ตอน 33 หน้า 1

วันสติแตก

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

รุ่งกำลังมองคนไข้สาวคนเดิมที่เขาเคยใช้วิชาลูกดิ่งตรวจให้ แต่สภาพเธอ ณ ขณะนี้ กลับทรุดโทรมลงไปกว่าเดิม ขอบตามีสีคล้ำเป็นวง ร่างกายผอมซูบลงอย่างเห็นได้ชัด

เขาใช้ลูกดิ่งจ่อที่ฝ่ามือ ส่งคำถามย้ำกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง

ผลที่ได้คือ คนไข้สาวรายนี้ กำลังติดเชื้อราภายในจำนวนมาก ต้นเหตุ ก็คือ เม็ดมะรุม ที่เขาเป็นคนแนะนำให้คนไข้ทานเป็นยา กลับเพาะเชื้อราขึ้นภายในลำไส้

ความหวานของเม็ดมะรุมที่ส่งเข้าลำไส้ติดกันในระยะเวลาที่นานขนาดนั้น ทำให้จุลินทรีย์ชนิดดีที่เคลือบลำไส้อยู่ กลายพันธุ์เป็นเชื้อราตัวร้ายที่เป็นพิษต่อกระแสเลือด

จิตของพ่อหมอลูกดิ่งตกฮวบลงภายในเสี้ยววินาที เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจัดเต็มให้กับคนไข้สาวคนนี้โดยฝีมือการใช้ลูกดิ่งขั้นซาตานของเขานั่นเอง

สีหน้าท่าทางเขาต้องเก็บให้มิดชิดที่สุด ห้ามแสดงอาการใด ๆ ออกมาให้คนไข้จิตตกไปตามหมอ

รุ่งหันหน้าให้คนไข้แล้วยิ้ม

"ผมจะเปลี่ยนสูตรการบำบัดให้ ตอนนี้ งดเม็ดมะรุม แต่จะให้ทานน้ำใบย่านางแทน กับควบคุมของหวาน ภายในสามวัน จะดีขึ้นแน่ ๆ ครับ"

คนไข้มีรอยยิ้ม ยกมือขึ้นไหว้

"ขอบคุณค่ะ !"

หมอเถื่อนสะดุ้ง

"โอ๊ะ ! ไม่ต้องไหว้ครับ ยังไม่หายเลย ไว้หายดีก่อน ค่อยไหว้ทีเดียวจบ"

"ไม่ได้หรอกค่ะ ! อุตส่าห์มาตรวจให้ถึงที่ ทำให้หมอต้องลำบากเป็นครั้งที่สอง"

รุ่งฉีกยิ้มให้คนไข้อย่างกว้าง เป็นการประชดตัวเอง

เสียงความคิดตัวเองดังขึ้น

'ก็ไอ้ที่ต้องมาครั้งที่สอง เพราะมึงมันห่วยเองน่ะแหละ ไอ้รุ่ง ! มึงให้คนไข้กินเม็ดมะรุมจนติดเชื้อรา ถ้าเค้าตายไป มึงได้ติดคุกแน่'

เขาหันหน้ามาที่ญาติผู้น้อง

"น้องวิ เอากระดาษมา พี่จะจดวิธีบำบัดเชื้อราให้"

วิภวาเดินหยิบกระดาษเปล่าพร้อมปากกามายื่นให้

"ตกลงว่าเป็นเชื้อราเหรอคะ ? แล้วไวรัสล่ะคะ ?"

เสียงในใจดังขึ้นอีก

'เออ ไวรัส ช่างแม่งก่อนแล้ว ! ครั้งที่แล้วมึงก็คงมั่วคิดไปเองว่าเค้ามีไวรัสในกระโหลก

เอาไอ้เชื้อรานี่ให้หมด แล้วก็ลากันที ให้คนไข้ไปหาหมอแท้ ๆ ที่เค้ามีความรู้จริงรักษาดีกว่า อยู่กับมึง ตายคามือมึงแน่ ไอ้รุ่ง '

หมอเถื่อนยังฝืนฉีกยิ้มให้กับญาติแบบหน้าด้าน ๆ

"ไวรัสไม่สำคัญแล้ว ! ตอนนี้จัดการกับเชื้อรา ก็คงจบครับ"

เสียงในใจเสริมขึ้นมาอีก

'จบน่ะคือกู ! แต่คนไข้น่ะ คงไม่จบ กูจัดการเรื่องที่กูก่อให้จบ กูก็เผ่นแล้ว บาปกรรมชิบหาย มาทำให้เค้าป่วยหนักกว่าเดิม'

หมอเถื่อนผู้สำนึกผิด จรดปากกา เขียนวิธีการบำบัดเชื้อราอย่างละเอียดลงในกระดาษ แล้วยื่นกระดาษให้น้องวิ

"ตรงไหนไม่เข้าใจ ถามได้"

น้องวิยืนอ่านข้อความในกระดาษจนหมด

"ค่ะ ! เข้าใจ ! พี่รุ่งเขียนได้ละเอียดดี" เธอยื่นกระดาษต่อให้คนไข้

รุ่งมองไปยังคนไข้ผู้เคราะห์ร้ายอีกครั้ง ความสลดจากการสำนึกผิดทำให้จิตใจขุ่นมัว

"น้องวิ พี่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์นอกห้องก่อนนะ"

ทันทีที่ปิดประตูห้อง รุ่งกำถุงที่บรรจุลูกดิ่ง เงื้อมือทำท่าจะขว้าง

'เขวี้ยงทิ้งแม่งเลยดีมั้ย ?'

การกลับมาใช้วิชาลูกดิ่ง ให้ผลอันน่าผิดหวังถึงขนาดนี้ !

หมอเถื่อนพาตัวมายืนชิดริมระเบียง คำพูดของพี่แอนดี้ยังดังก้องอยู่ในความทรงจำ

"....ในอดีต รุ่งขวนขวายเรียนวิชาหมอบ้านด้วยตนเอง จนเก่งเท่าหมอเมือง โรคบางโรค แม้แต่หมอเมืองยังรักษาไม่ได้ แต่รุ่งเพียงแค่ได้แตะตัวคนไข้เท่านั้น ก็รู้ต้นเหตุ..."

ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่ชายนายสิงห์พูดให้กำลังใจเขาแม้แต่เพียงนิด หรือว่า เขาควรจะเลิกใช้ลูกดิ่ง แล้วใช้มือแตะตัวคนไข้ซะเลย ?

ไร้สาระจริง ๆ ที่คิดแบบนั้น ซี้ซั้วเอามือไปแตะต้องคนไม่รู้จัก มีหวังได้โดนข้อหาลวนลามอีกกระทง

คำพูดปลอบใจของพี่แอนดี้ ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย

"สมัยโยนก มีหมอเถื่อนสาวคนหนึ่ง ชื่อ ชื้น..."

ถ้าสิ่งที่พี่แอนดี้เล่ามา เป็นแค่คำปลอบใจ หมอเถื่อนสาวในสมัยโยนก ก็คงเป็นคนอื่น ไม่ใช่เขา แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า 'ชื้น' ก็เป็นชื่อที่คุ้นหูเหมือนกับเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง

รุ่งก้มลงมองดูถุงใส่ลูกดิ่งในฝ่ามือตัวเอง แล้วเก็บถุงนี้กลับเข้ากระเป๋ากางเกง

ประตูห้องถูกเปิดออก ญาติผู้น้องเดินออกมา

"พี่รุ่ง คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ ?"

รุ่งพยักหน้า น้องวิเดินมายืนข้างตัวเขาที่ริมระเบียง

รุ่งพูดขึ้น

"อีกสามวัน น้องวิช่วยแจ้งพี่รุ่งหน่อยว่า อาการเค้าเป็นยังไง พี่รุ่งอยากจะติดตามอาการให้ใกล้ชิด มีอะไรจะได้แก้ไขได้ทัน"

เธอพยักหน้า

"พี่เค้าติดเชื้อราได้ยังไงคะ ?"

"เม็ดมะรุมนั่นแหละ ! เค้าติดเชื้อราจากความหวานของเม็ดมะรุม"

"อ้าว !" เธออุทาน "ถ้างั้นก็ใช้เม็ดมะรุมรักษาไม่ได้ ต้องใช้สูตรอื่นเหรอคะ ?"

ญาติผู้พี่ถอนหายใจ

"ไม่ต้องใช้สูตรไหนแล้ว ตอนนี้ต้องจัดการเชื้อราให้หายเป็นอันดับแรก ส่วนไวรัสนี่ พี่รุ่งไม่แน่ใจว่าเค้ามีไวรัส คือ... เมื่อกี๊พี่รุ่งตรวจไวรัส มันไม่มีน่ะ มันอาจแปลว่า เค้าไม่ได้ติดไวรัสตั้งแต่แรก ครั้งแรก พี่รุ่งอาจตรวจพลาดไป"

น้องวิเอียงคอ

"หือ !"

"พี่รุ่งมันห่วยเองน่ะ น้องวิ ! ฝีมือลูกดิ่งพี่รุ่งคงไม่แม่นยำเหมือนก่อน ไม่ได้ใช้มานาน วิชามันคงเสื่อมไปหมดแล้ว"

เธอมองหน้าหมอเถื่อน แล้วเอื้อมมือมาจับแขนเขา

"ไม่ใช่หรอก ! พี่รุ่งอย่าเพิ่งโทษตัวเองเลย วิชาของพี่รุ่งสุดยอดที่สุดแล้วนะ รอดูผลอีกสามวัน น้องวิจะแจ้งพี่รุ่งว่าอาการเค้าเป็นยังไงบ้าง แต่น้องวิมั่นใจว่า พี่รุ่งเป็นหมอที่เก่งที่สุดที่น้องวิเคยเจอ"

รุ่งมองหน้าเธอ แล้วหัวเราะหึ ๆ

"วันนี้ไม่มีอารมณ์กินไอติมนะ ไม่ต้องปากหวานหรอก น้องวิ !"

เธอมองออกไปนอกระเบียง

"พี่รุ่งไม่มีอารมณ์ ก็ไม่ต้องกิน ไปนั่งดูน้องวิกินแล้วกัน วันอังคารที่จะถึงนี้เป็นวันสำคัญวันนึงของน้องวิ วันนี้ ต้องเพิ่มความมั่นใจด้วยการกินไอติมต่อหน้าพี่รุ่ง"

"อังคารนี้ทำไม ?"

"วันอังคารที่จะถึงนี้ คนที่น้องวิรอคอยที่จะได้เจอ จะมาเจอกับน้องวิ"

"ใครอะ ? ผู้ชายผู้หญิง ?"

"ผู้ชายค่ะ"

"แน่ะ !" รุ่งทำจมูกหึ่ง "อายุเท่าไหร่ ?"

"ก็ เท่า ๆ พี่รุ่งค่ะ"

รุ่งหันมามองหน้าน้องอย่างจะ ๆ

"นี่ เรา.... อือ... แต่ก็ว่าไม่ได้นะ สมัยนี้ อายุสิบสามก็มีแฟนกันแล้ว ปีนี้เราก็เลยยี่สิบแล้ว"

น้องวิหัวเราะคิกคัก

"น้องวิเล่าให้พี่รุ่งฟังคนเดียว พี่รุ่งห้ามเล่าให้ใครฟังนะคะ อามัณรู้ไม่ได้ คนในบ้านน้องวิ รู้ไม่ได้ พี่ธรรม์ก็ไม่ได้"

รุ่งยกมือชูสามนิ้ว

"ด้วยเกียรติของลูกหมา ข้าพเจ้าจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ลับแบบที่ว่า พี่รุ่งเองก็จะไม่เล่าให้ตัวเองฟัง"

เธอหัวเราะคำพูดของเขา

รุ่งถามขึ้น

"ถ้าอายุเท่าพี่รุ่ง ก็คงไม่ใช่เพื่อนในมหาลัย' ต้องเป็นคนวัยทำงานแล้วสิ แล้วรู้จักกันได้ยังไงล่ะ ?"

เธออมยิ้ม

"ไปกันใหญ่แล้วพี่รุ่ง ! พี่รุ่งนึกว่าน้องวิจะไปนัดเจอกับหนุ่มที่ไหนเหรอ ?"

"ก็หนุ่มที่ไหนล่ะ ถึงให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ ? เอ๊ะ ! แต่พี่รุ่งเข้าใจน้องวินะ ถ้าทุกอย่างของน้องวิ ต้องผ่านการเห็นชอบของอามัณ พี่ก็ว่าอย่าเพิ่งให้อามัณรับรู้เลย ให้เราเรียนจบทำงานก่อน แล้วถึงเวลานั้น รับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องกลัวใคร"

วิภวาหัวเราะคิกคัก

"ฮ่า ๆๆ ! โกโซบิ๊กแล้ว พี่รุ่ง ? น้องวิจะนัดผู้ชายคนนี้ให้ไปเจอกับคุณพ่อ ที่โรงพยาบาล วันอังคารหน้านี้"

รุ่งถามพรวดขึ้นมาทันที

"จะรีบแต่งเลยเหรอ ? กลัวอาเอกไม่ทันรับรู้เหรอ ? น้องวิท้องแล้วใช่มั้ย ?"

เธอยกมือขึ้นตีแขนรุ่ง

"ตายแล้ว พี่รุ่ง ! ท้องอะไรที่ไหน ? พี่รุ่งอะ.... ธรรมดาพี่รุ่งก็ฉลาดมากอยู่นะ น้องวิพูดแค่นี้ พี่รุ่งยังไม่รู้อีกเหรอว่า น้องวินัดใคร ?"

รุ่งยกมือขึ้นท้าวสะเอว แล้วคิด สักอึดใจ เขาก็ชูนิ้วชี้ขึ้น

"จ๊อด ! จ๊อดจะไปเยี่ยมอาเอก !"

ญาติผู้น้องพยักหน้า รุ่งพยักหน้าตาม

"ก็ดีนะ กี่ปีแล้วเนี่ย ? สองปี ?"

เธอพยักหน้า "ค่ะ สองปี ! คิดถึงพี่จ๊อดมาก"

"ไป ! พี่รู้จักร้านไอติมอยู่ที่นึง ร้านเล็ก ๆ ขายไอติมเจลาโต แต่แต่งร้านได้โมแลนติกมาก ฉลองที่น้องวิจะได้เจอพี่ชาย"

น้องสาวอมยิ้มทันที

"ดีจัง ! กินเจลาโตกับพี่รุ่ง ร้านไหนก็โมแลนติกทุกที่แหละค่ะ"

"พี่จะฉลองวันอัปยศของตัวเองด้วย เกือบทำให้คนไข้น้องวิต้องตายเพราะเชื้อราซะแล้ว"

เธอโบกมือไหว ๆ

"อี๊ ไม่เอา ! ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว เชื่อน้องวิเถอะ วิชาของพี่รุ่งน่ะยังสุดยอดอยู่"

รุ่งพยักหน้ารับแบบขอไปที

"ไป ! ไปลุยเจลาโต แดกมันให้เละไปข้าง"

ญาติผู้น้องหัวเราะร่วน

วันพรุ่งนี้ อาการของคุณพ่อจะเป็นอย่างไร เธอไม่อาจรู้ได้

อังคารที่จะถึงนี้ พี่ชายได้กลับมาเจอคุณพ่อ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เธอก็ไม่อาจรู้ได้

รู้เพียงแค่ค่ำนี้ เธอจะได้ทานไอศครีม กับ คนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจเป็นที่สุด เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

********************************************************************************

อ่านหน้า > 2 , 3
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่