![]() |
| ||||||
|
| |||||||
สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท โต๊ะอาหารทรงกลมเหมาะสำหรับสี่คนมีหม้อสุกี้ตั้งอยู่กลางโต๊ะ ... ...แขกรับเชิญนั่งฝั่งตรงข้ามกับเจ้าของบ้าน "วิภวาเป็นลูกศิษย์ของพี่ จริง ๆ แล้ว ก็ต้องถือว่า วิภวามีบุญคุณต่อพี่ ด้วยซ้ำ เพราะได้เจอรุ่งในวันนั้น พี่ถึงมีวันนี้ พี่มีโอกาสได้เจอคุณมัณฑนาสองต่อสองทุกสัปดาห์ ขอให้พี่ใช้เวลาดูสิ่งแวดล้อมซักหน่อย มันต้องมีหนทางแน่" รุ่งพยักหน้าช้า ๆ "สิ่งแวดล้อม ?" เขาทวนคำ "มีหูมีตา มันก็ดีกว่าคนตามืดบอดน่ะรุ่ง" รุ่งกำลังตีความในสิ่งที่แอนดี้พูด "พี่แอนดี้ใช้ตาทิพย์เหรอครับ ?" แอนดี้สั่นหัว "ตาพี่ไม่แม่นพอหรอก อยากรู้อะไรถามคนเก่งดีกว่า ที่เรือนอภิญญาฆราวาส เรามีครูสอนญาณแปดเป็นฝรั่งเยอรมัน ครูคนนี้ใช้ญาณแปดได้คล่องมาก" รุ่งผงกหัว "ครูสตีฟหรือเปล่าครับ ? ผมเคยรู้จัก ผมเคยเห็นครูสตีฟเชิญวิญญาณมาคุยด้วย ถือว่าเก่งมากเลย วันนั้นมีเทวดามาองค์นึง บอกว่ารู้จักกับผมมาก่อน ท่านบอกว่า ถ้าผมได้เจอกับพี่น้องในอดีตชาติ ชีวิตผมจะรุ่ง" แอนดี้เลิกคิ้ว "งั้น ก็รุ่งตั้งแต่ตอนนี้ได้แล้วนะ เราสองคนในอดีต เคยเป็นพี่น้องกัน" รุ่งชี้มือไปที่เจ้าของบ้าน "พี่แอนดี้น่ะเหรอ ? เป็นพี่แอนดี้นี่เองเหรอ ? ทำไมผมถึงไม่เคยคิดเรื่องนี้นะ ? ผมรอแต่ว่าชีวิตผมจะรุ่งเมื่อเจอพี่น้อง แต่ไม่รู้จะไปถามหาใคร ถ้าเป็นพี่แอนดี้จริง ๆ ผมไม่สงสัยเลย ผมมั่นใจว่าเราเคยผูกพันกันมาก่อนแน่นอน" "ไม่ใช่แค่พี่น้องเท่านั้นนะ เราเคยเป็นสหายกันก็เคย เราเคยเกี่ยวพันเป็นอะไรต่ออะไรมามากมาย" รุ่งยกมือตบเข่าตัวเอง "ซือก้อยจริง ๆ ที่ผมมาเจอพี่วันนี้ ! แคลร์เป็นอะไรกับเราหรือเปล่าครับ ? แคลร์บอกว่าพี่แอนดี้ช่วยผมได้ คืนนั้นที่ดูพลุด้วยกัน พี่แอนดี้คุยอะไรกับแคลร์เหรอครับ ?" แอนดี้นิ่งไปอึดใจ "เรื่องของแคลร์ พี่คงยังเล่าไม่ได้ตอนนี้ แคลร์คงมีอะไรที่ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองก่อน แต่ก็อย่างที่เคยบอกไป แคลร์กับพวกเรา มีความผูกพันกันมาก่อน" รุ่งรุกพี่ชายนอกสายเลือดด้วยคำถามต่อไป "พี่แอนดี้มองเห็นอนาคตใช่มั้ยครับ ? แม่นยำขนาดไหนครับ ?" แอนดี้ยกมือขึ้นโบก "ไม่ได้ ! พี่มองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นหรอก ก็อย่างที่บอก พี่ต้องอาศัยหูตา คือ ต้องถามเทวดาอีกที อารมณ์ของพี่ไม่แน่ไม่นอนนัก ถ้าดูเองก็อาจจะพลาดได้ แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องของเรา มันก็ไร้สาระที่จะไปรู้ อะไรจำเป็นต้องรู้ เดี๋ยวเทวดาก็บอก" "แล้วเรื่องผม จำเป็นสำหรับพี่แอนดี้หรือเปล่าครับ ? พี่แอนดี้รู้เรื่องของผมมั้ยครับ ? ชาติก่อน ผมกับแคลร์เป็นเพื่อนกัน หรือ เป็นคนรักกันหรือเปล่า ? ผมรู้สึกชอบเธอเป็นพิเศษ" "เรื่องของรุ่ง พี่รู้พอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากขนาดเขียนเป็นประวัติได้ พี่แค่รู้เป็นจุด ๆ ชาติก่อนที่ถัดจากชาตินี้ไป รุ่งมีเนื้อคู่ในชาตินั้น แต่ไม่ใช่แคลร์ เพราะแคลร์ไม่ได้มาเกิดตอนนั้น" "แล้วพี่แอนดี้เกิดมาเจอผมเมื่อชาติที่แล้วหรือเปล่าครับ ?" แอนดี้สั่นหัว "เปล่า ! เราเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อสมัยรัชกาลที่สี่ แต่เราไม่ได้เกิดในสยาม เราเกิดที่นครพิงค์เชียงใหม่ สมัยนั้นเป็นประเทศราชขึ้นอยู่กับสยาม" รุ่งพยักหน้ารับฟัง "นอกจากเรื่องน้องวิแล้ว ผมมีเรื่องที่จะคุยกับพี่แอนดี้มากเลย เรื่องบันทึกในกล่องอาร์เอ็มเอ มันเกี่ยวพันกันยังไงกับพี่แอนดี้ ?" เสียงเปิดประตูห้องดังมาจากชั้นบน แอนดี้พยักหน้า "เหมือนกัน มีเรื่องเยอะมากที่เราต้องคุยกัน คงต้องค่อย ๆ คุย รุ่งรับมันภายในวันเดียวไม่ได้หรอก แต่เย็นวันนี้ คงต้องงดไว้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะโดนเล็บหงส์จิกเอา" รุ่งเอียงคอ ไม่เข้าใจในความหมาย หงส์อยู่ในชุดลำลอง เสื้อเดรสแขนกุด กางเกงขาสามส่วน เดินลงมาจากบันได เธอส่งยิ้มให้รุ่ง แล้วเดินตรงมาที่โต๊ะอาหาร "พี่แอนดี้ เอาของออกจากตู้เย็นหมดหรือยัง ?" "ยัง ก็รอหงส์อาบน้ำเสร็จนี่แหละ พร้อมแล้วค่อยกินก็ได้ พี่ยังไม่หิว หิวหรือยังรุ่ง ?" รุ่งยิ้มแหย ๆ "เอ่อ... หิวนิดหน่อยแล้วครับ กลางวันกินน้อย" หงส์พยักหน้า "พี่รุ่งรอแป๊บนะคะ เดี๋ยวหงส์จัดการเอง" เธอเดินตรงไปที่ตู้เย็น เป็นครั้งแรกที่รุ่งเห็นเลอหงส์ในชุดลำลอง ไม่แต่งหน้าทาปาก ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป หงส์เปิดตู้เย็น นำจานของสดออกมาวางที่เคาน์เตอร์ครัว รุ่งมองไปบนเคาน์เตอร์ "เยอะเหมือนกัน ! เดี๋ยวผมไปช่วยคุณหงส์" แอนดี้พยักหน้า "เดี๋ยวพี่ไปลากพัดลมมาใกล้ ๆ ตรงนี้ดีกว่า ไม่งั้นอาจจะเหงื่อตกได้ ห้องรับแขกนี่ไม่มีแอร์" รุ่งเดินมาที่เคาน์เตอร์ครัว ยืนมองชิ้นเนื้อที่ถูกแร่บาง ๆ ในจาน แล้วทำจมูกย่น หงส์หยิบจานผักมาวางที่เคาน์เตอร์ "อะไรเหรอคะ พี่รุ่ง ?" รุ่งสั่นหัว "เปล่า !" หงส์หยิบจานผักสด กับ เนื้อหมู บนเคาน์เตอร์ แล้วเดินผ่านรุ่ง ตรงไปยังโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมบาง ๆ ของแป้งทาตัวหงส์ โปรยมาแตะจมูกเขา รุ่งหยิบจานเนื้อวัว กับ อาหารทะเล เดินตามไปที่โต๊ะ หงส์เดินสวนกลับจากโต๊ะ พร้อมกับใบหน้าสดใสไร้เมคอัพ และ กลิ่นแป้ง ที่กระทบตา และ จมูกของเขาอย่างเต็มที่...อีกครั้ง เขาวางจานทั้งสองลงบนโต๊ะอาหาร แล้วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ "ชิบหายละกู !" รุ่งหันกลับไปมองที่บริเวณครัว ไฟสีเหลืองจากหลอดไฟเพดานส่องกระทบร่างของหงส์ที่กำลังเดินกลับมาพร้อมถาดใส่น้ำจิ้ม เธอจัดวางน้ำจิ้มบนโต๊ะอาหาร แล้วพูดขึ้นเบา ๆ "พี่รุ่งไม่ต้องเล่าเรื่องหงส์กับ คุณธรรม์ให้พี่แอนดี้ฟังนะคะ" รุ่งชะงักสักอึดใจ แล้วค่อยพยักหน้าโดยไม่มีคำถามกลับ เรื่องสามัญปกติของครอบครัวที่เขาสามารถเข้าใจได้ไม่ยาก พี่ชายย่อมหวงน้องสาว ในขณะที่ น้องสาวก็เกรงกลัวพี่ชาย รุ่งมีรอยยิ้มออกมาที่มุมปาก "ไม่ใช่อย่างที่พี่รุ่งคิดหรอกค่ะ !" หงส์พูดเพื่อดักความคิดของรุ่ง รุ่งเอียงคอ "รู้เหรอว่าผมคิดยังไง ?" เจ้าของบ้านเดินถือพัดลมตั้งพื้นมาที่บริเวณโต๊ะอาหาร แล้วเสียบสายไฟเข้ากับปลั๊กที่ผนัง เปิดสวิทช์พัดลม น้องสาวเดินกลับไปที่บริเวณครัว เพื่อหยิบแก้วน้ำ แอนดี้พยักหน้า "นั่งเลยรุ่ง !" สองหนุ่มทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกัน แอนดี้ชี้มือไปที่เก้าอี้ว่างด้านขวามือ "ปกติหงส์จะนั่งตัวนี้ แล้วด้านนี้ เป็นอาหลง อาหลงเป็นคนในครอบครัวอีกคนนึง ที่เพิ่งเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว" หงส์เดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำสองใบ แก้วเบียร์สองใบ พี่ชายสังเกตจำนวนแก้วเบียร์ มองหน้ารุ่ง "รุ่งกินเบียร์มั้ย ?" เขาสั่นหัว "ไม่กินครับ ! เชิญพี่แอนดี้ตามสบาย" "พี่ก็ไม่กิน แล้วหงส์เอามาเผื่อใคร ?" น้องสาววางแก้วเบียร์อีกใบหนึ่งไว้ที่โต๊ะฝั่งตรงข้ามที่ไม่มีคนนั่ง เธอเปลี่ยนภาษาเป็นแมนดาริน "สำหรับพี่หลง !" เธอทรุดตัวลงนั่ง แล้วเริ่มยิงคำถามด้วยภาษาจีนกลาง "แขกสาวของพี่ใหญ่ไม่มาแล้วหรือ วันนี้ ?" พี่ชายขมวดคิ้ว ตอบกลับด้วยภาษาจีนกลาง "แขกสาว ? เจนจิราน่ะเหรอ ? เธอมาเมื่อตอนบ่ายแล้ว เธอนึกว่าแขกที่ฉันเชิญมากินสุกี้ คือ เจนจิรา ?" อาคันตุกะคนเดียวของบ้าน ที่ฟังภาษาจีนกลางไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้แต่กลอกตาไปมา แต่น้ำเสียงของสาวหงส์ ก็พอจะแสดงให้เขารับรู้ได้ว่า มีอารมณ์ที่หงุดหงิดปนอยู่ "ตอนนี้มีแขกอยู่ ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้ แค่รู้ว่าเธอมาแล้ว ไม่ได้อยู่ร่วมกินสุกี้ แค่นี้ก็ดีแล้ว พอแล้ว !" น้องสาวลงท้ายด้วยน้ำเสียงที่ห้วน แอนดี้มองหน้ารุ่ง "โทษที รุ่ง ! รุ่งพอฟังภาษาจีนกลางออกใช่มั้ย ?" เขาสั่นหัว "รู้เรื่องเป็นบางคำเท่านั้นเองครับ ถ้าเป็นประโยคยาว ๆ พูดเร็ว ๆ แบบเมื่อกี๊ ฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ" แอนดี้พยักหน้า "ถือว่าเป็นคนกันเอง ไม่มีอะไรจะต้องปิดบังกัน" เขาหันหน้าไปหาน้องสาว "รอพี่แป๊บนึง !" ว่าแล้วพี่ชายก็ลุกจากเก้าอี้ เดินตรงไปที่บันได ก้าวขึ้นไปชั้นบน รุ่งมองหม้อสุกี้ที่เริ่มเดือด เขากลืนน้ำลายติดกันสองครั้ง หงส์มองหน้ารุ่ง แล้วส่งยิ้มมุมปาก เธอมองไปที่โต๊ะอาหาร "ฟังรู้เรื่องแค่บางคำ ก็ขอเค้าแต่งงานเป็นภาษาจีนได้แล้ว เก่งจัง !" ประโยคกัดเล็ก ๆ ของหงส์ ทำให้รุ่งหัวเราะ "ผมแค่แหย่เค้าเล่นเพราะรู้ว่า เค้าฟังไม่ออกแน่ ๆ" หงส์พยักหน้าหงึก ๆ "อื้อ ! แล้วเป็นไงล่ะ ? แหย่ไปสองภาษา เค้าฟังออกมั้ยล่ะ ?" "คุณหงส์นี่กวนจัง ! มีภาษาอะไรอื่นอีกมั้ย ที่คุณหงส์รู้จัก ? " เธอไม่ตอบ แต่ถามกลับ "พี่รุ่งอยากพูดภาษาอะไรอีกล่ะ ? ลองพูดมาก่อนสิ !" "อือ ! ตอบคำถามด้วยคำถาม ถือว่าใช้ได้เลย ผมมีคำถามสำหรับคุณหงส์เหมือนกัน แต่ไว้โอกาสที่เหมาะก่อน ค่อยถาม" หงส์ยื่นหน้ามาทางรุ่ง "ตอนนี้ไม่เหมาะเหรอคะ ?" รุ่งนึกขำในใจ ร้อยทั้งร้อยเจอมุขนี้ของเขา ก็ต้องตกหลุม เขาขมวดคิ้ว ทำเป็นคิดทบทวน แล้วเอียงคอ "อือ.... มัน.... ถ้าโอกาสที่ไม่เหมาะสม ผมอาจจะถูกเข้าใจผิดก็ได้ แล้วยิ่งคุณหงส์เป็นน้องพี่แอนดี้ด้วย ผมยิ่งต้องระวัง" อีกฝ่ายขมวดคิ้วทันที "ทำไมคะ ? หงส์เป็นน้องพี่แอนดี้แล้วทำไม ? พี่รุ่งต้องกลัวอะไรเหรอคะ ?" น้ำเสียงคะยั้นคะยอของหงส์ ทำให้รุ่งยิ่งรู้สึกสนุกเมื่อแน่ใจว่า เขาเริ่มจะป่วนสมองเธอได้บ้างแล้ว "ผมเคารพพี่แอนดี้มาก แล้วก็ไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องที่ทำให้พี่แอนดี้ต้องระคายเคือง บางทีนะ ผมคิดว่า ผมไม่ถามเลยจะดีกว่า" ระเบิดถูกทิ้งแล้ว ได้ผลตามที่คาด สีหน้าของหงส์เปลี่ยนไปจากเดิมอีก เธอกลอกตาไปมา กำลังใช้ความคิดคาดเดาคำถามที่อยู่ในใจของรุ่ง แต่ครั้งนี้ เธอไม่สามารถตีกรอบให้คำตอบมันเล็กลงได้เลยว่า ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอตอนนี้ อยากตั้งคำถามเธอเรื่องใด "ทำไมคำถามพี่รุ่ง ต้องไปเกี่ยวกับพี่แอนดี้ด้วย ? พี่รุ่งอยากรู้อะไร ถามมาเลย" แอนดี้เดินลงมาจากบันได ถือกล่องไม้ขนาดประมาณหนึ่งฟุตติดมือมาด้วย เขาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม แล้วเปิดฝากล่องไม้ "นี่เป็นของทั้งหมด ที่พี่ขอคืนจากเจนจิรา" เขาวางกล่องไม้ที่ถูกเปิดแล้วบนโต๊ะข้างหน้าน้องสาว ในกล่องมีทั้งซองจดหมาย มีทั้งรูปถ่าย "ตอนที่เจนเค้าเก็บของไป เค้าหยิบกล่องนี้ติดไปด้วย พี่ตามหากล่องนี้มานาน ในนี้มีจดหมายที่แม่เขียนมาหา พี่เก็บทั้งหมดไว้ในกล่องนี้ เมื่อวาน เพิ่งนึกได้ว่า กล่องที่หาไม่เจอนี้ น่าจะติดตัวไปกับเจนตอนที่เค้าขนของกลับไป พี่เลยโทรไปถาม ก็ได้ความตามนี้จริง พี่เลยขอให้เจนเค้าเอามาคืน" แอนดี้เลือกที่จะพูดภาษาไทย เพราะ เขาไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องปิดบังไม่ให้รุ่งรับรู้ หงส์พยักหน้าเข้าใจ เธอหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งจากกล่องขึ้นมาดู เป็นภาพถ่ายของพี่ชายไม่ใส่เสื้อ ภาพนี้ทำให้เธอยิ้มออกมาได้ จึงพูดกับพี่ชายด้วยภาษาแมนดาริน "ฉันจำภาพนี้ได้ ภาพนี้ถ่ายเมื่อ..." พี่ชายพูดสวนขึ้น "พูดไทยเถอะ ! พี่ไม่มีอะไรต้องปิดรุ่ง รุ่งถือว่าเป็นคนกันเอง" "ภาพนี้ถ่ายที่ชะอำ หงส์เป็นคนถ่ายเอง เป็นทริปที่ เหิ่นอู๋เหลียว ที่สุด" แอนดี้มองหน้ารุ่ง "ฟังออกหรือเปล่านี่ ? เค้าพูดปนภาษาจีนมาด้วย" รุ่งสั่นหัว "ไม่ออกครับ แปลไทยเถอะครับ ถ้าอยากให้ผมเข้าใจ" หงส์หันหน้ามาทางรุ่ง "เหิ่นอู๋เหลียว แปลว่า น่าเบื่อโคด ๆ ! แต่พี่แอนดี้คงสนุก เพราะได้ไปกับคนที่ถูกใจ" พี่ชายหัวเราะเบา ๆ "เจนเค้าก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ! เราเองน่ะ มีอคติกับเค้ามากไปหน่อย" หงส์หันมาทางพี่ชาย แล้วเริ่มขึ้นเสียงเป็นภาษาจีนกลาง "มากไปหน่อย ? ฉันเองอย่างมากก็แค่บ่น แต่พี่ใหญ่ใช้ปืน เวลาพี่ใหญ่ไม่พอใจเพื่อนผู้ชายของฉัน พี่ใหญ่พกปืนไปเลย มันไม่มากกว่าฉันหรือไง ?" รุ่งหัวเราะ เมื่อได้ยินหงส์เปลี่ยนภาษากลับไปเป็นภาษาถิ่น ท่าทางคงมีเรื่องราวส่วนตัวที่จะเคลียร์กับพี่ชาย สำเนียงบอกประมาณนั้น แอนดี้ตอบเป็นภาษาไทย "ไม่มีแล้ว ! พี่ขายปืนไปหมดแล้ว เรื่องเพื่อนของหงส์ พี่ไม่เคยยุ่งด้วยมาตั้งนานแล้ว" รุ่งเบิกตาโต "เล่นปืนเลยเหรอครับ ?" หงส์หันกลับมายักคิ้วให้รุ่ง "ใช่ ! พี่รุ่งอย่ามาเข้าใกล้หงส์มากนัก พี่แอนดี้ยิงตายไม่รู้ด้วย" สำเนียงของหงส์กระแทกกระทั้นเพื่อประชดพี่ชาย รุ่งสะดุ้งทันที เขามองหน้าหงส์ "ครับ ครับ ! ไม่เด็ดขาดครับ ! เอ่อ.... เรานั่งแยกโต๊ะกันเลยดีมั้ยครับ ?" แอนดี้หัวเราะชอบใจ "ฮ่า ๆๆๆ ! หงส์คิดว่า ถ้าพี่จะเอาเรื่องใครคนนึงจริง ๆ ไม่มีปืนแล้วพี่จะเอาเรื่องไม่ได้เหรอ ?" รุ่งอ้าปากหวอ "โอ.... นี่ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ !" หงส์ส่งหางตามองมาทางรุ่ง "นี่ไง ! พี่แอนดี้ทำให้พี่รุ่งกลัวไปอีกคนแล้ว ต่อไปก็คงไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้ามาที่บ้านนี้" รุ่งนึกอะไรได้ เขาหัวเราะหึ ๆ "ต้องขับออดี้กันกระสุน !" เขาพึมพำเบา ๆ แต่ก็ดังพอที่สาวข้าง ๆ จะได้ยิน หงส์จ้องหน้ารุ่ง เขารีบกลบเกลื่อน "เราเริ่มกันได้หรือยังครับ ? ขอโทษที่ผมเป็นแขกแต่ไร้มารยาท คือ... ผมหิวน่ะครับ !" แอนดี้พยักหน้า เอื้อมมือไปหยิบฝาหม้อขึ้น มองเห็นน้ำเดือดปุด ๆ มีควันลอยอบอวล "เอ้า ! เริ่มได้เลย ไม่ต้องมีพิธี" หงส์คว้ารูปใบเดิมมาไว้ที่หน้าตัก "รูปนี้ ขอหงส์ ! หงส์เป็นคนถ่าย มันเป็นของหงส์" พี่ชายพยักหน้า "เออ ! เอาไปเถอะ !" หงส์พยักหน้า "งั้นหงส์เอาไปเก็บก่อน" แอนดี้ยื่นกล่องไม้ให้ "หงส์ ! ฝากกล่องนี่เอาไปวางที่เคาน์เตอร์นั่นก่อนก็ได้" น้องสาวยื่นมือรับกล่อง แล้วลุกเดินออกไป รุ่งจัดการเด็ดผักสด โยนลงในหม้อ สายตาเล็งไปที่เนื้อวัว "ชอบเนื้อวัวล่ะสิ !" แอนดี้สลับจานเนื้อวัวมาวางใกล้ ๆ รุ่ง หงส์เดินกลับมาทรุดตัวลงนั่ง "เห็นพี่รุ่งเล็งมาตั้งแต่อยู่บนเคาน์เตอร์แล้ว เนื้อวัวจากที่นี่ สไลด์บางเฉียบ" รุ่งมองไปที่จานเนื้อวัว เขายิ้มแหย ๆ แอนดี้คะยั้นคะยอ "เอาเลยรุ่ง ! มา พี่คีบให้" เขาใช้ตะเกียบคีบเนื้อวัว แล้วหย่อนไปในหม้อทางด้านหน้าของรุ่ง รุ่งมองหน้าแอนดี้ "เอ่อ.... ที่ผมมองมันแบบนั้น เพราะว่า..." เขาชะงัก หงส์หัวเราะขึ้น เธอฉุกคิดอะไรบางอย่างได้ "เพราะพี่รุ่งไม่ทานเนื้อวัว !" รุ่งพยักหน้าหงึก ๆ "หงส์นึกแล้ว ! มิน่าถึงมองมันแปลก ๆ" เธออมยิ้ม รุ่งพยักเพยิด "เชิญพี่แอนดี้กับคุณหงส์ทานกันเลยครับ ตามสบาย ผมทานอย่างอื่นได้" "รุ่งไม่กิน พี่ก็ไม่กิน" แอนดี้ตอบ หงส์พยักหน้า "ค่ะ ! เราไม่กินก็ได้ เดี๋ยวเอาเนื้อวัวไปเก็บ ไม่กินก็ไม่กินด้วยกัน" เธอเอื้อมมือหยิบจานเนื้อวัวบนโต๊ะ แล้วลุกจากโต๊ะ เดินถือจานออกไป แอนดี้มองตามหลังน้องสาว "บทจะง่าย ก็ง่าย ! ความจริงหงส์ชอบกินเนื้อวัวมากที่สุด ถ้าไม่มีเนื้อวัว ก็ไม่ต้องกินสุกี้กัน วันนี้กลับยอมได้ รุ่งไม่กินเนื้อวัวตั้งแต่เกิดเลยเหรอ ?" "ครับ ! ที่บ้านเป็นคนจีน นับถือเจ้าแม่กวนอิม ก็เลยไม่กินเนื้อวัว พอเห็นแล้วก็รู้สึกคาวแล้ว เนื้อวัวกับเบียร์ ถ้าผมต้องกิน ผมกินเบียร์ดีกว่า แค่เมา แต่กินเนื้อวัว คงได้อ้วกเลย" หงส์เดินกลับมา หยิบกระป๋องเบียร์ในถังแช่ แล้วเปิดฝา เทเบียร์ใส่แก้วจนใกล้เต็ม แล้วยกแก้วมาวางไว้ข้างหน้ารุ่ง เขามองหน้าเธอ หงส์เชิดหน้า "ไม่อ้วกใช่มั้ยล่ะ ? เมื่อกี๊ได้ยิน" รุ่งมองแก้วเบียร์ที่ตั้งอยู่ข้างหน้า "ผมไม่ค่อยถนัดของมึนเมาครับ กินไปแก้วเดียว ผมนอนข้ามวันแน่ ๆ คุณหงส์เชิญตามสบายเถอะ" เธอเปิดเบียร์อีกกระป๋อง เทลงในแก้วของเธอ แอนดี้ขยับตัวนั่งตรง "สุกี้สำหรับที่บ้านนี้ จะเป็นมื้อสำหรับคนในครอบครัวเท่านั้น ใครไม่ใช่คนในครอบครัว มากินด้วย ก็จะถูกบางคนงอน" เขาเหล่ตามองน้องสาว แต่มั่นใจดีว่า น้องสาวไม่ได้มีอคติกับแขกร่วมโต๊ะในวันนี้ น้องสาวหัวเราะหึ ๆ ท่าทางผ่อนคลาย เพราะรู้ว่าพี่ชายกำลังล้อเล่น แอนดี้พูดต่อ "แม่เคยสอนพี่กับหงส์ตั้งแต่เด็ก แม่สอนว่าไง หงส์ว่าซิ !" สาวจีนแผ่นดินใหญ่รับลูกส่งจากพี่ชาย พูดแมนดารินสำเนียงปักกิ่ง "อี้เก้อเหรินเตอหวั่นชาน จื่อซื่อ อี้ตุ้นฟั่น อี้เจียเหรินเตอหวั่นชาน ซื่อ อ้าย" ( 一个人的晚餐只是一顿饭, 一家人的晚餐是爱 ) รุ่งพยักหน้าเหมือนเข้าใจดี "ซึ้งมาก ! สุดยอด !..... เอ่อ... มันแปลว่าอะไรครับ ?" หงส์หัวเราะหึ ๆ แอนดี้อาสาเป็นคนแปล "อาหารค่ำที่กินคนเดียว มันก็แค่อาหารหนึ่งมื้อ แต่อาหารค่ำที่กินกับครอบครัว มันคือ มื้อแห่งความรัก" รุ่งพยักหน้าเข้าใจ แอนดี้ยกแก้วน้ำเปล่าขึ้น "วันนี้ รุ่งมากินสุกี้ที่บ้าน ก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเรา พี่ยินดีที่ได้รุ่งมาเป็นน้องชายนะ แต่ไม่รู้รุ่งจะยินดีหรือเปล่า ที่มีน้องสาวแบบหงส์ เอ้า ! ชนแก้วกันหน่อย !" หงส์ก็ยกแก้วเบียร์ขึ้น รุ่งรีบจับแก้วน้ำ แต่มองไปที่แก้ว มันคือแก้วเปล่าที่ไม่มีน้ำ จึงรีบฉวยแก้วเบียร์ขึ้นแทน "กันเปย !" สองพี่น้องพูดพร้อมกัน หงส์พูดขึ้น "กันเปย แปลว่า ดื่มให้หมดแก้ว" เธอยกเบียร์ขึ้นดื่ม รุ่งได้ยินดังนั้น จึงจำเป็นต้องยกเบียร์ขึ้นดื่ม หลับตาปี๋ด้วยความขม แล้วพยายามกลืนเบียร์ หวังให้หมดแก้วให้ได้ เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมั่นใจว่าเบียร์หมดแก้วแล้ว ค่อย ๆ วางแก้วลงบนโต๊ะ แอนดี้กำลังจ้องหน้าเขา หงส์นั่งอมยิ้ม สายตาเขาเหลือบไปเห็นแก้วเบียร์ของหงส์ เบียร์ยังเหลืออยู่เกือบเต็มแก้ว นั่นแสดงว่า เธอเพียงแค่จิบไปเพียงนิดเดียว "อ้าว ! ไหนว่าหมดแก้ว !" เขาอุทาน สายตาจ้องไปที่แก้วเบียร์ของหงส์ แอนดี้หัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้า "เอ้า ! กินสุกี้กันเถอะ" รุ่งค่อย ๆ หายใจเข้าออกช้า ๆ เพราะความจุก เขามองหน้าหงส์ เธอคีบเนื้อกุ้งลงในหม้อ มีรอยยิ้มกวน ๆ เปื้อนหน้าอยู่ตลอด ***************************************************************************************** อ่านหน้า > 2, 3, 4 |
|||||||