหาที่พึ่งที่ใกล้ที่สุด

บางตัวกระโจนขึ้นต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด   หลายตัว พยายามวิ่งไปหาพุ่มไม้ริมกำแพง

ไม่กี่วินาทีถัดมา  โดเบอร์แมนตัวแรก ทะยานตัวพ้นขอบตึกด้านไกล  แล้วตามด้วยโดเบอร์แมนตัวที่สอง

เอนกมองด้วยความประหลาดใจ

"หมาจากไหนครับ ?"

"อ๋อ ! หมาของที่บ้านนี่แหละค่ะ !" เพ็ญตอบ

เอนกมองเห็นเยอรมันเชฟเฟิร์ดวิ่งพ้นขอบตึกมาเป็นตัวที่สาม  เขาทำตาโต แล้วถอยหลัง

"ไม่ไหวละ ! ผมหลบก่อนดีกว่า มันจะฟัดแมวก่อน หรือ มันจะฟัดผมก่อนก็ไม่รู้"

โฮ่ง ๆๆๆๆ ! เสียงเห่าของสุนัข ดังกลบทุกสิ่งทุกอย่าง

ร็อตไวเลอร์ปรากฏตัวให้เห็นแต่ไกลแล้ว พร้อมเยอรมันเชฟเฟิร์ดอีกตัวตามมาติด ๆ

สุนัขห้าตัว วิ่งตรงมาที่สนามหญ้า  เอนกวิ่งจากขอบสนามหญ้าพรวดเดียว เข้าไปยืนอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์

เมื่อเขามั่นใจว่า ตรงนั้น ไกลพอที่จะมีเวลาหลบเข้าบ้านหากมีสุนัขจมูกเฝื่อนคิดว่าเขาเป็นแมว เขาจึงหยุด ยืนดูเหตุการณ์ที่ตรงนั้น

ขณะนี้ ณ ลานสนามหญ้าคฤหาสน์ไตรสรณ์เกิดความอลหม่าน ราวกับมีการละเล่นสังสรรค์กันในหมู่สัตว์สี่เท้า

สุนัขห้าตัว วิ่งแยกกันไปคนละทาง ไล่ฟัดแมวที่ตะลีตะลานหาทางรอดชีวิตจากคมเขี้ยว

แม่บ้านที่หลบอยู่ในอาคาร เริ่มเปิดประตูออกมาดูเหตุการณ์หมาไล่แมวในเขตสนามหญ้า

แมวโชคดีหลายตัว หาทางปีนขึ้นไปบนหลังคารถได้สำเร็จ   บางตัวกระโจนขึ้นกำแพงได้แล้ว

ต้นยืนตะโกนเชียร์สุนัขอยู่ที่ริมสนามหญ้า ชี้บอกให้ตัวโน้นไปทางโน้น ตัวนี้ไปทางนี้  แต่สุนัขที่กำลังสวมวิญญาณเพชฌาตอยู่ ณ ตอนนี้ ไม่มีอารมณ์มาสนใจคำสั่งของต้น

หัวหน้าคณะหมอผี เดินคู่กับพระโป่งมาถึงบริเวณที่ต้นยืนอยู่

แอนดี้ชะเง้อคอมอง

"เอนกอยู่ไหน ?"

ต้นชี้มือไปที่อาคารแรก

"โน่น ! พี่เค้าไปยืนหลบหมาอยู่ที่โน่นแล้วครับ"

แอนดี้พยักหน้ารับรู้

"งั้น พี่รบกวนต้น  นิมนต์หลวงพี่เข้าไปรอในบ้านก่อน  จะให้พระมาดูหมาล่าแมว มันไม่ใช่กิจของสงฆ์"

พระโป่งหันมาทางแอนดี้

"ทิดเอกก็ ปราม ๆ เพื่อนไว้หน่อยนะ อย่าไปทำอะไรให้แมวมันบาดเจ็บ  เอาแค่ไล่ก็พอ"

ต้นหัวเราะ

"ไม่ทันแล้วหลวงพี่ ! ไอ้แจ็คกี้ ตัวโน้น" ต้นชี้มือไปที่โดเบอร์แมนที่กำลังล่าแมวอยู่ริมกำแพงฝั่งหนึ่ง  "มันงับหลังเลือดสาดไปตัวนึงแล้ว"

หลวงพี่สั่นหัวช้า ๆ

"ขอให้ปลอดภัยทุกตัวนะ"

แอนดี้พูดขึ้น

"หลวงพี่ก็ร่ายคาถาสิ ให้แมวเดินพาเหรดออกจากบ้านโดยสงบ  ง่ายจะตาย !

ทีเดินฝ่าดงงู เห็นหลวงพี่พ่นพรวดเดียว งูจังงัง นอนให้เกาท้องได้เลย"

ศิษย์พี่มองหน้าศิษย์น้อง

"คุณพูดว่าง่าย คุณทำเองละกัน คาถาแบบนั้น ผมไม่มีหรอก ผมมีแต่ขาถ่าง  ถ่างขาให้วิ่งได้เร็ว ๆ"

ต้นหัวเราะ ขำที่ได้ยินศิษย์พี่ ศิษย์น้อง แหย่กันเอง

"นิมนต์หลวงพี่ทางนี้เลยครับ !" ต้นยกมือไหว้ แล้วผายมือบอกทาง

เหล่าคนขับรถ กับ เจ้าหน้าที่ รปภ. กำลังช่วยสุนัข ไล่แมวในอาณาเขตของรั้วคฤหาสน์ไตรสรณ์

แต่ลำพัง สุนัขเพียงหกตัว ก็ไม่สามารถจะดูแลครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดหกไร่ได้

แอนดี้ตะโกนสั่งการหมาด้วยภาษามนุษย์

"ป้องกันสนามหญ้าไว้ ไม่ต้องไปไล่ที่อื่น  มารวมกันที่สนามหญ้า !"

ต้นเดินพาหลวงพี่เข้าคฤหาสน์ไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ ขณะที่เขาจะเดินพ้นเฉลียงของอาคารหลังที่สาม  แมวสีดำตัวโตเท่าลูกหมา ก็ทำหน้าที่เสืออากาศ โจมตี โดดจากกันสาดลงมาเกาะที่บ่าแอนดี้ 

แมวสีเทาอีกตัวโดดจากต้นมะม่วงริมอาคารลงมาบนพื้น วิ่งมาสมทบ

แอนดี้หมุนตัว ยกมือขึ้นปัดป้องการข่วนของแมวซึ่งเกาะอยู่ที่ต้นคอเขา  

แมวสีเทาวิ่งถึงตัวเขาแล้ว กระโจนขึ้นด้านหน้า

แรงโดดของแมวส่งตัวมันขึ้นสูงระดับหน้าอก  เหยื่อได้เพียงแต่ยกท่อนแขนขึ้นกัน

แมวตะปบเท้าหน้าข่วนโดนแขนขวาอย่างจัง แล้วก็ทิ้งตัวลงพื้นอย่างสวยงาม ฝากให้แขนท่อนล่างของสิงห์มีรอยเล็บเป็นที่ระลึก

แมวลายเสืออีกตัว โดดลงจากกันสาดมาสมทบ

สิงห์ต้าลู่สะบัดไหล่สุดแรง จนแมวดำตกลงไปที่พื้น  รอยข่วนที่ท้ายทอยทำให้รู้สึกแสบอย่างมาก 

เขาแตะมือที่ท้ายทอย  นิ้วที่โดนบริเวณแผล ส่งความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนได้   คาดว่ารอยแผลนี้คงยาวไม่น้อย แต่แผลบนแขนเห็นชัดกว่า เริ่มมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย

ขณะนี้ แมวจำนวนเกือบสิบตัว ล้อมรอบตัวเขา  เมื่อเหลือบมองขึ้นไปบนกันสาด  แมวอีกกลุ่มหนึ่ง ทยอยกระโดดจากต้นไม้ขึ้นกันสาด  กำลังตรงมาสมทบ

สถานการณ์กำลังคับขัน ถึงจะวิ่งเร็วเท่าไหร่ ความไวของมนุษย์ก็คงสู้แมวกระโจนไม่ได้

แมวไม่ยอมปล่อยให้คนมีเวลาคิด 

แมวดำตัวเดิมที่เพิ่งถูกสะบัดลงไป วิ่งพรวดเข้ามาตะปบ และ กัดชายกางเกง

ขณะเดียวกัน แมวขาวจุดดำอีกตัวก็ทะยานเข้ามากระโจนขึ้นมาถึงหน้าอก

แอนดี้ต้องผงะถอยหลัง ในขณะที่ขาหนึ่งข้าง ต้องสะบัดแมวดำให้พ้นจากกางเกง

แมวขนเหลืองกระโจนเข้าโจมตีจากพื้น โดดพรวดขึ้นข่วนกลางหลัง โดยที่แอนดี้หมดสิทธิ์ปัดป้อง

หลักในการทรงตัวที่ลักลั่น ทำให้แอนดี้พลาดท่า ก้นทรุดลงไปนั่งกับพื้น

ณ บัดนี้ มนุษย์สองเท้า ที่กำลังนั่งก้นจ้ำเบ้า ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองกลุ่มสัตว์สี่เท้า

แมวดำคลายปากจากชายกางเกง กระโจนเข้าเล่นงานลำตัว และ ใบหน้าทันที

กลุ่มแมวที่เหลือ ทะยานตรงเข้ามาหาโดยไม่รอให้เขาได้ตั้งหลักยันกาย

แอนดี้มีสติพอที่จะนึกถึงอนุสติที่เคยกำหนดอยู่เป็นประจำ 

ชั่วเวลาแว่บเดียวที่จวนตัวนี้ .....กายนี้ซึ่งได้ทนกับอาการเจ็บป่วยมานาน แม้เมื่อคืนก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด  หากกายต้องดับไปด้วยหมู่แมวเหล่านี้ ก็ยินยอมที่จะทิ้งกายนี้ไปโดยไม่ถือสาหาความ.....

จิตที่ช่ำช่องกับพุทธานุสติ จับภาพพระวิสุทธิเทพได้ในใจ หากกายนี้ต้องดับไป ขอให้หลวงพ่อที่อุทัยธานีมารับไปอยู่กับพระด้วยเถิด

จิตมีสมาธิอยู่กับพระ ในขณะที่มือทั้งสองขยับปัดป้องกลุ่มแมวที่รุมกันเข้าข่วน และ กัด   เท้าทั้งสองยันขึ้นลงเหมือนคนกำลังถีบจักรยานอากาศ

ลำแขนบางจุดโดนคมเขี้ยว บางจุดโดนคมเล็บ ขาโดนจิกกัด  

การสะบัดแขน ขา ให้หลุดจากกรงเล็บของแมวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แมวที่ถูกสะบัด ก็ไม่ได้กระเด็นออกไปไกล สะบัดออกไปแล้ว มันก็กระโจนเข้ามารุมต่อได้ภายในวินาทีถัดมา

เพียงแค่ไม่กี่วินาที สิงห์ต้าลู่ก็ถูกนายเวรเก่าที่มาในร่างแมว รุมทำร้าย ไม่ต่ำกว่าสิบแผล ทั้งแขน ลำตัว และ ขา

แต่ จู่ ๆ เสียงคำราม โฮก ก็ดังขึ้นมาจากทางข้างหลัง

แมวดำที่กำลังข่วนข้อมือที่เขาปัดป้องใบหน้าอยู่ ถูกสิ่งใดสิ่งหนึ่งกระชากออกไปอย่างเร็ว

แมวที่เหลืออีกห้าหกตัวที่กำลังรุมกินโต๊ะเขาอยู่บนพื้น กลับกระโจนหนีออกไปด้วยความตกใจ

แอนดี้มองไปทางขวา ห่างจากตัวเขาไปเพียงหนึ่งก้าว 

ภาพที่เห็นคือ เจ้าแรมโบ้งับแมวดำคาไว้ที่ปาก  ส่วนสายตาก็เหลือบจ้องกลุ่มแมวที่กำลงหยุดดูเชิงอยู่

กลุ่มแมวที่ถอยไปตั้งหลัก หยุดดูเจ้าแรมโบ้อยู่ในระยะห่างประมาณหกเจ็ดเมตร

ไอ้โบ้ใช้ปากกดแมวดำไว้กับพื้น แล้วเดินลากแมวไถลไปทีละก้าว  แมวดำดิ้นพราด ๆ  แต่ละก้าวของเจ้าโบ้ กำลังก้าวไปหาแมวกลุ่มนั้น

ร็อตไวเลอร์จอมโหด หยุดการเดินไว้ห่างจากกลุ่มแมวประมาณสามสี่เมตร  แล้วใช้ขาหน้ากดท้องแมวดำไว้  คลายปากจากการกัด  เงยหน้าขึ้นมองกลุ่มแมวที่กำลังจด ๆ จ้อง ๆ อยู่ข้างหน้า   

"โฮก !" เสียงคำรามของแรมโบ้เพียงครั้งเดียว  ไล่แมวทั้งกลุ่มให้กระเจิดกระเจิง วิ่งหัวซุกหัวซุน

แอนดี้ลุกขึ้นยืน

เจ้าโบ้ใช้เท้ากด เกลี่ยจนแมวดำพลิกได้ท่าที่ถนัด แล้วบรรจงงับเขี้ยวไปที่ด้านหลังคอของแมวดำอีกครั้ง

แอนดี้ตะโกน

"โบ้ พอแล้ว !"

รปภ. นายหนึ่ง เพิ่งเห็นเหตุการณ์ เดินเข้ามาดู

"ตายแน่ ! ไอ้แมวตัวนี้ ไม่รอด เจอไอ้โบ้ !"

แอนดี้ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาร็อตไวเลอร์ ที่ใช้ปากงับ กดแมวไว้ที่พื้น  แมวดำพยายามดิ้น แกว่งเท้ากวาดพื้นไปมา

"โบ้พอแล้วนะ !"

รปภ. พูดขึ้น

"ยากครับ นาย !  ถ้าไอ้ตัวนี้มันกัดแล้ว ห้ามมันยาก"

เลือดเริ่มนองที่พื้นจนสังเกตได้ชัด

แอนดี้เดินถึงตัวเจ้าแรมโบ้  เขาค่อย ๆ คุกเข่าลงข้าง ๆ  ใช้มือแตะที่หลังแรมโบ้

"โบ้ พอแล้วนะ ปล่อยเค้าไปเถอะนะ !"

คนขับรถอีกคนเดินเข้ามาดูเหตุการณ์  คนงานหญิงสองคน เดินเข้ามาดูด้วย

ทิดเอกเอื้อมมือกอดลำตัวร็อตไวเลอร์ที่เพิ่งช่วยเขาให้พ้นจากฝูงแมว แล้วกระซิบข้างหู

"แรมโบ้ ขอบคุณมากนะ ชั้นปลอดภัยแล้ว ปล่อยแมวตัวนี้ไปเถอะนะ"

แขนของแอนดี้เขย่าตัวแรมโบ้เบา ๆ  เพื่อลดอารมณ์ของมันให้เข้าสู่ภาวะสงบ

ร็อตไวเลอร์คลายปาก ถอนเขี้ยวจากคอแมวดำ  แล้วเงยหน้า

แอนดี้ปล่อยมือที่กอดลำตัวออก  แรมโบ้ก้าวขา เดินจากไป

แมวดำนอนแน่นิ่งไม่ไหวกาย เลือดนองอยู่เป็นวงกว้างประมาณครึ่งเมตร

รปภ. ที่ยืนดูเหตุการณ์มาสักครู่แล้ว คุกเข่า เอื้อมมือไปแตะตัวแมว

แอนดี้ถามขึ้น

"ยังหายใจมั้ย ?"

"ตายแล้วครับ !"

แอนดี้พยักหน้ารับรู้

รปภ. มองลำแขนทั้งสองข้างของแอนดี้ แล้วพูดขึ้น

"คุณเข้าไปทำแผลในบ้านก่อนเถอะครับ  แมวมันปีนขึันไปอยู่ที่สูงกันหมด แต่มันไม่ไปไหน ถ้าเราอยู่ข้างนอก เดี๋ยวมันโดดลงมากัดเราได้อีกครับ"

************************************************************************************

1, 2 < อ่านหน้า > 4

สั่งซื้อนิยายหมอเถื่อนรวมเล่ม คลิ๊กที่นี่

กลับขึ้นด้านบน  อ่านตอนอื่น 

 

 

 

 
Copyright © 2008, pendulumthai.com All rights reserved