ตอน 54 หน้า 2/4

เตรียมงานช้าง

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

ทีมงานเดินมาถึงริมสนามหญ้า เบื้องหน้าเธอคือ สนามหญ้าโล่งมีพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล ถัดจากสนามหญ้าออกไปมองเห็นสวนต้นไม้

ริมสนามหญ้าด้านหนึ่งติดกับตัวตึก ถูกจัดให้เป็นส่วนของเวทีกลางแจ้ง

ริมสนามหญ้าอีกฝั่ง มีรถจอดอยู่มากมาย ทั้งรถกระบะ รถบรรทุกหกล้อ รถคอนเทนเนอร์ คนงานไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน กำลังเดินกันขวักไขว่ ยกของ ขนของขึ้นลง เพื่อเตรียมงาน

น้อยหน่าพยักหน้าให้ตากล้อง เธอต้องการให้กล้องจับภาพเหล่านั้นเป็นแบ๊คกราวด์

อาทรยืนอยู่ข้าง ๆ น้อยหน่า

"หนึ่ง สอง..." กล้องเริ่มเดิน

"กลับมาพบกับน้อยหน่าอีกครั้งนะคะในมุมใหม่ภายใต้เขตรั้วของคฤหาสน์ไตรสรณ์ ภาพที่ท่านเห็นอยู่ข้างหลังน้อยหน่านี้ คือ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานทั้งหลาย ที่กำลังขนของเตรียมจัดงาน มีทั้งระบบไฟ แล้วก็... ทางโน้น น้อยหน่าเห็นรถแคเทอริ่งของภัตตาคารจอดอยู่สองสามคัน คงเป็นทีมที่จะมาเตรียมทำอาหารไว้บริการ แต่จะใช่หรือไม่ใช่อย่างไร น้อยหน่าจะมีคนมาช่วยอธิบายเรื่องเหล่านี้ให้ท่านผู้ชมรู้นะคะ"

เธอผายมือมาทางคนข้าง ๆ กล้องแพนตาม

"ข้าง ๆ น้อยหน่านี้ คือ คุณอาทร ข่วงสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัมบาลาย่าทีม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทออร์แกไนเซอร์ เป็นผู้จัดการเตรียมงานทั้งหมดในปีนี้ สวัสดีค่ะ"

ผู้ดำเนินรายการยกมือไหว้ผู้ถูกรับเชิญ อาทรยกมือรับไหว้

น้อยหน่าพูดต่อ

"คุณอาทรจะเป็นผู้รู้รายละเอียดของงานทั้งหมด น้อยหน่าถามคำถามแรกก่อนเลย ที่เห็นทางโน้น เขากำลังทำอะไรกันคะ ?"

กล้องจับภาพคนงานต่าง ๆ กำลังขนย้ายสิ่งของจากรถ

"ครับ สวัสดีครับ ที่เราเห็นอยู่นี่ เป็นการเตรียมงานของทีมต่าง ๆ ซึ่งมาจากหลายหน่วยงาน รถคอนเทนเนอร์สีดำนั่น คือ ทีมงานไลท์ติ้ง จัดระบบไฟครับ คืนพรุ่งนี้ เราจะเนรมิตสวนต้นไม้ และ สนามหญ้านี้ ให้เป็นสวนประดับไฟที่สวยที่สุด ต้นไม้ใหญ่จะถูกประดับไฟทั้งหมดยี่สิบต้น แล้วก็ตามพุ่มไม้รอบ ๆ สนามหญ้านี้ก็จะมีไฟประดับ ส่วนบนเวที ก็จะมีระบบไฟสำหรับเวทีโดยเฉพาะ นอกจากระบบไฟแล้ว เรามีจอผ้าที่จะเป็นมอนิเตอร์ถ่ายทอดบรรยากาศจากทุกมุมของงานอยู่สองจุด คือ ที่สนามหญ้ามีจออยู่หนึ่งจุด ที่หน้าตึกใหญ่มีจออีกหนึ่งจุด"

"แสดงว่าต้องมีทีมถ่ายทำวิดิโอมาด้วยใช่มั้ยคะ ?"

"ใช่ครับ เราจะมีรถโอบี มาตัดต่อภาพสด แล้ววิ่งไปออกจอมอนิเตอร์ จากกล้องวิดิโอทั้งหมดหกตัว ซึ่งจะประจำอยู่ในแต่ละจุดของงาน"

"ค่ะ งานระดับแกรนด์จริง ๆ จากเรื่องของระบบถ่ายทำวิดิโอแล้ว ต่อไปมีอะไรอีกคะ ?"

"บนเวที จะมีวงดนตรีทริโอ สามชิ้น บรรเลงเพลงสากลขับกล่อมให้กับแขกที่กำลังทานอาหาร"

"ค่ะ น่าจะเป็นคืนที่โรแมนติคคืนหนึ่ง แล้วเรื่องอาหารล่ะคะ ?"

"ครับ ต่อมา คือ เรื่องแคเทอริ่ง หรือ อาหาร เราได้เตรียมอาหารไว้หลากหลายชนิด สำหรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน"

"ที่มือของน้อยหน่านี้ ก็เป็นการ์ดลิสต์รายการอาหารแนะนำ ที่แขกทุกท่าน จะได้รับแจกที่หน้าประตูใหญ่ ในการ์ดนี้มีอาหารแนะนำของร้านต่าง ๆ รบกวนคุณอาทรช่วยอธิบายการ์ดนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ"

"ครับ ปีนี้เราได้เลือกภัตตาคารระดับแนวหน้ามาให้บริการอาหารสำหรับแขกของครอบครัวไตรสรณ์ทุกท่าน แต่ละภัตตาคารก็จะนำอาหารที่มีชื่อเสียงของร้านมาให้บริการ ส่วนในการ์ดใบนี้ เราจะเลือกอาหารจานเด่นที่สุดของแต่ละร้านเพื่อเป็นไฮไลท์ของร้าน"

อาทรเปิดการ์ดอ่าน แล้วอธิบายแต่ละรายการ

"อย่าง รายการแรกในการ์ด อาหารจีนจากภัตตาคารซิ่งฝู ซึ่งอาหารจานพิเศษของคืนพรุ่งนี้คือ กั้งหินจักรพรรดิ์ เป็นกั้งหินสดจากทะเลนึ่งแล้วราดด้วยซ๊อสเอ๊กซ์โอครับ"

"ฟังแค่รายการแรกก็รู้สึกหิวแล้วค่ะ" เธอพูดไปหัวเราะไป

"ครับ ไฮไลท์จานต่อมา เป็นอาหารอิตาเลี่ยนจากร้าน เทร สกาลินี่ อาหารเมนูพิเศษคืนพรุ่งนี้คือ หมูย่างยัดไส้แอ๊ปเปิ้ล

ต่อมา อาหารญี่ปุ่น มาจาก ภัตตาคารเคียวเบ เมนูพิเศษคือ ซาซิมิท้องปลาทูน่า

ไฮไลท์จานต่อมา อาหารไทยจากภัตตาคารสุวรรณภูมิ เมนูพิเศษคือ ผัดไทล๊อบสเตอร์

ไฮไลท์ของหวานเป็นขนมฝรั่งเศสจาก มายปาติสเซอรี เมนูพิเศษ คือ เครมบรูเล วนิลลา

ยังไม่หมดครับ ไฮไลท์ไอสครีม คือ เจลาโต้ต้นตำรับอิตาเลี่ยนไอศครีม จากร้านพัลเมโร ไอศครีมสกู๊ปแนะนำคือ วอดก้ามาร์เบิ้ล เป็นไอศครีมที่ผสมเหล้าวอดก้าเล็กน้อย รสชาติไม่หวานมาก มีกลิ่นของวอดก้าเบา ๆ"

"ไม่ไหวแล้วค่ะ แค่ฟังรายการอาหารก็แทบจะเป็นลมด้วยความหิว แล้ววิธีการจัดโต๊ะเป็นอย่างไรคะ ? เป็นบุฟเฟต์ หรือ โต๊ะจีนคะ ?"

"ครับ ลักษณะการจัดงาน จะมีสองส่วน คือ ในโถงของตึกใหญ่ เป็นส่วนเอ๊กซคลูซีฟ คือ เรียกง่าย ๆ ว่า วีไอพี จะอยู่ในห้องปรับอากาศ เป็นโต๊ะนั่ง และมีบริกรเสริฟ มีทั้งหมดเจ็ดโต๊ะ ประมาณ หกสิบกว่าท่าน"

"อ๋อ... เรียกว่าระดับผู้นำสุดยอดอะไรประมาณนั้น ก็จะได้นั่งโต๊ะ"

"ครับ ส่วนภายนอก จะจัดแบบซุ้มอาหารบุฟเฟต์ โดยเราจะจัดซุ้มอยู่ริมสวนด้านโน้น ปรุงกันสด ๆ แบ่งซุ้มไปตามภัตตาคารที่ผมได้เล่าไปแล้ว"

"เครื่องดื่มล่ะคะ ?"

"เรามีเครื่องดื่มหลากหลาย ตั้งแต่น้ำอัดลมทั่วไป น้ำผลไม้ปั่น ไวน์ และ แชมเปญ มีบริกรเดินเสิร์ฟตลอดคืนครับ"

"งานสำหรับคนประมาณสี่ร้อยกว่าท่านนี่ จำเป็นต้องใช้บริกรทั้งหมดกี่คนคะ ?"

"ในส่วนของบริกรมีสามสิบห้าคน บริกรจะแยกจากกลุ่มคนครัว และ แยกจากเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก"

น้อยหน่าทำตาโต

"แสดงว่ามีเจ้าหน้าที่กลุ่มอื่น ๆ อีกที่ต้องช่วยกันต้อนรับแขก ?"

"ใช่ครับ แขกผู้มีเกียรติจะสังเกตุเจ้าหน้าที่ได้จากเครื่องแต่งกายครับ เพราะจะแต่งกายไม่เหมือนกัน ในส่วนของบริกรก็จะแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตขาวแขนยาว ผู้ชายใส่กางเกงขายาวสีดำ ส่วนผู้หญิงจะใส่กระโปรง บริกรทั้งชาย และ หญิง จะใส่เสื้อกั๊กสีเทา ส่วนเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก จะเริ่มอำนวยความสะดวกตั้งแต่ลานจอดรถนอกรั้ว ซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อสูทสีดำทั้งชาย และ หญิง มีวิทยุสื่อสารติดตัว"

"แค่เจ้าหน้าที่ทั้งหมด รวมพ่อครัว บริกร ก็เป็นร้อยแล้วสิคะ ?"

ผู้ถูกสัมภาษณ์กำลังบวกตัวเลขในสมอง

"เอ่อ... คงไม่ถึงร้อยนะครับ แต่ก็เฉียด ๆ น่าจะประมาณแปดสิบกว่า ประมาณนี้ครับ"

"ค่ะ... ได้ฟังคุณอาทรเล่าถึงอาหาร และ สถานที่คร่าว ๆ ไปแล้ว เดี๋ยวคุณอาทรจะพาเราไปชมสถานที่จริง พาไปดูซุ้มครัวชั่วคราว แล้วก็พาเราทัวร์ในตึกที่จะจัดงานนะคะ"

อาทรพยักหน้า แล้วผายมือ

"ครับ งั้นเชิญทางนี้ครับ"

"คัท !"

น้อยหน่าพยักหน้ากับลูกทีม

"เดี๋ยวเราไปเริ่มถ่ายต่อตรงบริเวณซุ้มครัว"

อาทรพาคณะถ่ายทำเดินตัดสนามหญ้า ข้ามมาถึงบริเวณซุ้มที่จัดเป็นที่ทำครัว ตั้งเป็นแนวยาวติดกันหกซุ้มริมทางเดินรถ

ทีมถ่ายทำต้องแทรกตัวเดินผ่านรถคอนเทนเนอร์ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ตั้งเรียงราย เตรียมไว้รอขนเข้าไปด้านใน จนเข้ามาถึงซุ้มครัว

หน้าซุ้มครัวมีพัดลมขนาดใหญ่เปิดทิ้งไว้เพื่อพัดให้ความเย็นกับบรรดาคนงานที่มาเตรียมงาน

อาทรเชิญคณะถ่ายทำนั่งพักที่เก้าอี้

"นั่งรอคนงานเคลียร์อุปกรณ์พวกนี้ก่อนนะครับ อีกซักสิบห้านาทีคงเสร็จ"

เขาหยิบวิทยุสื่อสารมาจ่อปาก แล้วสั่งการให้ลูกน้องประสานงานตามที่ต้องการ

คนงานชายคนหนึ่งถือถาดใส่แก้วหลายใบพร้อมน้ำเย็นโถใหญ่ เดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ

น้อยหน่ารู้สึกตื่นตากับบรรยากาศภายในรั้วไตรสรณ์ทั้งหมด ในชีวิตเธอไม่เคยมีโอกาสสัมผัสกับการเตรียมงานวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

พิธีกรสาวเดินไปที่ท้ายรถคอนเทนเนอร์ แล้วชะโงกมองภายในตู้ว่าบรรทุกสิ่งของใด

หนุ่มคนหนึ่งกำลังยกกรอบรูปขนาดใหญ่กว่าลำตัว เดินเลี่ยงหลบหลังเธอ แทรกตัวเข้ามา

"ขอโทษครับ ระวังหัวนะครับ"

น้อยหน่าก้มหัวหลบ

เขาเบี่ยงตัวประคองกรอบรูป พอเดินผ่านตู้คอนเทนเนอร์ เขาก็วางรูปตั้งบนพื้น พิงกับขาไว้ หน้าแดงก่ำเพราะแดด เหงื่อซึมซอกคอ ยืนพักเหนื่อย มองซ้าย มองขวา

น้อยหน่าหันไปสบตาพอดี ชายหนุ่มยิ้มให้

"พี่ครับ ผมอยู่จังหวัดไหนแล้วเนี่ย ?"

น้อยหน่าหัวเราะ

"หมายความว่ายังไง ? เรามาจากต่างจังหวัดเหรอ ?"

"เปล่าครับ แต่ผมคิดว่าผมหลงแล้ว จะหาทางเข้าหลังตึกใหญ่ ทำไมมันหลุดเข้ามาอยู่ตรงนี้ได้ ?"

น้อยหน่าชะโงกหน้าพ้นท้ายคอนเทนเนอร์ออกไป เธอมองไม่เห็นตึกใหญ่จากมุมนี้

"เอ... พี่ก็ไม่แน่ใจนะ มองไม่เห็นว่าตึกใหญ่อยู่ทางไหน พี่ก็ไม่ใช่คนแถวนี้เหมือนกัน เดี๋ยวถามพี่อีกคนนึงให้ ยืนพักเหนื่อยตรงนี้ก่อนแล้วกัน"

น้อยหน่าเดินตรงไปหาอาทร

"คุณอาทรคะ น้องคนนั้นจะเอาของไปส่งที่ตึกใหญ่ แต่เค้าหลงมาตรงนี้ ช่วยบอกทางให้เค้าหน่อยได้มั้ยคะ ?"

"ได้ครับ"

ทั้งคู่เดินกลับมาหาหนุ่มหลงทาง

อาทรถามขึ้น

"ส่งของตึกใหญ่เหรอครับน้อง ? กรอบรูปเหรอ ? ข้างในมีรูปหรือเปล่า หรือว่าแค่กรอบ ?"

หนุ่มพยักหน้า

"มีรูปแล้วครับ ถึงได้มีกระดาษห่อปิดไว้อีกชั้นครับ"

"ส่งให้ใครล่ะ เดี๋ยวผมจะให้คนพาไป ตอนนี้เดินไปเองคงลำบากหน่อย เพราะเค้ากำลังเตรียมงานกันอยู่"

"ส่งให้คุณเฉลาครับ ต้องส่งให้คุณเฉลารับกับมือครับ"

อาทรพยักหน้า แล้วหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นพูด

"เมย์ เมย์ครับ ส่งรปภ. มาที่ซุ้มครัวหนึ่งคนครับ มีคนมาส่งของให้คุณแม่เฉลา ให้รปภ.มาพาเค้าไปที่ตึกใหญ่ด้วย"

"เมย์ค่ะ รับทราบค่ะ เดี๋ยวเมย์ตามให้นะคะ" เสียงปลายทางตอบมา

อาทรหันมาทางหนุ่ม

"รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวมีรปภ. มาพาไป"

หนุ่มหลงทางผงกหัวแล้วยิ้มให้

"ขอบคุณครับ"

เขายังยืนหอบ หายใจแรง

น้อยหน่าหยิบแก้วน้ำเย็นหนึ่งใบ เดินมายื่นให้

เขารับแก้วน้ำ แล้วยิ้มให้

"ขอบคุณครับพี่"

"ถือเดินมาจากไหนเนี่ย ? คงเดินไกลล่ะสิ ?"

เขาพยักหน้า

"มาจากประตูด้านหลังโน่นครับ ยามเค้าไม่ให้แท๊กซี่เข้ามา ผมต้องจอดแล้วเดินหอบมา แดดก็ร้อน ไอ้บ้านนี้ก็พื้นที่ใหญ่อย่างกับสนามกอล์ฟ ไม่รู้อยู่กันกี่ร้อยคนถึงต้องมีพื้นที่มากขนาดนี้"

น้อยหน่าหัวเราะ เธอขำที่เขาบ่น แล้วเธอก็หยิบโพยที่เหน็บอยู่กับเข็มขัดออกมากางอ่านอย่างอารมณ์ดี

"บ้านนี้ มีคนอาศัยยี่สิบกว่าคน ไม่นับ คนรับใช้สิบคน คนครัวอีกสามคน คนขับรถอีกหกคน คนสวนอีกสี่คน ช่างไฟสองคน ช่างเบ็ดเตล็ดหนึ่งคน รปภ. เจ็ดนาย หมาสี่ตัว แมวสามตัว รถยนต์ทั้งหมดสิบห้าคัน มีอาคารที่เป็นบ้านสามอาคาร เรือนคนงานอีกสองอาคาร โรงเก็บของหนึ่งโรง โรงรถสี่โรง สระว่ายน้ำหนึ่งสระ สนามบาสหนึ่งสนาม สวนต้นไม้ สวนญี่ปุ่น บ่อปลา อย่างละหนึ่ง รวมพื้นที่ทั้งหมด สองพันสองร้อยตารางวา"

ทันทีที่เธออ่านจบ เสียงหัวเราะร่วนดังมาจากชายหนุ่ม

"โห.. พี่ทำรายงานส่งคณะรัฐมนตรีเหรอครับ ? ทำไมรู้รายละเอียดเยอะจัง ?"

เธอหัวเราะ

"อยากรู้ละเอียดกว่านี้มั้ยล่ะ ? ที่นี่เสียค่าไฟเดือนละหกหมื่นบาท แต่เค้ามีเครื่องปั่นไฟเองด้วย ส่วนค่าน้ำเดือนละหมื่นแปด"

เขาทำหน้าตกใจ

"ค่าไฟเดือนละหกหมื่น ? โอ... ที่นี่เป็นโรงงานผลิตเครื่องบินเจ๊ทหรือไงครับ ถึงได้ใช้ไฟขนาดนี้ ?"

น้อยหน่าหัวเราะ

"ดูรวม ๆ แล้ว ก็น่าจะเป็นไปได้ ตึกสามตึกนั่น ใช้แอร์เข้าไปกี่ตัวแล้ว ไม่นับไฟในตึกอีก ตู้เย็น ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น"

หนุ่มยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนหมด แล้วเอื้อมมือวางแก้วลงบนโต๊ะใกล้ ๆ เขาทำตาเหลือกไปมา แล้วมองขึ้นข้างบน ยกมือขึ้นนับนิ้ว

"โห... เงินเดือนผมสามเดือนยังไม่พอจ่ายค่าไฟที่นี่เดือนเดียวเลย"

น้อยหน่าพูดขึ้น

"แค่คนงานในบ้านนี้ เงินเดือนก็น่าจะเกินสองหมื่นแล้วนะ"

เขาทำตาโต

"จริงดิ ? โอ๊ย... งั้นผมสมัครมาเป็นคนงานที่นี่ดีกว่า"

เขาชี้มือออกไปด้านนอก

"แค่ที่พักคนขับรถกับคนสวนนั่นก็ใหญ่กว่าบ้านผมแล้ว เหอ ๆๆๆ"

ทีมงานที่นั่งอยู่หัวเราะขึ้นพร้อมกัน

"เรามาจากร้านรูปเหรอ ?"

"เปล่าครับ ผมไปรับรูปนี้มาจากร้าน"

"อ้าว นึกว่าเราเป็นเด็กที่ร้านรูปส่งมา"

เสียงรองเท้าบู๊ทกระทบพื้นดังใกล้เข้ามา รปภ.ผิวคล้ำนายหนึ่ง ก้าวผ่านหลังรถคอนเทนเนอร์เข้ามา

อาทรกวักมือเรียก

"อ้าว รปภ. นี่เลย พาน้องคนนี้เข้าไปตึกใหญ่หน่อย"

อาทรชี้มือไปยังหนุ่มหลงทางที่กำลังยืนคุยกับน้อยหน่า

รปภ. มองไปยังชายหนุ่ม แล้วทำตาโต

ตบเท้าดัง 'พั่บ'

ยกมือตะเบ๊ะ พูดเสียงดังลั่น

"สวัสดีครับ คุณรุ่ง"

ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง หันกลับมา แล้วยกมือไหว้ รปภ.

"สวัสดีครับ พี่ ตะโกนซะตกใจหมดเลย"

รปภ. ตกใจที่อีกฝ่ายยกมือไหว้ เขารีบถอดหมวกออก แล้วยกมือไหว้กลับ

"เอ๋า... ตายแล้ว คุณรุ่งยกมือไหว้ผมทำไม ?"

เขารีบใส่หมวกกลับตามเดิม

"คุณรุ่งไม่ได้เข้ามาทางประตูหน้าเหรอครับ ?"

"เปล่าครับ ผมไม่ค่อยคุ้นกับประตูหน้า เข้าประตูหลังดีกว่า แต่วันนี้ ยามที่ประตูโน้น ผมไม่รู้จักซักคนเลย เค้าเลยไม่ให้แท๊กซี่เข้ามา ผมเลยต้องแบกเดินเข้ามาเอง"

รปภ.รีบกุลีกุจอ เดินเข้าไป ทำท่าจะช่วยถือกรอบรูป

รุ่งยกมือห้าม

"ไม่ต้องครับ พี่ อันนี้ผมถือเอง ของสำคัญ พี่ช่วยพาผมเดินไปก็พอครับ ผมเดินไปเองไม่ถูกครับ"

รปภ.ตบเท้าอีกครั้ง เสียงดัง'พั่บ' ยกมือขึ้นตะเบ๊ะอย่างขึงขัง

"ได้ครับ เชิญทางนี้ครับ"

รุ่งหัวเราะหึ ๆ แล้วสั่นหัว พูดพึมพำ

"จะกระทืบเท้าให้ตกใจทำไม ?"

รุ่งหันมาทางน้อยหน่า และ อาทร

"งั้นผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณครับที่ช่วยเรียกรปภ.ให้"

หนุ่มหลงทาง เดินถือรูป ค่อย ๆ แทรกตัวผ่านข้าวของ ตามรปภ. ไป

พรรคพวกที่เหลือ มองหน้ากันด้วยความงุนงง น้อยหน่าทำหน้าเหรอหรา ถามอาทร

"เค้าเป็นใครคะ คุณอาทร ? ไม่ใช่เด็กมาส่งของเหรอคะ ?"

อาทรขมวดคิ้ว

"สงสัยเป็นคุณรุ่ง เพราะรปภ.เรียกชื่อว่า คุณรุ่ง"

"คุณรุ่งคือใครคะ ?"

"คุณรุ่งคือหลานชายคนโตของบ้านนี้"

น้อยหน่าทำหน้าประหลาดใจ เธอเอียงคอถามกลับ

"หลานชายคนโตของบ้านนี้ คือ คุณอิทธิพล ไม่ใช่เหรอคะ ? ไม่น่าจะใช่หรอกค่ะ น่าจะเป็นคนนอก เดินยังหลงทางเลย จะเป็นคนในบ้านนี้ได้ยังไง ?"

"นั่นน่ะสิ ผมก็งงเหมือนกัน หลานชายคนโตของบ้านนี้น่ะ ชื่อ รุ่งโรจน์ ไม่ใช่อิทธิพล อันนี้ยังไม่ได้ประกาศเป็นทางการ แต่คนภายในก็รู้กันหมดแล้วครับ ส่วนผู้ชายคนเมื่อกี๊เป็นใคร อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ท่าทางเท่าที่พูดคุย ไม่น่าจะใช่คนในบ้านนี้ แต่ถ้ารปภ.เรียกว่าคุณรุ่ง ผมก็คิดว่าอาจจะใช่ เป็นหลานชายคนโตจริง ๆ"

น้อยหน่าหัวเราะ

"ท่าทางไม่เหมือนกับคนในตระกูลไตรสรณ์เลย เหมือนวัยรุ่นธรรมดาคนนึง ถ้าใช่ก็แปลกแล้วค่ะ เดินหลงทางในบ้านตัวเอง"

อาทรนิ่งคิดสักพัก แล้วพยักหน้า

"ผมคิดว่าใช่นะ ผมเริ่มคุ้น ๆ ว่าเคยเห็นในรูป ผมว่าคนเมื่อกี๊แหละ คือ คุณรุ่งโรจน์"

น้อยหน่าทำตาโต

"จริงเหรอคะ ? เป็นไปได้ไง ? ทำไมท่าทางดูเหมือนกับคนที่ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านนี้ ? อือ... แต่หน้าตาเค้าก็สะอาดดีนะ บุคลิกก็ตลก ๆ แล้วยังบอกว่าอยากจะมาสมัครเป็นคนงานในบ้านตัวเองอีก อำหน้าตาเฉยเลย"

***********************************************************************************************

1 < อ่านหน้า > 3, 4
นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่