เจ้ากรรมเมื่อคืนคงแค้นติดพัน สะสมมาข้ามศตวรรษ แอนดี้สัมผัสได้อย่างนั้น....

.... แล้วทำไมต้องปล่อยให้เขามีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ ? ถ้าชีวิตจะจบไปตั้งแต่เมื่อคืน เขาก็จะไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย

ด้วยความอ่อนเพลียละเหี่ยใจที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทำให้เขาตัดสินใจโทรศัพท์หาพระอาจารย์ที่วัดนาคโขง

เสียงของหลวงพ่อสอนยังคงสดใสไร้อาการของคนป่วย แต่ข้างในร่างกายของท่าน ยังมีโรคภัยเบียดเบียนอยู่ไม่เว้นวัน

สิ่งที่หลวงพ่อสอนให้คำแเนะนำในวันนี้ มีแต่เรื่องของการให้กำลังใจล้วน ๆ ต่างจากการสั่งสอนอบรมทุกครั้งที่จะมีคำตำหนิปนอยู่

".... เธอคงเข้าใจแล้วนะ ว่าทั้งเทวดา ทั้งบริวารที่ติดสอยห้อยตามเธอ กำลังรอเธอให้ปฏิบัติภารกิจเพื่อนำทางพวกเค้า แล้วที่ผ่านมาเธอก็ทำได้ดีมาก ชั้นก็ภูมิใจในตัวเธอ"

แอนดี้พูดด้วยเสียงที่เอื่อยเฉื่อย

"เมื่อคืน..... ผมไม่ไหวจริง ๆ ครับ ผมอาราธนาหมดทุกองค์ครบถ้วนเลย ให้มารับผมไปได้แล้ว ดูท่าทางเจ้ากรรมก็อยากให้ผมทรมานถึงระดับนั้น ผมเชิญหมดทุกองค์ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หลวงพ่ออุทัยธานี หลวงปู่ปาน หลวงปู่โต ท่านลุงพุดพระยายม ครบหมด ผมไม่เอาแล้วกับร่างกายนี้ ถ้าเจ้ากรรมอยากได้ ก็ให้เค้าไปเลย เป็นคืนที่แย่ที่สุดในชีวิต ผมไปทำอะไรรายนี้ไว้ครับ ?"

เสียงหลวงพ่อตอบมาตามสาย

"รายนี้เธอไปทรมานเค้าไว้ เธอไม่ฆ่าเค้าทันที แต่เธอทรมานเค้าก่อน ด้วยการกรีดท้อง แล้วปล่อยให้ไส้ทะลัก เลือดไหลจนหมดตัว ค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ"

เสียงถอนหายใจฟืดของลูกศิษย์ดังเข้ามาในสาย

"เรื่องเมื่อคืนน่ะ ชั้นรู้ เพราะผีไปบอกน่ะ เค้าบอกว่า ไอ้สิงห์มันถอดใจแล้ว มันจะลาสังขารแล้ว ชั้นก็รู้ว่ามันหนัก ถามลุงพุด ลุงท่านก็บอกว่ายังไงก็ไม่รับ เพราะยังไม่ถึงเกณฑ์ ชั้นก็ถามไปทั่วเหมือนกัน ได้ความยังงี้นะ

ตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้าไป อาการป่วยของเธอจะดีขึ้น เพราะที่หนักที่สุด มาทวงกันเกือบหมดแล้ว ที่เหลือนับว่าไม่เท่าไหร่นะ ไม่ทำให้เธอเป็นเท่าเมื่อคืนแน่ ๆ"

แอนดี้นิ่งคิดสักพัก

"สาธุครับ ! ผมก็ไม่มีทางเลือก จะตายก็ตายไม่ได้ ถ้าที่เหลือไม่หนักเท่าเมื่อคืน ผมก็จะพยายามทนครับ แต่ผมสารภาพตามตรงว่า เมื่อคืนผมมันขี้ขลาดเกินกว่าจะทนไหว ใจผมไม่สู้แล้ว ผมไม่มีความอดทนที่เหมาะสมจะเป็นศิษย์ของหลวงพ่อสอน ผมนี่มันเลวจริง ๆ"

เสียงหลวงพ่อหัวเราะมาตามสาย

"เธอคิดผิดแล้ว ! สิ่งที่เธอทำ แม้แต่สองตัวนั้น พระโป่ง กับ พระหมู ก็ยังยกย่อง เธอสามารถทนกับความเจ็บป่วยที่เจ้ากรรมนายเวรมาทวงทุกคืน เพื่อปฏิบัติภารกิจเพื่อชั้น และ เพื่อบริวารของเธอ เธอทนรับสภาพอย่างนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจเพื่อพระศาสนา ถ้าใครไม่ยกย่องเธอ ก็เลวเต็มทนแล้ว !

การที่เธอทนกับสภาพความเจ็บป่วยไม่ไหว นั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ระบบประสาทยังไม่ตาย มันก็รับเวทนาได้ แต่ด้วยใจของเธอที่ไม่มีความแค้นเคืองในเจ้ากรรมนายเวร มีแต่อารมณ์เบื่อหน่ายในร่างกาย เห็นว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์ พิจารณาถึงการเกิดมามีร่างกายแบบนี้ว่า ไม่ว่าอีกกี่ชาติ ก็หาความสุขไม่เจอ เธอคิดซ้ำ ๆ พิจารณาซ้ำ ๆ แบบนี้ ถือว่าเป็นวิปัสสนาไปในตัว

ทำแบบนี้ต่อไป ไม่นานนัก สังขารุเปกขาญาณมันจะเกิด มันจะรู้สึกเฉย ๆ ในร่างกาย เฉยในความป่วยไข้ เฉยในเหตุการณ์ต่าง ๆ ของโลกใบนี้ เห็นทุกอย่างในโลกใบนี้เป็นทุกข์ ทุกอย่างจะต้องสลายตัวในที่สุด ไม่มีอะไรเป็นของเธอเลย เธอก็จะจบกิจได้"

คำสอนสั่งที่มาพร้อมกับคำชมเชยของพระอาจารย์ เป็นที่ซาบซึ้งประทับใจลูกศิษย์คนนี้อีกครั้ง

"สาธุ ! ผมกราบขออภัยในความขี้ขลาดของเมื่อคืนด้วยครับ"

"ไม่เป็นไรนะ ! เธอเป็นคนกล้าหาญมากต่างหากล่ะ ต่อไปนี้อาการป่วยของเธอ จะดีขึ้น แล้วเธอก็อย่าเรียกใครต่อใครมารับไปอีกแล้วนะ ไม่สมควร เธอเป็นศิษย์ชั้น เธอมีบารมีพอสมควร เวลาเธอเรียกร้องแบบนั้น ข้างบนเค้าเดือดร้อนกันนะ ร้อนอาสน์กันเป็นแถว อย่าทำแบบนั้นอีกนะ !"

"ครับ หลวงพ่อ !"

การสนทนาจบลงด้วยความอิ่มเอิบ เพียงแค่ได้ระบายความในใจบ้างในฐานะปุถุชนที่ยังไม่บรรลุอริยผล ก็คลายความเขม็งเกรียวของจิตไปได้อย่างมาก ความปีติเกิดขึ้นจากคำชมเล็กน้อยที่ได้ยินจากพระอาจารย์

พระในวัดนาคโขงทุกองค์ต่างรู้ดีว่า หลวงพ่อสอนจะไม่ชมพระลูกวัดบ่อยนัก ท่านจะมีปิยวาจาให้กับญาติโยมที่มาทำบุญเสมอ แต่กับพระลูกศิษย์ ท่านจะเข้มงวดในการปฏิบัติ ตำหนิเยอะ ชมน้อย เป็นปกติ

การได้รับคำชมในวันนี้ นับว่าคุ้มค่า เป็นที่น่าภาคภูมิใจ เป็นแรงใจให้ต่อสู้กับภารกิจของวันต่อ ๆ ไปได้อีกนาน

***********************************************************************************************

แอนดี้ใช้เก้าอี้ยาวในห้องโถงชั้นสองของเรือนไม้ เป็นที่สนทนากับ สเตฟาน รูห์มัน ครูสอนกรรมฐานญาณแปดเชื้อชาติเยอรมัน

สิงห์ชุดดำหยิบภาพถ่ายยื่นให้ครูสตีฟดู

"นี่ครับ ครูสตีฟ รูป ! เธอชื่อ มัณฑนา ไตรสรณ์"

ครูชาวเยอรมันศรีษะเถิก เบิกตากว้าง พิจารณารูปที่เห็นอยู่ข้างหน้า เพียงไม่กี่วินาที เขาพยักหน้ารับ

"โอเค ! ได้ครับ ! ต้องการเร็วขนาดไหนครับ ?"

"เรื่อย ๆ ดีกว่าครับ ผมต้องเจอกับเค้าเป็นประจำทุกอาทิตย์ ค่อย ๆ รู้ไปทีละนิดก็ได้ ถ้าผมสงสัยเป็นจุด ๆ ผมถามครูสตีฟเป็นจุด ๆ ได้ใช่มั้ยครับ ?"

สตีฟพยักหน้า

"อย่างนั้นจะดีที่สุด ! ถ้าไม่ถามเจาะจงมา ผมก็ไม่รู้จะดูตรงไหนเหมือนกัน เห็นแค่นี้ ก็รู้แต่ว่า เธอก็มีบุญเก่าเยอะเหมือนกัน พลังจากรูปถ่ายเธอบอกได้"

"ครูสตีฟดูออร่าจากรูปถ่ายได้มั้ยครับ ?"

สตีฟสั่นหัว

"ไม่ต้องดูออร่า ! ใช้ญาณแปดเลย สะดวกกว่า วิชาดูออร่านี่ มีไว้สอนคนที่ไม่ได้ญาณแปด"

แอนดี้นึกได้ก็ผงกหัว ขำกับตัวเอง

"อือ ! จริงซีนะ ! ได้ญาณแปดนี่ก็รู้อดีตอนาคตปัจจุบันหมดแล้ว จะไปเรียนออร่าอีกทำไม ?

เอ๊ะ ! ครูครับ อย่างคนเรียนออร่า หรือ เรกิ โดยที่ไม่ได้เรียนญาณแปดนี่ เค้าจะได้ตาทิพย์ไปด้วยหรือเปล่าครับ ?"

ครูเยอรมันไม่ต้องใช้เวลาขบคิดนาน เขาพยักหน้าทันที

"เป็นไปได้ ! คนเล่นสมาธิที่ถนัดจับแสงสว่าง พวกนี้ได้ตาทิพย์ได้ง่าย เพียงแค่ถ้ารู้จักอารมณ์ว่า อารมณ์ไหนคลิก แล้วส่วนใหญ่ คนพวกนี้จะติดตาทิพย์มาด้วย แต่ไม่รู้ตัว คือ เค้าไม่มั่นใจว่า อารมณ์ที่รู้แบบนั้น ที่มันแว่บเข้ามาเป็นพัก ๆ นั้น มันเป็นเรื่องจริง หรือ เป็นแค่อุปาทาน แต่ถ้าเค้าตั้งใจฝึกให้คล่อง เค้าจะตัดอุปาทานออกได้"

แอนดี้พยักหน้าเข้าใจ เขาถามคำถามต่อ

"ถ้างั้น อย่างแพทตี้ ลูกศิษย์ของครูสตีฟคนนั้น เค้าอาจจะมีความสามารถอย่างอื่นได้อีก นอกจากเรกิ กับ การดูออร่าใช่มั้ยครับ ?"

สตีฟนึกถึงลูกศิษย์สาวน้อยคนเก่ง แล้วพยักหน้าทันที

"แพทตี้เหรอ ? โอว.... ใช่ ! แพทตี้เคยได้อภิญญามาหลายร้อยชาติติดกัน แล้วของเก่าเค้าตามมาเยอะนะคุณแอนดี้ เด็กคนนี้หัวไว มีพลังมาก"

คำถามที่ตรงเป้าอีกหนึ่ง ถูกยิงออกไปทันที

"ถ้าแพทตี้ไปใช้วิชาของเค้าไปทำอะไรบ้าง ครูสตีฟจะรู้มั้ยครับ ? อย่างเช่น สมมุติ เค้าไปรักษาใครบ้าง เค้าไปทดลองวิชากับใคร วันไหน เมื่อไหร่ ครูสตีฟรู้ได้มั้ยครับ ?"

"ถ้ากำหนดจิตถาม ก็อาจจะรู้ได้นะ"

แอนดี้พยักหน้า

"อ้อ ครับ ! แต่ไม่ใช่รู้แบบออโต้ คือ รู้ตลอดเวลานี่ ไม่ได้ใช่มั้ยครับ ?"

คู่สนทนาหัวเราะ

"ฮ่า ๆๆ ! รู้ตลอดเวลาเลยเหรอ ? วัน ๆ ผมคงไม่ต้องทำอะไรเลย ผมมีลูกศิษย์เรียนออร่า เรียนญาณแปด เรียนเรกิ รวมทั้งหมดยี่สิบกว่าปี น่าจะเกินพันคน...."

แอนดี้พยักหน้าทันที ไม่ต้องรออีกฝ่ายพูดจบ แล้วเขาก็หัวเราะไปด้วย

"ฮ่า ๆๆ ! สมองระเบิดแน่ ๆ แบบนั้น หมดคำถามแล้วครับ ผมฝากเรื่องของคุณมัณฑนานี่ด้วยนะครับ"

ครูสตีฟก้มลงมองที่รูปภาพอีกครั้ง

"ได้ครับ ! ถ้าเป็นกิจของคุณแอนดี้ ผมขอร่วมบุญด้วยความเต็มใจ"

แอนดี้ยกมือไหว้ครูสตีฟ

"ขอบคุณครับ !"

ครูเยอรมันยกมือรับไหว้

"ผมขอตัวลงไปข้างล่างเก็บของก่อน เย็นนี้มีนัดทานข้าวเย็น"

สิงห์ชุดดำส่งยิ้มให้ ขณะที่อีกฝ่ายลุกจากเก้าอี้ เดินผละไป

เขานึกถึงสิ่งที่สัมผัสได้เมื่อวันที่แพทตี้กราบมอบตัวเป็นลูกศิษย์ มีพลังบางอย่างอยู่ในตัวเด็กคนนี้ที่อธิบายได้ลำบาก

พลังเหล่านั้นไม่ได้แสดงออกมาทางรูปร่างผิวพรรณใด ๆ เลย จะหาคนธรรมดาที่จะรู้ถึงสิ่งที่เด็กคนนี้มีภายใน...เป็นไปไม่ได้แน่ ๆ !

จู่ ๆ เสียงเรียกจากท่านลุง ก็ดังก้องในจิต

"ไอ้ลูกแมว ! ลงไปดูข้างล่าง เร็ว ! เค้ามุงอะไรกันอยู่น่ะ !"

"มุงอะไรครับ ?"

"มุงหลังคามั้ง ?" พรหมท่านลุงตอบด้วยความยียวน

แอนดี้หัวเราะหึ ๆ

"งั้นก็ปล่อยให้มุงต่อไป ผมไม่มีหน้าที่ต้องไปรับผิดชอบหลังคาบ้านใคร"

ท่านลุงเกาหัว

"เอ๊ะ ไอ้นี่ ! ชั้นบอกให้แกลงไป แกก็ลงไปซีวะ ถ้าแกไม่เชื่อชั้น แล้วแกจะมีชั้นไว้ทำไม ?"

"ผมไม่ได้ไม่เชื่อท่านลุง แต่ท่านลุงชอบเล่นเหมือนเด็ก แทนที่จะบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้น กลับมาบอกว่าเค้ามุงอะไรกัน ท่านเป็นถึงชั้นพรหม ถ้าท่านเองยังไม่รู้เลยว่าเค้ามุงอะไรกัน ผมก็คงไม่มีความสามารถเกินท่านหรอกครับ"

พรหมขี้โมโหยืนท้าวสะเอว

"ไอ้นี่มันจะยั่วให้ชั้นจุติให้ได้ ! แกทำให้ชั้นโกรธนี่ ชั้นตายเลยนะ !"

แอนดี้กลับหัวเราะ แล้วยกมือไหว้

"ขออภัยครับ ! ท่านลุงอย่าโกรธนะ เทวดาโกรธนี่ ...ได้ลงมาเกิดเป็นหมาเลยนะ"

"มึงน่ะสิ หมา ! กูไม่เคยโกรธ ! แต่มึงอย่าแหย่มาก เดี๋ยวมีเรื่อง ! ตกลงแกจะไม่ลงไปใช่มั้ย ?"

"ลงครับ ! ข้างล่างเค้าเรียนกรรมฐานกันเสร็จแล้วเหรอ ? "

พรหมหนุ่มสะบัดหน้าอย่างแรง

"ม่ายรุ !"

"แน่ะ ! แค่นี้ไปดูให้ผมหน่อยก็ไม่ได้"

"ข้าเป็นคนรับใช้เอ็งหรือยังไง ?"

หลานชุดดำหัวเราะหึ ๆ

"เดี๋ยวก็กูมึง เดี๋ยวก็ข้าเอ็ง ท่านลุงแบ่งชนชั้นด้วยคำพูดจา ถือว่ามีอัตตาสูง ดูตัวอย่างครูสตีฟสิครับ ตาทิพย์แม่นเป๊ะ อภิญญาเหลือ ๆ เวลาพูดทำไมเค้าพูดสุภาพได้ ?"

ร่างกายของพรหมหนุ่มขยายใหญ่ขึ้นสิบเท่า ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง เขี้ยวโผล่จากเหงือกงอกยาวออกมา

"อ้ายลูกหมา ! มึงริอ่านสอนกู ! อย่ามานับญาติกันต่อไป อ้าย........."

"อ้าว ! เป็นยักษ์ซะเลย !" หลานจอมกวนรีบผุดลุกจากเก้าอี้ วิ่งตรงไปยังบันได

***********************************************************************************************

สิงห์ในชุดดำ เดินย่ำเท้าลงบันไดมาจากชั้นสอง ใบหน้ายังเปื้อนยิ้ม มีความสุขเล็ก ๆ ที่ได้แหย่สหายทิพย์ชั้นพรหมเล่น

ที่เก้าอี้ยาวริมผนังกำแพงห้อง มีผู้คนสามสี่คนยืนรวมกลุ่มมุงอะไรกันอยู่

แอนดี้เดินมุ่งหน้าไปที่จุดนั้นทันที

พนักงาน รปภ. หญิงที่ยืนอยู่หลังสุด หันมาเมื่อแอนดี้เดินไปถึง

"อ้อ...! คุณแอนดี้ !"

"มุงอะไรกันเหรอ ?"

"นักเรียนคนนี้ เข้าฌานอยู่ค่ะ ไม่กลับมาเข้าร่างซักที" รปภ.หญิงตอบ แล้วชี้มือไปที่โซฟา

ครูสตีฟเป็นหนึ่งในคนที่มุงอยู่ด้วย ให้ความเห็น

"ไม่ใช่ละมั้ง ! คนนั่งสมาธิไม่น่าจะนั่งท่านี้ แปลกไปหน่อยมั้ง !"

แอนดี้มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งบนเก้าอี้ยาว แต่ลำตัวเอียงกึ่งนอน คอพับตกมาเกือบชนไหล่ เส้นผมปรกหน้าผาก และ แก้ม เขา ขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้น

"เป็นนักเรียนของชั้นไหนเหรอครับ ? วันนี้บ่ายสอนสุขขวิปัสสโกนี่ครับ แต่ไม่น่าจะมานั่งสมาธินอกห้อง ท่าทางแบบนี้ น่าจะเป็นฌานเต็มกำลังแล้ว คือ ออกไปทั้งจิต แล้วทิ้งร่างไว้"

แอนดี้เห็นครูยาใจยืนอยู่ข้าง ๆ โซฟา เธอชะโงกหน้ามามองแอนดี้

"อ้าว คุณแอนดี้ มาด้วยเหรอ ?"

ครูสตีฟพยักหน้า

"ใช่ ! นักเรียนคนนี้คงถอดจิตด้วยฌานเต็มกำลัง ไปทั้งจิต คงต้องรอจิตเธอกลับมาเข้าร่าง ตอนนี้ก็อย่าเพิ่งแตะต้องตัวเธอนะ"

รปภ.หญิงคนเดิม พูดกับแอนดี้

"หนูลองเรียกดัง ๆ ว่า คุณคะ คุณคะ ข้าง ๆ หู เป็นสิบครั้ง เธอไม่ขยับเลยค่ะ !"

"ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วนะ ! ถอดจิตไปนิพพานเลย" แอนดี้หยอกเล่น

ครูยาใจก้มลง แล้วใช้มืออังที่จมูกของหญิงคนนั้น ปลายนิ้วของครูยาใจรู้สึกถึงลมหายใจเข้าออก

"ยังหายใจอยู่ !"

ครูสตีฟพูดขึ้น

"ครูยาใจเป็นครูสอนสุขขวิปัสสโกวันนี้นี่ครับ จำหน้านักเรียนไม่ได้เหรอครับ ?"

ครูหญิงเอียงคอดูใบหน้าของสาวถอดจิต

"ผมบังหน้า มองไม่ออกว่าเป็นใคร เดี๋ยวขอเขี่ยผมขึ้นไปก่อน เอ๊ะ... ! ถ้าถอดจิตเต็มกำลัง เราแตะต้องตัวเธอไม่ได้ใช่มั้ยคะ ?"

ทุกคนมีสีหน้าครุ่นคิดทันที

แอนดี้ถามขึ้น

"งั้นใช้ลมเป่าได้มั้ยครับ ? โดนลมไม่น่าเป็นไรมั้ง ใช้ปากเป่าผมขึ้นไป จะได้เห็นหน้าชัด" เขาพูดแล้วก็ขำตัวเอง "ทำอย่างกับมีตัวอะไรมานอนตายในบ้าน จะเอามือเขี่ยก็ไม่กล้า"

ครูยาใจหัวเราะตาม

"คุณแอนดี้นี่ก็...." แล้วเธอก็ก้มลง เป่าเส้นผมของสาวถอดจิตให้พ้นจากใบหน้า

ลมแรงพอสมควรจากปากครูยาใจ พัดเส้นผมเปิดขึ้นหลายวินาที หมดลมเป่าจากปาก ผมก็ตกลงมาปรกหน้าตามเดิม

"เอ๊ะ ! นั่น... !" เสียงของแอนดี้ดังลั่น

ทุกคนหันมามองแอนดี้

"ผมรู้จักคนนี้ อาจารย์เป่าอีกทีสิครับ"

ครูยาใจเป่าลมจากปากอีกครั้ง

คราวนี้แอนดี้แทรกตัวเข้ามาถึงโซฟา เขาก้มลงคุกเข่า

"ใช่แน่ ๆ ! อาจารย์ครับ รบกวนเป่าอีกที"

ครูยาใจมองหน้า ทำตาถลึง

"สุดท้ายแล้วนะคุณ ครูจะเป็นลมแล้ว"

เธอตั้งใจเป่าอีกครั้ง ครั้งนี้แรงกว่าเดิม ด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำให้น้ำลายกระเซ็นติดที่แก้มของสาวถอดจิตไปด้วย

เสียงหัวเราะของทุกคนดังขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งแอนดี้

"ฮ่า ๆๆ ! พอแล้วครับอาจารย์ ! เดี๋ยวมีเสลดติดมาด้วย"

ครูยาใจยกมือตีแขนแอนดี้

"นี่แน่ะ ! ไม่ไหวแล้ว จะเป็นลม"

เมื่อแอนดี้มั่นใจแล้วว่าเขารู้จักเธอผู้นี้ จึงยืนขึ้น แล้วหันไปที่รปภ. หญิง

"น้องเห็นผู้หญิงคนนี้ตอนเดินเข้ามาหรือเปล่า ?"

รปภ.หญิงส่ายหัว

"เปล่าค่ะ ! หนูเห็นก็ตอนเธอนั่งอยู่ที่นี่แล้ว"

"ถ้างั้น ! รปภ. ที่รั้วข้างหน้า ก็ต้องเห็น ช่วยวิทยุไปถามข้างหน้าหน่อย ว่าเห็นผู้หญิงคนนี้เข้ามาที่นี่หรือเปล่า ? เค้าเข้ามายังไง ?"

รปภ. รีบติดต่อวิทยุสื่อสารตามที่แอนดี้บอก

เขาก้มลงคุกเข่าอีกครั้ง

"ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้ครับ คงไม่ใช่การถอดจิตแล้วล่ะครับ"

แอนดี้ค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับแขนทั้งสองข้างของเธอ แล้วเขย่าเบา ๆ

"ญา ! ญาครับ ! เกิดอะไรขึ้น ? ญามานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ?"

ไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบจากร่างที่ไร้สติ

เขาเขย่าแขนของเธอทั้งสองข้างด้วยแรงที่มากขึ้น จนหัวผงกไปมา

"ญา ตื่น ตื่น ! ญาเป็นอะไร ?"

ได้ผล ! สาวขี้เซาเริ่มเผยอเปลือกตาขึ้น

"ท่านน่ะเอง !" เสียงพึมพำเบา ๆ ดังลอดมาจากปาก

เธอเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นมาช้า ๆ แล้ววางลงที่บ่าของแอนดี้

เหนือความคาดคิดใด ๆ เธอจิกเล็บด้วยนิ้วโป้ง แล้วกดลงที่ซอกคอของเขาอย่างแรง

"โอ๊ย !" แอนดี้อุทานเบา ๆ เขาใช้มือจับที่ข้อมือเธอที่กำลังจิกคออยู่ แล้วบิดมือออก

"ญา จิกผมทำไม ? ญาตั้งสติก่อน เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมานอนอยู่ตรงนี้ ?"

เสียงหัวเราะหึ ๆ ดังลอดมาจากลำคอ แต่เปลือกตาปิดสนิทลงไปแล้ว

"ใครจิกท่าน ? ทำไมข้าไม่รู้สึกเจ็บเลย ?"

"ญาจะเจ็บได้ยังไง ก็ผมเป็นคนโดนจิกต่างหาก" แอนดี้ยกมือคลำบริเวณคอที่โดนจิก รู้สึกแสบ

เสียงพึมพำยังลอดมาจากปากที่แทบจะไม่เผยอออกจากกัน

"ก็ท่านแกล้งข้า.... ท่านโขกหัวข้า"

เสียงรปภ. หญิงพูดขึ้น

"ที่รั้วข้างหน้าบอกว่า ผู้หญิงคนนี้ ลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้ามาที่นี่ค่ะ !"

ทันใดนั้น สาวไร้สติยกมือทั้งสองข้าง โอบรอบคอของแอนดี้ แล้วโน้มหัวเธอเองเข้าซบหน้าอกเขา

"กอดท่านอย่างนี้...ซาบาย....!"

__________________________________________________________________________________________

โดย วีรยาติ

1< อ่านหน้า

กลับขึ้นด้านบน

สั่งซื้อพ็อคเก็ตบุคนิยายหมอเถื่อน เล่ม 1 - 4

อ่านตอนต่อไป

อ่านตอนอื่น

สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ

อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่




Free hit counters