ตอน 20 หน้า 2

วันหยุดของพี่ใหญ่

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

เสียงโทรศัพท์สายแรกของวันดังขึ้นที่ห้องรับแขก

เอนกเดินมาที่เคาน์เตอร์เพื่อรับสาย

"ฮัลโหล ! บ้านคุณแอนดี้ครับ !"

"พี่แอนดี้อยู่มั้ยคะ ?"

"จากที่ไหนครับ ?"

"บอกพี่แอนดี้ว่า เจนจิราโทรมา"

เอนกทวนคำ

"เจนจิรา ! ได้ครับ !"

เสียงฝีเท้าของคนวิ่งลงบันได ทำให้เอนกหันไปมอง

หงส์น้อยอยู่ในชุดเสื้อยืดลำลอง กางเกงขาสั้น ก้าวพรวดลงบันได แล้วยกมือขอเป็นคนรับสายเอง

"เค้าบอกชื่อเจนจิราใช่มั้ย พี่เอนก ?" เธอตั้งใจพูดด้วยเสียงที่ดัง เพื่อให้ลอดเข้าไปในสาย

เอนกพยักหน้ายื่นหูโทรศัพท์ให้

"สวัสดีค่ะ ! หงส์พูดค่ะ !"

"อ้อ ! น้องหงส์ ! พี่เจนเอง ! น้องหงส์สบายดีหรือเปล่า ? พี่แอนดี้อยู่มั้ยจ๊ะ ?"

สีหน้าของหงส์เรียบเฉย น้ำเสียงก็เรียบเหมือนสีหน้า

"พี่แอนดี้ไม่ว่างรับสายค่ะ ! พี่เจนมีธุระอะไร คุยกับหงส์ได้ค่ะ"

เจนจิราสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรจากน้ำเสียง เหมือนในอดีตที่เธอได้เคยสัมผัสจากน้องสาวแอนดี้คนนี้มาตลอด

"พี่ว่า พี่แอนดี้คงอยากจะเป็นคนคุยเองมากกว่านะ"

หงส์สวนกลับทันที

"คงไม่ใช่ค่ะ ! พี่แอนดี้ไม่มีธุระอะไรเกี่ยวข้องกับพี่เจนอีก พี่เจนมีอะไร ฝากหงส์ไว้ได้ค่ะ"

เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังมาจากอีกฝ่าย

"น้องหงส์ ! พี่ไม่ได้เป็นคนโทรหาพี่แอนดี้ก่อนนะ แต่พี่แอนดี้ เป็นคนโทรมาหาพี่ก่อน แล้วบอกให้พี่โทรกลับ"

หงส์ขมวดคิ้วทันที เธอรำพึงออกมาเป็นภาษาจีนกลาง

"ปู้ฮุ่ยปา !" (เป็นไปไม่ได้ !)

หลังจากเงียบไปสักอึดใจ เธอตัดสินใจตอบ

"งั้น ถือสายรอนะคะ !"

เธอหันหน้ามาพยักหน้ากับเอนก สื่อความหมายว่า ให้เขาไปตามพี่ชายเธอมาได้

เอนกพยักหน้ารับรู้

หงส์เดินเลี่ยงจากห้องรับแขกมายืนอยู่หน้าประตู แต่รวบรวมโสตประสาททั้งหมด เพื่อฟังการสนทนาของพี่ชาย

เพียงแค่ประโยค "เจนมาหาผมที่บ้านวันนี้ได้เลย" ที่หลุดจากปากพี่ชาย ก็ทำให้เธอแทบทรุดเข่าลงไปนั่ง

*****************************************************************************************

หงส์ยืนอยู่ใต้ร่มไม้นอกประตูรั้วบ้าน

บุหรี่มวนแรกของวันถูกจุดขึ้น

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในกระเป๋ากางเกง เธอควักโทรศัพท์ออกมาดูชื่อคนโทรเข้า แล้วแนบโทรศัพท์เข้ากับหู

"สวัสดีค่ะ พี่ทอม !"

"น้องหงส์ ! เมื่อวานน้องหงส์เป็นคนพาพี่กลับมาที่คอนโดใช่มั้ย ?"

น้องหงส์หัวเราะเบา ๆ

"พี่ทอมตื่นแล้วเหรอคะ ? จำอะไรได้บ้าง ?"

เสียงถอนหายใจดังมาจากปลายสาย

"เฮ่อ ! โล่งอก ! แค่รู้ว่าเป็นน้องหงส์พี่ก็สบายใจไปเปลาะนึงแล้ว ใจพี่หายหมดเลย วันนี้หารถไม่เจอ นึกตั้งนานว่าเมื่อวานเราไปทำอะไรที่ไหน พี่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าพี่ไปเจอหงส์ได้ยังไง"

"หงส์ก็อยากถามพี่ทอมเหมือนกันว่า พี่ทอมโผล่ไปนอนอยู่ที่เรือนไม้ได้ยังไง ?"

เสียงปลายทางค่อย ๆ พูดสำเนียงยานคาง

"หา.... ! พี่ไปที่โน่น !"

"ค่ะ ! ยามที่นั่นบอกว่า เห็นพี่ทอมลงจากรถแท็กซี่ แล้วพี่แอนดี้ก็ไปเจอพี่ทอมนั่งหลับอยู่ที่เก้าอี้ พี่แอนดี้ก็เลยพาพี่ทอมมาเจอหงส์ แล้วให้หงส์ขับรถพาไปส่งที่คอนโด"

เสียงปลายทางเงียบไป

"พี่ทอม ! พี่ทอมโอเคหรือเปล่า ? พี่โดนอะไรคะ เมื่อวาน ? ยานอนหลับหรือเปล่า ?"

เสียงอ่อย ๆ ตอบมา

"ใช่ ! พี่ให้หมอฉีดยานอนหลับ แต่พี่ไม่รู้ตัวว่า ทำไมพี่ถึงเรียกแท็กซี่ไปที่เรือนไม้ได้ พี่จำอะไรไม่ได้เลย แล้วรถของพี่... ถ้างั้น รถของพี่ก็จอดอยู่ที่หน้าคลีนิคน่ะสิ"

หงส์โยนบุหรี่ทิ้งลงพื้น แล้วใช้เท้าขยี้

"พี่ทอมไม่มีรถใช่มั้ยคะ ? เดี๋ยวหงส์ไปหานะ"

"ไม่ต้องหรอกหงส์ ! พี่กลับไปเองได้"

หงส์ยังยืนยัน

"พี่ทอมรออยู่ที่ห้องเถอะค่ะ ! หงส์ไม่อยากอยู่บ้านตอนนี้ อยากหลบหน้าคน เดี๋ยวหงส์ไปหานะคะ แล้วค่อยคุยกัน"

ซีฟ่งเดินตรงเข้ามาในตัวบ้าน

พี่ชายไม่อยู่ข้างล่างแล้ว เหลือแต่เอนกกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์

"พี่เอนก วันนี้พี่แอนดี้ไม่ได้ออกไปไหนใช่มั้ยคะ ?"

เอนกพยักหน้า

"เปล่า !"

หงส์พยักหน้ารับรู้

"ถ้าพี่แอนดี้ไม่ได้ไปไหน หงส์ขอยืมรถใช้ได้มั้ยคะ ? จะไปธุระ"

เอนกพยักหน้า

"กุญแจอยู่ที่โต๊ะโน่น ! ไม่ต้องเติมน้ำมันนะ มันยังเหลือครึ่งถัง พี่จัดการเอง จะไปซื้อของมาทำสุกี้เหรอ ?"

เธอถอนหายใจเบา ๆ ก่อนตอบ

"จะได้กินหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย !"

น้ำเสียงทิ้งท้ายทำให้เอนกรู้สึกฉงน

*****************************************************************************************

รุ่งมายืนรอใต้อาคารหอพักตั้งแต่เก้าโมงเช้า

.... เพื่อนตัวเตี้ย ผิวหมึก ผมหยิก แต่งตัวในชุดทำงานเสื้อเชิ้ตกางเกงแสล็ค พร้อมรองเท้าหนังสีดำคู่เก่า กำลังเดินลงมาจากบันไดหอพัก

เขาร้องทักทันทีที่สบตากับรุ่ง

"อ้าวรุ่ง ! นายมารอเราเหรอ ?"

รุ่งยื่นถุงพลาสติคให้

"เอ้า ! นี่ รองเท้าผ้าใบ เบอร์สี่สิบ นายคงใส่ได้พอดี ซื้อให้ !"

นายเตี้ยจ้ำพรวดลงจากบันได เข้ามาหาเพื่อน ยื่นมือรับถุงทันที

"รองเท้าผ้าใบ ! นายรู้ใจเรา"

เขาควักกล่องรองเท้าออกจากถุง ปล่อยถุงพลาสติคให้ปลิวตามลม

"อ้าว ! ทิ้งถุงเลย !"

รุ่งเดินตามถุงพลาสติคไป ก้มลงฉวยไว้ แล้วเดินกลับมา

มอแกนทิ้งก้นนั่งลงบนพื้น ถอดรองเท้าคู่เก่าออก แล้วหยิบรองเท้าผ้าใบสีดำคู่ใหม่ออกมาลอง


รองเท้าใส่ได้พอดีกับเท้าของเขา มอแกนฉีกยิ้มกว้าง ลุกขึ้นมายืน

"รู้สึกดีจัง ได้ใส่รองเท้าผ้าใบแล้ว วันนี้เค้าจะแจกเสื้อยืดเลยหรือเปล่า ?"

รุ่งขมวดคิ้ว แล้วเอียงคอ

"ก็น่าจะ นะ ! ถ้าได้เสื้อนายก็ใส่เสื้อไปก่อนเลย กางเกงเค้าต้องตัดใหม่"

"ดี ๆ ๆ ไว้ได้เสื้อแล้ว นายกับเรา มาถ่ายรูปด้วยกันนะ ได้ใส่เสื้อยืดฟันปาร์คยืนถ่ายรูปคู่กับนาย เราภูมิใจมาก"

รุ่งหัวเราะหึ ๆ เพราะประโยคที่แว่บเข้ามาในใจ คือ 'เราเป็นพ่อนายตั้งแต่เมื่อไหร่ นายถึงต้องมาภูมิใจที่ได้ถ่ายรูปคู่ด้วย ?'

รุ่งยื่นถุงพลาสติคให้เพื่อนเตี้ย

"เอารองเท้าเก่าทิ้งใส่ถุงนี่ แล้วค่อยเอาไปทิ้งขยะ"

มอแกนพยักหน้า แล้วทำตามคำแนะนำ

รุ่งพูดขึ้น "ถ่ายรูปคู่ก็ดี ไม่รู้เราจะได้ใส่เสื้อฟันปาร์คนี่อีกนานเท่าไหร่"

มอแกนมองหน้าเพื่อน แล้วกระพริบตาปริบ ๆ

"นายต้องกลับไปทำงานกับครอบครัวจริง ๆ เหรอ ?"

รุ่งถอนหายใจ

"ก็คงยังงั้น !"

มอแกนผงกหัวหงึก ๆ แล้วตีหน้าเศร้า มองขึ้นฟ้า

รุ่งมองหน้าเพื่อน

"นายพอใจรองเท้ามั้ย ?"

เพื่อนพยักหน้า

รุ่งพยักหน้าให้

"ดี ! งั้น ถึงตาเราทวงนายบ้าง คืนนี้ นายจัดการเล่าเรื่องแฟนคลับของเราให้เราฟังทั้งหมด แล้วเราจะลืมเรื่องเสื้อของเราซะ"

เพื่อนผมหยิกตีหน้าเซ่อ

"เสื้ออะไรเหรอ ?"

"เสื้ออะไร ! ยังมาถามอีก ! เสื้อลายสก็อตสีแดงตัวใหม่ที่เราเพิ่งใส่ครั้งแรก ตอนนี้มันกลายเป็นขยะไปแล้ว เพราะเปื้อนเลือดปลอม นายลืมไปแล้วเหรอ ?"

มอแกนพยักหน้าติดกันหลายครั้ง

"ไม่ลืม ไม่ลืม ! ได้ ๆ เย็นนี้เราจะเล่าให้นายฟังนะ แล้วถ้าเราเงินเดือนใหม่ออก เราจะซื้อเสื้อใหม่ให้นายนะ"

"ไม่ต้อง ! นายแค่เล่าเรื่องแฟนคลับให้เราฟังก็นับว่าเป็นบุญล้นพ้นแล้ว"

เพื่อนผิวหมึก พยักหน้ารับอีกครั้ง เขาเดินถือถุงพลาสติคใส่รองเท้าเก่าไปที่ถังขยะ แล้วยัดถุงลงไปในถัง

รุ่งชี้มือไปที่สวนสนุก

"ไป ! เข้าออฟฟิศกัน !"

มอแกนออกเดินตามรุ่ง

"เอ่อ.... แล้ว แล้ว.... คุณหงส์เป็นไงบ้าง คืนนั้นน่ะ ?"

"ก็ไม่เห็นเค้าเป็นไง คงหายแล้วมั้ง"

สองสหายเดินคุยกันจากทางเดินหอพัก มายังลานรอรถชัทเทิ่ล

"ไม่เห็นนายเล่าเลยว่า นายได้คุยอะไรกับคุณหงส์อีก แค่เจอกันที่เรือนไม้แค่นั้นเหรอ ?"

"ก็แค่นั้น"

"ถ้านายเจอคุณหงส์อีก ฝากบอกเค้านะว่า เราเป็นห่วง"

รุ่งหันมาหาเพื่อน

"นายบอกเองแล้วกัน เพราะเราจะไม่เจอคุณหงส์อีกแล้ว"

เขาพูดแล้ว จ้ำเท้าให้เร็วขึ้น

ไอ้ผมหยิก จ้ำเท้าตามมาจนทัน

"ทำไม ทำไม ? นายทะเลาะกับเค้าเหรอ ?"

รุ่งเร่งฝีเท้าขึ้นอีก

"เปล่า ! ไม่มีอะไร ?"

มอแกน ต้องเปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะ ๆ เพื่อตามให้ทัน

"ใส่รองเท้าผ้าใบแล้วสบายตีนดี เราได้เดินตามนายทันซะที ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ! เพราะเดี๋ยวนายก็ต้องเจอกับเค้าอีกอยู่ดี"

รุ่งหยุดเดินทันที แล้วหันกลับมา

"มอแกน นายฟัง ! ชีวิตเราสองคน กับ ชีวิตของเค้า ไม่มีอะไรจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกัน เค้าอยู่ของเค้า เราอยู่ที่ฟันปาร์ค ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง เรา... ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเจอเค้าอีก นายเข้าใจหรือยัง ?"

น้ำเสียงที่ห้วน และ ดัง ทำให้เพื่อนตกใจ

มอแกนตอบด้วยเสียงอ่อย ๆ

"ทำไมนายต้องหงุดหงิดด้วย ? ก็เพียงแค่เราสังเกตได้ว่า นายกับเค้า ชอบเจอกัน"

"ชอบเจอกัน ! ความหมายคืออะไร ? ทำไมต้องมีคำว่า ชอบ ?"

"ไม่ ๆๆๆ เราหมายถึงว่า นายมีเรื่องต้องเจอกับเค้าได้เรื่อย ๆ"

รุ่งถอนหายใจ

"ต่อไปนี้ จะไม่มีแล้ว !"

พูดแล้วก็หันหลังเดินตรงไปที่บริเวณเก้าอี้รอรถชัทเทิ่ล

มอแกนยกมือขึ้นเกาหัว แล้วเดินตามมา

โทรศัพท์มือถือของรุ่งดังขึ้น

เขาหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง ดูหน้าจอ แล้วกดรับสาย

"หวัดดีครับ พี่ธรรม์ !"

"หวัดดีรุ่ง สะดวกคุยมั้ย ?"

"ครับ ! สะดวกครับ"

"รุ่งได้เล่าเรื่องที่เราคุยกันที่ลานจอดรถฟันปาร์คให้ใครฟังหรือยัง ?"

เขานึกถึงเรื่องสำคัญที่คุยกับธรรม์ค่ำวันนั้นได้ดี

"แม่ครับ ! ผมเล่าให้แม่ฟัง เรื่องใหญ่แบบนี้ไม่บอกแม่คงไม่ได้ แต่แม่ก็เข้าใจครับ ถ้าผมตัดสินใจแล้ว แม่ก็บอกว่าดีแล้ว หลังจากนี้คงต้องบอกอาน้อย คงมีแค่สองคนเท่านั้นครับ"

"ไม่ต้องนะรุ่ง ! หยุดเรื่องคุยกับอาน้อยไว้ก่อน เมื่อวานพี่คุยกับอามัณแล้ว เรื่องไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด อามัณไม่เห็นด้วยนะ"

คิ้วของเขาขมวดชนกันทันที

"ไม่เห็นด้วย ! เรื่องไหนครับที่ไม่เห็นด้วย ?"

เสียงปลายทางถอนหายใจ

"อามัณบอกว่า เรื่องการส่งน้องวิไปเรียนสก็อตแลนด์ เป็นเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องที่มาต่อรองแลกเปลี่ยนได้ ยังไงน้องวิก็ต้องไปเรียนที่สก็อตแลนด์"

เขาอึ้งไปสักพักหลังจากที่ได้ยิน สติที่ตามไม่ทัน เริ่มสร้างเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ที่ทำให้เขาต้องระเบิดอารมณ์ออกมา

"งั้น ความสำคัญของผมที่มีกับธุรกิจไตรสรณ์ ก็ไม่ได้มากมายเหมือนกับที่ผมคิดไว้ ถ้าความสำคัญของตัวผม เอาไปต่อรองเรื่องนี้ไม่ได้

ส่งน้องวิไปสก็อตแลนด์ มีผลมากกว่าการได้ผมกลับไปช่วยไตรสรณ์ น้องวิคงจะกลับมาเป็นใหญ่ ใช้การอะไรได้มากมายกว่าการได้ผมกลับไป

แต่ทำไม ? ทำไมพี่ธรรม์ถึงมองเรื่องนี้ไม่ออก ? พี่ธรรม์ทำท่าดีใจที่ผมจะกลับไปทำงานกับอามัณขนาดนั้น แสดงว่า พี่ธรรม์รู้ดีว่า ผมสำคัญ ไม่งั้น คงไม่มีท่าทีแบบวันนั้น แต่ผลออกมาแบบนี้ แสดงว่าพี่ธรรม์เองก็ไม่ได้รู้อะไรมากซักเท่าไหร่

หรือ พี่ธรรม์เอง มีความสำคัญไม่พอสำหรับอามัณ ? ผมกับพี่ธรรม์สองคน ยังไม่สามารถทำให้อามัณฟังได้เลย

พี่ธรรม์เป็นมือขวาอามัณจริงหรือเปล่า ?"

ประโยคสุดท้ายที่หลุดออกไป คือ คำกระแทกที่ผสมไปด้วยอารมณ์ร้อน

"รุ่ง ! พี่ขอโทษ ! วันนี้พี่โทรมาบอกรุ่งเรื่องนี้ เพื่อให้รุ่งรู้ แล้วไม่ต้องเก็บเรื่องการกลับมาทำงานกับอามัณไปคิดต่อ รุ่งทำงานที่รุ่งชอบแหละ ดีแล้ว พี่มีเรื่องบอกแค่นี้ พี่ขอโทษอีกครั้งนะ พี่ไม่รอบคอบเอง"

คำขอโทษสองครั้งของผู้บริหารธุรกิจระดับหลายพันล้าน ทำให้เขาหมดคำพูดที่จะระบายต่อ

"ครับ ! ผมรับทราบครับ ! ขอบคุณพี่ธรรม์ที่โทรมาบอก"

"ไว้เราค่อยเจอกันนะ แล้วค่อยคุยกัน พี่ขอตัวก่อน"

"ครับ !"

ทันทีที่กดตัดสายจากธรรม์ หน้าของอาสาวก็ผุดขึ้นในใจของเขา

"การตัดสินใจธุรกิจห่าเหวอะไรวะ ! หลานมึงไม่ใช่คนหรือไง ?"

คำสบถของเขา ทำให้มอแกนประหลาดใจ

"นายเป็นอะไรอะ รุ่ง ? วันนี้นายอารมณ์ไม่ดีเลย !"

รุ่งหันมาทางเพื่อน

"นายขึ้นชัทเทิ่ลไปละกัน เราจะเดินไปเอง"

พูดแล้ว เขาก็เดินออกมาจากที่นั่งรอรถ มอแกนขยับตัวก้าวเท้าเดินตามมา

"ไม่ต้องตามมา ! เราจะเดิน !" รุ่งพูดเสียงแข็ง

เพื่อนผิวหมึกชะงักเท้าทันที ปล่อยให้รุ่งเดินไปคนเดียว

แต่ละก้าวที่รุ่งเดินไปบนทางเท้า ก่อเป็นคลื่นโทสะที่ทยอยผุดเข้ามากระทบจิตใจในรูปแบบของคำสบถที่รุนแรง

โทรศัพท์มือถือถูกกดไปหาเพื่อนสนิทคนเดียว ที่เขาสามารถระบายอารมณ์ได้ด้วยคำหยาบ

"...... แม่งคิดว่าใหญ่มาจากไหนวะ ถึงเป็นจ้าวชีวิตคนได้ ? กูเกลียดคนแบบนี้ชิบหาย ธุรกิจโคตรพ่อโคตรแม่งสำคัญกว่าอิสรภาพของหลานคนนึงได้ยังไง ? คำว่าธุรกิจมันแดกเข้าไปได้หรือไงวะ ? แม่ง ระยำจริง ๆ คิดกันแบบนี้ มันถึงได้ผลิตแต่คนเป็นโรคจิตเพิ่มขึ้นในสังคม กูไม่คิดเลยว่า คนฉลาดขนาดเป็นประธานบริษัท แม่งจะมีความคิดดักดานอยู่แต่เรื่องธุรกิจ ความเป็นมนุษย์ไม่มี เป็นเหี้ยดีกว่ามั้ง !"

วิทย์หัวเราะเบา ๆ

"ถึงขนาดเป็นเหี้ยเลย ! อือ ! วันนี้มึงหนัก ! มึงมาหนักจริง ๆ ! ใจเย็น ๆ ก่อนรุ่ง ! เค้าเป็นอามึงนะ มึงจะหยาบไปกว่ากูแล้วนะเนี่ย ! เย็นนี้มาเจอกันหน่อยเป็นไง ? เจอกันแล้วค่อย ๆ คิดว่าจะช่วยน้องวิยังไง มึงอยู่ไหนเนี่ย ?"

"อยู่ในฟันปาร์ค !"

"จะให้กูไปหาหรือเปล่า ?"

"ไม่ต้อง ! กูไม่เป็นไรมาก ! ขอแค่ได้ระบาย"

เสียงเพื่อนยังพูดติดหัวเราะ

"นาน ๆ จะได้เห็นมึงเป็นเหมือนสมัยเรียนมัธยมซะที สมัยก่อนมึงเป็นแบบนี้เลย มึงจำตัวเองได้ป่าววะ ? เลือดร้อน ไม่กลัวใคร เดี๋ยวนี้มึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนแล้ว อย่าเปลี่ยนกลับไปเป็นแแบบเก่าเลย "

รุ่งได้ยินคำเพื่อน ก็มีรอยยิ้มออกมาได้

"หึ ๆ ! ไอ้หลังตีนนี่ มันดี หรือ แย่กว่าเดิมวะ ?"

"ฮ่า ๆๆๆ ! ดีกว่าเดิมเยอะ ! แต่ก่อนใครเห็นหน้ามึง ก็อยากจะเอาตีนลูบ หน้ามึงมันไม่แคร์โลก คือ มึงไม่แคร์ว่ามึงจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือเปล่า มึงถึงทำหน้าได้ยังงั้น"

เขาหัวเราะเบา ๆ

"อือ... ! สงสัยวิญญาณเดิมกลับมา เมื่อกี๊กูก็ฉะพี่ธรรม์ไปหน่อย เค้าเป็นมันสมองข้างขวาของอามัณ เรื่องแค่นี้กลับช่วยไม่ได้"

"เค้าเป็นคนกลาง ตัดสินใจไม่ได้ น่าจะลำบากใจ การทำงานในองค์กรมันไม่ใช่แบบร้านโชห่วยข้างถนน ทุกคนมีพื้นที่ที่แสดงออกได้จำกัด

คุณธรรม์เป็นผู้บริหารที่เก่งนะ พี่สาวไอ้หนึ่งทำงานอยู่แผนกบุคคลของกลุ่มไตรสรณ์ รู้จักคุณธรรม์ ผู้บริหารระดับนั้นอุตส่าห์โทรมาหามึง แสดงว่าเค้าเห็นว่ามึงสำคัญ เค้าคงช่วยมึงสุดความสามารถแล้ว ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ช่วย"

"เออ ! กูรู้ ! กูกำลังเดือดเลยพูดออกไป"

"Hey Romeo ! Where are you goin' ?" เสียงของแคลร์ทักขึ้น

"วิทย์ แค่นี้ก่อน ไว้ค่อยคุยกัน" เขาตัดสายจากเพื่อน

แคลร์อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตขาว เสื้อคลุมสีฟ้า กางเกงแสลคสีเทา เธอไม่ได้อยู่ในชุดเสื้อยืดซีดาร์ฟันปาร์คเหมือนปกติ แต่รอยยิ้มที่เป็นปกติของเธอ ก็ทำให้อารมณ์โทสะของรุ่ง เบาลงอย่างฉับพลัน

"เธอกำลังจะเดินไปไหน ? ทางโน้นเป็นทางตันไม่ใช่เหรอ ?"

แคลร์ร้องทักขึ้นจากทางเดินอีกฟาก ห่างไปประมาณสามสิบเมตร

รุ่งมองไปข้างหน้า เป็นถนนลูกรังที่นำไปสุดทางที่พงหญ้า

นี่เขาเดินระบายโทสะอย่างไม่รู้สึกตัวมาไกลถึงที่นี่ได้อย่างไร ?

รุ่งเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง แล้วเดินตรงไปหาเพื่อนอินเดียน

เขาหยุดยืนข้างหน้าแคลร์ ถอนหายใจ กลอกสายตามองเสื้อคลุมที่เธอสวมอยู่ แล้วกลับมามองที่หน้าของเธอ

สาวอินเดียนยักไหล่

"เธอจะไม่ทักทายอะไรสักคำเลยเหรอ ?"

รุ่งยักไหล่บ้าง แล้วก้าวเท้าเดินผ่านหน้าสาวอินเดียน

แคลร์เดินตาม

"เฮ้ ! เกิดอะไรขึ้น ? เธอหลงทางหรือยังไง ? ทำไมไม่พูดสักคำ ?"

เขาอมยิ้มที่มุมปาก

"ฉันมีปัญหา เธอจะช่วยตอบฉันหน่อยได้มั้ย ?"

"ยิงมาเลย !"

รุ่งหยุดเดิน แล้วมองขึ้นฟ้า

"แดดร้อนจนหัวจะไหม้ไฟอยู่แล้ว เธอจะใส่ชุดนี้ทำไม ?"

เขาก้าวเท้าเดินต่อ แคลร์เดินตาม

"มีคำถามเดียวใช่มั้ย ?"

รุ่งเดินไปพูดไป

"มีอีกหนึ่งคำถาม ถ้าเธอจะช่วยได้ เธอมองเห็นเทวดา ช่วยติดต่อกับเทวดาให้หน่อยได้มั้ย ? ฉันมีเรื่องไม่สบายใจ อยากให้เทวดาช่วย"

"ฉันรู้ว่าใครช่วยเธอได้" แคลร์ตอบ

สายตารุ่งยังมองตรงไปข้างหน้า ก้าวเท้าเดินตรงไป

แคลร์เดินมาข้าง ๆ แล้วพูดย้ำอีกครั้ง

"ถ้าเธอไม่สบายใจจริง ๆ ฉันรู้ว่าใครช่วยเธอได้"

รุ่งเหล่มองแคลร์ด้วยหางตา แล้วถอนหายใจ
*****************************************************************************************

1 < อ่านหน้า > 3
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่