ตอน 21 หน้า 3

มื้อแห่งความรัก

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

(หากท่านฟังเพลงไม่ได้ โปรด update FlashPlayer หรือ click ที่นี่ เพื่อชม youtube)

อินโทรขึ้นเป็นเสียงจิ้งหรีด เสียงลม แล้วค่อยตามด้วยดนตรี

เสียงร้องของผู้หญิงเป็นเสียงที่สดใส เมโลดี้เพียงแค่สองประโยคแรก ก็ทำให้เขารู้สึกสนใจที่จะฟังต่อ

เพลงร้องมาถึงท่อนที่สอง เขาโยกหัวช้า ๆ ไปตามทำนองที่กลมกลืน

แต่พอเข้าช่วงสร้อย

'หว่อเจินเตอต่ง หนี่ปู้ซื่อสี่ซิน เหยี่ยนจิว' เมโลดี้ที่สวยงาม ทำให้เขามีอารมณ์ร่วมมากขึ้น

เสียงที่เริ่มขึ้นสูง ทำให้อารมณ์เริ่มคล้อย

'ซื่อหว่อเหมยโหย่ว ไผไจ้หนี่เซินเปียน ตันหนี่จี้ม่อ สือโฮ่ว'

มันต้องเป็นฤทธิ์ของเบียร์เป็นแน่แท้ ที่พาให้จิตเขาอ่อนไหว คล้อยตามทำนองที่ไหลลื่นต่อทีละประโยค ทั้ง ๆ ที่ เขาแปลความหมายของเพลงไม่ออก

ความหมายของเพลงคืออะไรกันนะ ? มันจะเศร้าเหมือนเสียงร้องหรือเปล่า ?

เธอตัดพ้อหรืออะไรกันแน่ ? ทำไมมันช่างโหยหวนอย่างนี้ ?

เพลงเริ่มเร่งเร้าที่ท่อนแยก เหมือนกับจะเรียกร้อง โอดครวญอย่างหนัก แล้วกลับมาช่วงสร้อยที่ติดหูได้ง่าย

'หว่อเจินเตอต่ง .....' นี่ป็นวลีแรกที่เขาพอฟังออก

หว่อเจินเตอต่ง แปลว่า ฉันเข้าใจดี

'จื่อซื่อ เว่ยเสิ่นเมอ เหยี่ยนเล่ย ฮุ่ยหลิว หว่อเหย่ ปู้ต่ง' เป็นประโยค ที่พอจะฟังออก ความหมายของมันคือ

....เพียงแต่ว่า ทำไมน้ำตาฉันยังไม่หยุดไหล ฉันก็ไม่เข้าใจ.....

ใช่จริง ๆ เพลงนี้เป็นเพลงเศร้า ส่วนประโยคอื่นเหลือของเพลง เขาไม่สามารถฟังรู้เรื่องได้เลย

ห้านาที ยี่สิบวินาที เพลงได้จบลง

เขายื่นหน้ามองที่หน้าจอชัด ๆ เพื่ออ่านชื่อเพลง 我不難過 .... หว่อปู้หนานกั้ว ภาษาจีนกลางที่ยังหลงเหลืออยู่ในสมอง เพียงพอที่จะอ่านได้ แต่ไม่รู้ความหมายที่แน่ชัด

หงส์เดินลงมาจากบันได พร้อมแผ่นซีดีในมือ

"คุณหงส์ หนานกั้วแปลว่าอะไรครับ ?"

เธอตอบ

"เสียใจ"

"งั้น ชื่อเพลงนี้ ก็แปลว่า ฉันไม่เสียใจ เพลงนี้ซือก้อยมาก"

หงส์เดินมาที่โต๊ะหน้าโซฟา คุกเข่าลง

"หว่อปู้หนานกั้วเหรอ ? พี่รุ่งเปิดฟังเหรอคะ ?"

รุ่งพยักหน้า

"ใช่ ! ผมเห็นเรทติ้งห้าดาวแน่ะ มีอยู่เพลงเดียว แสดงว่า คุณหงส์ชอบมาก"

ลมได้พัดกลิ่นแป้งทาตัวของเธอโชยเข้าจมูกเขาอีกแล้ว

หงส์พยักหน้าช้า ๆ

"อือ...! ค่ะ !"

"ความหมายมันคืออะไรเหรอครับ ? ทำไมถึงชอบมาก ?"

เธอกลับชะงัก แล้วมีท่าทีอึกอัก

"มัน ก้อ.... ฝ่ายนึงบอกเลิกก่อน เพราะรู้ว่า อีกฝ่ายมีคนอื่นในใจแล้ว"

รุ่งพยักหน้า

"แล้ว ฉันไม่เสียใจนี่ หมายถึง คนที่บอกเลิกก่อน พูดเหรอครับ ?"

หงส์พยักหน้า

"ค่ะ ! ก็ถึงความรักจะไปกันไม่ได้ แต่ ความทรงจำที่ดี จะอยู่ตลอดไป ไม่มีอะไรต้องเสียใจ"

"แต่น้ำตาไม่หยุดไหล ?"

หงส์มองหน้ารุ่ง

"พี่รุ่งฟังออก ?"

เขาพยักหน้า "ก็เฉพาะประโยคนี้แหละ ที่เหลือก็ฟังไม่ออก แล้วมันตรงกับคุณหงส์ตรงไหน เพลงนี้น่ะ ?"

เธอหัวเราะเบา ๆ

"ตอนกินสุกี้ พี่รุ่งบอกว่ามีคำถามที่อยากถามหงส์ แต่กลัวพี่แอนดี้ ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว พี่แอนดี้บอกว่าพี่รุ่งเป็นคนในครอบครัว อยากจะถามหงส์เรื่องอะไรคะ ?"

"ทำไมคุณหงส์ ชอบตอบคำถามผม ด้วยคำถาม ?"

"นี่ถือเป็นคำถามที่อยากจะถาม ?"

รุ่งหัวเราะ

"กู... โดนอีกคำถามจนได้ ! เปล่าครับ ! สิ่งที่ผมอยากถามเหรอ ....."

เล่นมุขจนไม่รอด ความมึนทำให้ความกะล่อนไม่ไหลลื่นเหมือนตอนสติปกติ

เขาอยากรู้อะไรจากสาวคนนี้น่ะเหรอ ?

ความทะเล้น เริ่มเปลี่ยนเป็นความอยากรู้ที่จริงจัง รอยยิ้มของเขาเริ่มหายไป

"เรื่องแรก วันแรกที่ผมเจอคุณหงส์ ผมรู้สึกละอายใจมาก ที่มอแกนปากหมา แต่ตอนจะกลับ คุณหงส์บอกว่า คุณหงส์จะนอนอมยิ้มได้ทั้งคืน เพราะได้ยินอะไรซักอย่าง แต่คุณหงส์ไม่ได้บอกว่าอะไร มันคืออะไรครับ ที่ทำให้คุณหงส์ยิ้มได้ ?"

แน่นอนว่า เธอจำคืนวันนั้นได้อย่างดี เธอทรุดตัวจากคุกเข่า ลงมานั่งบนพื้น

"เรื่องนี้..... หงส์ขอเก็บเป็นความลับได้มั้ยคะ ?"

คำตอบนี้ ยิ่งทวีความอยากรู้ของเขาให้มากขึ้นไปอีก

"ความลับ ! มันซีเรียสถึงยังงั้นเลยเหรอครับ ?"

เธอเงียบไปสึกอึดใจหนึ่ง แล้วพยักหน้า

"ค่ะ !"

เขาพยักหน้ารับรู้

"งั้น คำถามต่อไป .... วันที่เราเจอกันที่ศาลายา พี่ธรรม์ไปส่งคุณหงส์ที่คอนโด เราคุยกันเรื่องน้ำหอมอยู่ดี ๆ คุณหงส์ก็ร้องไห้"

"หงส์ร้องไห้ ?"

"เอ่อ ! ก็ไม่เชิง คือ คุณหงส์ก็น้ำตาไหลออกมา มันคืออะไรครับ ?"

เธอกระพริบตาปริบ ๆ แล้วนึกถึงคำตอบที่ควรจะตอบ

"มัน คือ น้ำตาไงคะ !"

รุ่งพยักหน้า

"ตอบได้ดีมาก ! น้ำตานี้ เกี่ยวกับผม ?"

"ทำไมพี่รุ่งถึงคิดว่า เกี่ยวกับพี่รุ่งคะ ?"

เขาหัวเราะทันที

"ยอดเยี่ยมมาก ! คุณได้สิทธิ์นั้นทันที ! ขอบคุณมากเลย คุยกับคุณหงส์แล้ว ทำให้ผมรู้จักกับคุณหงส์ได้มากขึ้นจริง ๆ"

เขาประชดประชันเธอด้วยคำพูดที่สุภาพ แต่กวน

หงส์ยกเข่าทั้งสองข้างขึ้นมาชัน แล้วอ้อมมือมากอดเข่า นั่งจ้องหน้าเขา

"พี่รุ่ง อยากจะรู้จักหงส์ให้มากกว่านี้ จริง ๆ เหรอคะ ?"

คำถามนี้ ทำให้ใจของรุ่งเต้นตึ๊กตั๊ก ความคิดที่แว่บเข้ามาในสมองทันที คือ คำถามว่า แล้วเขาจะอยากรู้ไปทำไม ในเมื่อ เขาไม่ควรจะอยู่ใกล้ชิด สนิทสนมกับเธอคนนี้อยู่แล้ว แล้วยังจะอยากรู้อีกทำไม ?

แต่อารมณ์ที่ครอบงำจิตเขาอยู่ตอนนี้ ไม่ได้อยากจะปฏิเสธคำถามของเธอเลย หรือว่า ความมึนเมาเพียงแค่เล็กน้อยนี้ ก็ทำให้การตัดสินใจของเขาสับสนได้มากขนาดนี้

การนิ่งเงียบของเขา คือ คำตอบที่เธอพอใจ

"หงส์มีพี่น้องแค่สองคน นอกจากพี่แอนดี้แล้ว มีพี่หลง ไม่ใช่พี่แท้ ๆ แต่อยู่กับเราเหมือนครอบครัว พี่หลงอยู่กับพวกเรามาตั้งแต่หงส์ยังเด็ก เค้าเพิ่งเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว..."

รุ่งตั้งใจฟัง

"... หงส์เกิดที่ปักกิ่ง ครอบครัวถือว่ามีฐานะเกือบจะปานกลาง ไม่เรียกว่ายากจน แต่ก็ยังไม่จัดว่าปานกลาง ความลำบากเกิดขึ้นจากพ่อที่ขี้เมา ไม่ทำงานอะไรเลย ทำให้แม่ต้องหาเลี้ยงคนเดียว พี่แอนดี้จึงต้องออกหางานทำตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบขวบ

ตั้งแต่หงส์เกิดมา หงส์ก็เห็นพี่แอนดี้ทำงานหาเงินแล้ว หงส์มีชื่อจีนว่า จางซีฟ่ง พี่แอนดี้เป็นคนตั้งชื่อซีฟ่งให้ แปลว่าหงส์ที่เลอเลิศ พี่แอนดี้บอกว่า ถึงเราจะไม่ได้เกิดในตระกูลร่ำรวย แต่ชื่อเราจะต้องสูง เพื่อเตือนให้เราขวนขวาย ส่งตัวเองให้สูงขึ้น

เงินที่ส่งให้หงส์เรียนหนังสือตั้งแต่เด็ก ส่วนนึงคือเงินแม่ ส่วนนึงคือเงินจากพี่แอนดี้

ตอนหงส์อายุประมาณห้าขวบ บ้านเราเกิดโคลนถล่ม ทรัพย์สินในบ้านเสียหายไปมากกว่าครึ่ง พี่แอนดี้ต้องออกจากโรงเรียน เพื่อหางานประจำทำ เราต้องไปอาศัยญาติอยู่..."

เธอหยุดพัก เพื่อนึกถึงอดีตในความทรงจำ แล้วเล่าต่อ

"... ตอนที่เราอยู่กับญาติ ครอบครัวนั้นมีคนเยอะ เกือบสิบคน เราสี่คนอยู่ห้องเล็ก ๆ ห้องเดียวกัน หงส์ถูกลูกพี่ลูกน้องของครอบครัวนั้นรังแก พี่แอนดี้ทนไม่ไหว ก็พาหงส์ออกจากบ้านนั้น แล้วตะลอนไปตายเอาดาบหน้า

วันที่พี่แอนดี้ไปรับหงส์ที่โรงเรียน แล้วบอกว่า เย็นนี้เราจะไม่กลับบ้านหลังนั้นอีกแล้ว หงส์จะมีชีวิตที่ดีขึ้น พี่จะไม่ยอมให้หงส์ลำบาก.... วันนั้นเป็นวันที่หงส์จะไม่ลืม วันนั้น หงส์คิดว่า หงส์รู้จักคำว่าพระเจ้าว่าคืออะไร พี่แอนดี้ คือ พระเจ้าสำหรับหงส์

คนที่ไม่ใช่ญาติเรา แต่มีบุญคุณกับชีวิตเราสองคนมากกว่าญาติ คือ คุณหญิงเจน ที่ทำงานในสถานทูตไทยที่ปักกิ่ง หงส์ได้เรียนภาษาไทยตั้งแต่เด็ก เพราะพี่แอนดี้บอกว่า จุดหมายของเรา คือ ประเทศไทย

ชีวิตของเราสองคน อยู่ไม่เป็นที่ ตั้งแต่ออกจากปักกิ่ง เราไปอยู่เมืองโน้นเมืองนี้ เราพี่น้องสองคน รู้จักกับพี่หลงที่เทียนสิน แล้วพี่หลงก็ติดตามพี่แอนดี้มาตั้งแต่นั้น ตระเวนผจญภัยไปด้วยกัน หงส์ต้องเปลี่ยนโรงเรียน เปลี่ยนเพื่อน บางที่ เราไปอยู่พอหงส์เริ่มจะมีเพื่อน ไม่ทันไร ก็ต้องย้ายที่อีก จนหงส์เคยชินกับการอยู่คนเดียว หงส์ไม่มีเพื่อนในชีวิต หงส์มีแต่เพื่อนชั่วคราว

จนคุณหญิงเจนได้ช่วยให้เราเข้ามาอยู่เมืองไทยสำเร็จ พี่แอนดี้มีงานหลายอย่างที่ต้องทำ มีภาระเยอะแยะ มีลูกน้องเต็มไปหมด คนที่เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ชายสำหรับหงส์ เวลาที่พี่แอนดี้ไม่ว่าง คือ พี่หลง

หงส์จบมัธยมปลายในกรุงเทพ ฯ แล้วเข้าเอแบค เรียนจนจบ"

เธอจ้องหน้าเขา รุ่งพยักหน้าว่ากำลังฟังอยู่

รุ่งรู้สึกอินในเรื่องราวที่ได้ยิน เวลาได้ฟังสาวคนนี้เล่าถึงชีวิตตัวเอง มันพอจะเห็นภาพเป็นจริงเป็นจัง เหมือนกับสิ่งที่เธอเล่า ดึงเขาเข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยตนเอง หรือ... มันเป็นอีกผลงานหนึ่งของฤทธิ์แอลกอฮอลล์ ?

เขากระพริบตาสองสามครั้ง เพื่อถอนความอินออกมาบ้าง

"หงส์ชอบถ่ายรูป ชอบฟังเพลง หงส์เคยหัดกีต้าร์ แต่เล่นได้ไม่เก่งนัก ชอบดูหนัง ชอบภาษาต่างประเทศ หงส์อยากพูดได้ห้าภาษา"

รุ่งเลิกคิ้ว

"ห้าภาษาเลย ? อะไรบ้างครับ ? ที่ผมรู้คือ อังกฤษแน่ ๆ จีนกลางแน่ ๆ ไทย ญี่ปุ่น สี่ภาษาแล้ว"

"กวางตุ้งค่ะ อีกภาษา แต่ไม่ได้คล่องนัก เราเคยอยู่ที่เสิ่นเจิ้นแป๊บเดียว ข้ามไปมาระหว่างฮ่องกงกับเสิ่นเจิ้นบ่อย ต้องใช้กวางตุ้ง ก็ถือว่า พอไปกินข้าว ซื้อของในฮ่องกงได้โดยไม่ต้องใช้จีนกลาง"

หงส์จ้องหน้าเขาอีกครั้ง

"อยากรู้อะไรอีกคะ ?"

"ผมเสียใจด้วย เรื่องคนที่ชื่อหลง วันนี้ผมคงไม่ได้นั่งที่ของเค้าใช่มั้ยครับ ?"

หงส์หัวเราะเบา ๆ

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ! ไม่มีใครถือเรื่องพวกนี้ วันไหนที่เรากินสุกี้กัน เราก็จะต่อด้วยกิจกรรมอีก สองอย่าง อย่างนึงกับพี่หลง อย่างนึงกับพี่แอนดี้"

"กิจกรรมอะไรครับ ?"

เธออมยิ้ม แล้วเอียงคอ

"อือ.... เป็นกิจกรรมที่หงส์ไม่เคยทำต่อหน้าคนอื่น กิจกรรมที่ทำกับพี่หลง หงส์ก็ไม่เคยทำต่อหน้าพี่แอนดี้มาก่อน"

รุ่งเลิกคิ้ว

"เป็นความลับอีกแล้ว ! ปิดแม้กระทั่งพี่ชายแท้ ๆ"

"ไม่ใช่ความลับหรอกค่ะ เป็นความอายมากกว่า"

"อ้าว ! แล้วไม่อายพี่หลงเหรอครับ ?"

หงส์สั่นหัว

"ไม่ค่ะ ! ไม่อาย"

"หึ ๆ โทษทีครับ แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันเหรอครับ ? กิจกรรมนั่นน่ะ !"

หงส์หัวเราะในคำถาม

"เปล่า ! คาราโอเกะค่ะ ! หงส์กับพี่หลง จะร้องคาราโอเกะกันในห้องสองคน หงส์ไม่เคยร้องเพลงต่อหน้าใครในโลกนี้ ที่ไม่ใช่พี่หลง"

รุ่งพยักหน้า

"โธ่ ! ยังงี้เค้าไม่เรียกอายพี่แอนดี้ เค้าเรียกว่า เขิน ครับ คำว่าอาย มันต้องใช้กับอะไรที่น่าขายหน้ามากกว่านี้"

หงส์พยักหน้า

"อื้อ ใช่ค่ะ ! เรียกว่าเขิน"

"โอเค ! ยังงั้น วันนี้ผมก็ถือว่ามีบุญสูงสุด ที่จะเป็นคนเดียวในโลก ที่มีโอกาสฟังคุณหงส์ร้องเพลงสด ๆ"

"ใครบอกจะร้องให้ฟัง ?"

รุ่งขยับตัวนั่งหลังตรง

"มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอครับ ? ผมเป็นแขกที่สำคัญ ถึงกับพี่แอนดี้ยอมดองกับผมด้วยแล้ว ผมจะขอให้น้องสาวร้องคาราโอเกะให้ฟัง แค่นี้ก็ไม่มีเมตตาเลยเหรอครับ ?"

หงส์นึกขำในคำอธิบายของเขา เธออ้ำอึ้ง อึกอัก

"มันเขินค่ะ ! ฟังเสียงหงส์แล้วอาจจะอ้วกสุกี้เมื่อกี๊ออกมาหมด เวลาร้องคาราโอเกะกับพี่หลง เราพนันกันว่า ถ้าใครร้องได้คะแนนดีกว่า คนแพ้ต้องกินเบียร์ให้หมดแก้ว เครื่องเล่นคาราโอเกะมันให้คะแนนเสียงร้องได้ "

รุ่งยกมือขึ้นชูสามนิ้ว

"ด้วยเกียรติของลูกหมา ผมขอสาบานว่า ไม่ว่าเสียงคุณหงส์ จะขี้เหร่เหมือนไฮยีน่า หรือ หลงคีย์ จนกลับบ้านไม่ได้ ผมก็จะไม่รู้สึกรังเกียจใด ๆ ถ้ามันจะอ้วกออกมา ผมคิดว่า ผมกลืนมันกลับเข้าไปได้"

เขามองท่าทีของเธอ หงส์ยังนั่งตีหน้าตาย

ท่าทางแบบนี้ เป็นอันว่า เขาคงไม่ได้ฟังเสียงเธอร้องเพลงแน่ ๆ

"งั้น ! อีกกิจกรรมนึงที่ทำกับพี่แอนดี้ ทำอะไรครับ ?"

"พี่รุ่งเดาสิ !"

"เข้าไร่ ไปตัดอ้อย !"

หงส์หัวเราะทันที เมื่อนึกถึงภาพคนงานไร่อ้อยที่เธอเคยเห็น

"หงส์ไม่มีชุดเท่ ๆ แบบนั้นใส่หรอก"

รุ่งกลับหัวเราะ

"คุณหงส์ก็มีอารมณ์ฮาได้เหมือนกันนิ"

"หงส์ขอพี่รุ่งอย่างนึง ไม่ต้องเรียกหงส์ว่าคุณ เรียกหงส์เฉย ๆ ดีกว่า"

เธอลุกจากพื้นขึ้นยืน

"รอหงส์แป๊บนึง หงส์จะขึ้นไปข้างบน เดี๋ยวลงมา"

รุ่งพยักหน้ารับ

พัดลมที่ส่ายไปมา หอบลมเย็นพัดใส่แขกคออ่อน จนคอพับ ผลอยหลับไป

เสียงรูดม่านในห้องรับแขก ปลุกให้เขาตื่นขึ้น

ม่านในห้องรับแขกทั้งสองด้านถูกปิด ประตูบ้านถูกปิด

น้องสาวเจ้าของบ้าน ถือรีโมทคอนโทรลอยู่ในมือ เธอหันมามองแขก

"ตื่นแล้วเหรอคะ ? ไม่ตื่นไม่ได้ดูของดีนะ"

รุ่งมีสีหน้างัวเงีย เขามองดูนาฬิกาติดผนังก็รู้ว่า เขาผล็อยหลับไปเพียงแค่หกเจ็ดนาทีเท่านั้น

เธอชี้ไปที่บนโต๊ะ มีเบียร์แช่เย็นกระป๋องหนึ่งวางอยู่

"หงส์ร้องก่อน ถ้าพี่รุ่งร้องแพ้ เบียร์กระป๋องนี้ ต้องกินให้หมด"

หงส์นั่งลงบนโซฟายาว แล้วกดรีโมทคอนโทรล วางรีโมทลงบนโต๊ะ แล้วหยิบไมโครโฟนไร้สายขึ้นมาแทน

ทีวีแสดงภาพ ลำโพงเครื่องเสียงห้องรับแขกเริ่มทำงาน

มันเป็นภาพคอนเสิร์ท แต่เป็นเวอร์ชั่นสำหรับคาราโอเกะ

เสียงปรบมือพร้อมเสียงอินโทรของเพลง ทำให้รุ่งตาสว่างทันที เพราะ.... มันคือ เพลง 'หว่อปู้หนานกั้ว'

1, 2 < อ่านหน้า > 4
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่