ตอน 47 หน้า 2

เกลียดพ่อ

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

เรื่องราวที่ยิ้มได้ฟังจากปากของละมุดเมื่อคืนวานนี้ ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจที่จะเล่าต่อ...

วิทย์แนะนำให้เลือกสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เพื่อนัดรุ่งออกมา เขารู้ว่ายิ้มรู้สึกลำบากใจที่จะเป็นคนเล่า แต่เขาก็ยังยืนยันให้ยิ้ม เล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ยินมาให้รุ่งฟัง โดยไม่ตกหล่น

ร้านอาหาร 'กันเอง' ที่วิทย์เลือก เป็นร้านอาหารที่อยู่ถัดเข้ามาในซอย ห่างจากถนนใหญ่พอสมควร

เขาเคยขับรถผ่านร้านนี้หลายครั้ง ไม่เคยเห็นว่าร้านนี้มีคนแน่นร้านสักครั้งหนึ่ง เป็นสัญญาณบอกเขาได้ว่าคุณภาพอาหารคงเป็นไปตามจำนวนของลูกค้า

วิทย์กับยิ้ม มาถึงร้านก่อน เป็นแขกโต๊ะแรกของร้านในเย็นวันนี้

สักพัก รุ่ง อยู่ในชุดเสื้อยืดคอปก กางเกงขาสามส่วน รองเท้าผ้าใบ เดินเข้าร้านอาหารมา

ยิ้มโบกมือขึ้นทัก

"สวัสดีค่ะรุ่ง น่าอิจฉาจัง คนไม่ต้องทำงาน"

รุ่งกำลังเดินเข้ามาหาที่โต๊ะอาหาร ได้ยินประโยคทักของยิ้ม ก็ทำท่าย่อตัว แล้วทรุดลงไปนั่งยอง ๆ กับพื้น

"โห... หมดแรงเลย เล่นทักแบบนี้ กำลังเครียดเรื่องไม่มีงาน ยังมาทักแบบนี้อีก ใจร้ายจริง ๆ"

ยิ้มหัวเราะ

เด็กสาวประจำร้านยืนอมยิ้ม

รุ่งลุกขึ้นมา หันซ้ายขวา มองไปทั่วร้าน แล้วพูดกับสาวประจำร้าน

"น้อง... นี่ร้านปิดแล้วเหรอ ? ทำไมปิดเร็วจัง ? ไม่ทันทุ่มนึงเลยปิดแล้ว"

เด็กสาวหัวเราะคิกคัก

"ยังค่ะ ยังไม่ปิดค่ะ ปิดสามทุ่มค่ะ"

รุ่งสั่นหัว

"อย่ามาโกหกกันเลย ปิดแล้วก็ไม่ยอมบอก" เขาหันหน้ามาหาวิทย์

"เฮ่ย...วิทย์ ไปสิ รีบเปลี่ยนร้านเร็ว เค้าจะรีบปิดร้านแล้วยังมานั่งเกะกะเค้า"

เด็กสาวคนเดิมไม่รู้ทันมุขของรุ่ง รีบเดินเข้ามาท้วง

"ยังค่ะ ยังไม่ปิดค่ะ"

รุ่งมองหน้าเธอ

"ยังไม่ปิด แล้วลูกค้าหายไปไหนหมด ? นี่เค้าคงกินอิ่มกลับไปนอนหมดแล้วล่ะสิ"

เธอรู้ตัวว่าถูกอำ ก็หัวเราะตัวเอง

"แหม... ก็พี่ไม่มาวันที่คนแน่นนี่คะ"

วิทย์หัวเราะเสียงดัง

"ฮ่า ๆๆ มีด้วยเหรอ ร้านนี้คนแน่น ? ผมขับผ่านมากี่ครั้ง เห็นอย่างมากก็สี่คน"

รุ่งหัวเราะหึ ๆ

"โอเค ได้ ๆ งั้นเรารีบสั่งกัน เดี๋ยวทุ่มครึ่ง คนคงแห่กันมา น่ากลัว กลัวคนแน่น"

เขาเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วทรุดตัวลงนั่ง

สาวประจำร้านยังยืนขำที่ตัวเองถูกอำ

วิทย์ยื่นรายการอาหารให้รุ่ง เขาเปิดดูรายการอาหาร

"มีอะไรที่ได้เร็วบ้างน้อง ? พี่ไม่อยากไปต่อคิวคนอื่น ช่วยแซงคิวให้พี่ได้มั้ย ไม่งั้นพี่หิวตายแน่"

เด็กสาวออกอาการขำอีก เธอยืนหัวเราะไม่หยุด

วิทย์ยื่นขามาเตะขาเพื่อน

"เฮ่ย...ไอ้สันดาน กวนเค้าอยู่ได้ กูอุตส่าห์หาร้านที่คนน้อย ๆ เพื่อมึงนะนี่ รีบ ๆ สั่งไปเลย"

รุ่งพยักหน้า

"เอ้า... ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ หนึ่งจาน"

สาวพยักหน้ารับออร์เดอร์

"ค่ะ เดี๋ยวจะแซงคิวให้ค่ะ" เธอเริ่มรับมุขของลูกค้าจอมกวน

รุ่งหัวเราะหึ ๆ เขาหันมามองหน้ายิ้มแล้วเพยิดหน้า

"ว่าไงยิ้ม ? ท่านแม่จะสงเคราะห์เราเรื่องอะไรบ้างเหรอ ?"

ยิ้มพยักหน้า

"ค่ะ เอ... แต่ท่าทางรุ่งเหมือนไม่เดือดร้อนอะไรนิ ยังร่าเริงเป็นปกติ ยังงี้คงไม่ต้องแล้วมั้งคะ"

รุ่งผงกหัว

"อือ... เดี๋ยวนี้ยิ้มเริ่มกวนขึ้นทุกวันละ ไอ้วิทย์มันสอนหรือไง ? หน้าเราระรื่นแบบนี้ ข้างในนี่ร้องไห้อยู่ รู้สึกว่าอุปสรรคในชีวิตมันเยอะเหลือเกิน ถ้ายิ้มเอามือมาแตะหน้าอกเราตรงนี้ จะสัมผัสได้ว่าเราทุกข์ขนาดไหน"

รุ่งยกมือทาบอกตัวเอง

วิทย์ทนหมั่นไส้เพื่อนไม่ได้ เขาสั่นหัว

"อย่าดราม่าให้มากเลย กูเลี่ยนว่ะ เก็บไว้หวานกับคนที่ควรจะหวานเหอะ ไม่ต้องมาหวานกับยิ้มหรอก ไม่ว่ามึงจะพูดแบบไหน ยิ้มก็รักมึงจะตายอยู่แล้ว"

รุ่งยิ้มแล้วยักคิ้ว

"จริงหรือเปล่ายิ้ม ? ยิ้มรักเราจะตายแล้วเหรอ ? มากไปหรือเปล่า ? เอาแค่ลงแดงก็พอนะ อย่าให้ถึงตายเลย"

ยิ้มหัวเราะ

"ค่ะ ก็รุ่งน่ารักขนาดนี้ ใครจะไม่รักเล่า ลองไปถามฝนดูสิ"

วิทย์หัวเราะทันที

"เหอ ๆ ๆ ตลกว่ะ ถ้าฝนเกิดมาเป็นแฟนไอ้รุ่งนะ เพื่อนที่หอ ฯ ต้องเอาหัวเดินต่างตีนแน่ ๆ ใครจะไปเชื่อเรื่องนี้"

รุ่งขมวดคิ้ว

"กูนี่มันห่างจากฝนขนาดนั้นเลยเหรอวะ ? อือ... เดี๋ยวได้รู้"

วิทย์ยักคิ้วให้เพื่อน

"ตกลงจะเอาจริงแล้วเหรอ ? ให้มันแน่เถอะมึง ฝนเค้าเปิดโอกาสให้ขนาดนี้แล้ว ถ้ามึงยังโง่ไม่ดูดตูด จะเสียดาย"

"ดูดติดไป คันหน้าเบรค กูก็หัวทิ่ม"

ยิ้มพูดขึ้น

"ถ้าจะไม่สำเร็จ ก็ไม่ใช่เพราะฝนไม่เลือกรุ่งหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะรุ่งเองนี่แหละ รุ่งยังมีอะไรคาใจอยู่ ต้องล้างมันออกซะก่อน"

ทั้งวิทย์ และ รุ่ง หันหน้ามาจ้องยิ้ม ทั้งสองคนรู้ทันทีว่า ยิ้มคงมีสัมผัสอะไรพิเศษถึงได้พูดแบบนั้น

รุ่งถามทันที

"อะไรคาใจเราเหรอยิ้ม ? ยิ้มรู้เหรอว่ามีอะไร ?"

ยิ้มพยักหน้า

"ยิ้มรู้ว่ามีอะไรที่ติดค้างในใจรุ่ง แต่ยิ้มยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ถ้ารุ่งยังหามันไม่พบ ยังไม่ได้ล้างมัน รุ่งก็จะมีปัญหาติด ๆ ขัด ๆ ในชีวิตไปเรื่อย ๆ จะมีแฟน ก็ไม่มีซักที ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงก็ชอบเรา เราก็ชอบเขา จะทำงาน ก็ไม่ได้งานที่ดี ทั้ง ๆ ที่เราก็มีฝีมือ จะใช้ลูกดิ่ง ก็กลับใช้ทำนายตัวเองไม่ได้ เรื่องสุขภาพตัวเอง ต้องให้ทอมตรวจให้แทน ทั้ง ๆ ที่รุ่งเองก็มีฝีมือใช้ลูกดิ่งได้ดี"

รุ่งคิดตามทันที สิ่งที่ยิ้มพูด ถูกต้องทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยคิดเรียบเรียงเรื่องราวต่าง ๆ ได้เช่นนี้

"อือ ใช่ ๆ ... ยิ้มพูดถูกหมดเลย ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเราจะหัดอะไร เราจะเป็นเร็วกว่าคนอื่น หัดเล่นกีต้าร์เอง แป๊บเดียวก็เก่งกว่าคนอื่นแล้ว แต่มันก็ได้แค่มือสมัครเล่น พอจะเล่นจริงจังก็ขี้เกียจขึ้นมาซะงั้น ตอนคิดจะศึกษาธรรมะ แค่อ่านหนังสือธรรมะไม่กี่เล่ม เราก็เข้าใจอะไรมากกว่าคนอื่น แล้วไปได้เร็วมาก ๆ หัดนั่งสมาธิเอง ทำความเข้าใจศัพท์ธรรมะเอง เหมือนกับจะไปได้ไกล แต่พอมาถึงระดับนึง มันก็หยุดแค่นั้น เรื่องการงานไม่ต้องพูดถึงเลย ใคร ๆ ก็ยอมรับว่าเราทำงานดี แต่เจ้านายกลับไม่ชอบ แค่จุดเดียวเท่านั้น อนาคตหมดเลย"

"ค่ะ ดูเหมือนอะไรจะพร้อมกว่าคนอื่น แต่ไม่รุ่ง ทั้ง ๆ ที่ชื่อรุ่ง คนอื่นดูเหมือนไม่พร้อมเท่าเรา แต่พอถึงเวลา เขากลับรุ่ง"

"ใช่ ๆ ดูไอ้นี่ดิ" เขาชี้หน้าเพื่อน "เรียนก็เรียนมาด้วยกัน นิสัยก็เลวพอ ๆ กัน แล้วดูมัน งานก็ไปไกลกว่า ความรักก็สมหวัง"

ยิ้มเอียงคอ

"เหรอคะ ? ใครบอกรุ่งว่าความรักเค้าสมหวัง ?" แล้วเธอก็เหลือบมองไปที่วิทย์

จำเลยขยับแว่น แล้วทำตาโต เพื่อกลบความเขิน

รุ่งพูดต่อ

"อย่างน้อย ถ้าเทียบกับเรา ไอ้ซ่งนี่ก็คงไปไกลกว่า ตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะที มีแค่เป็นวุ้น ๆ"

นายซ่งสั่นหัว ได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้ ทำให้เขาวกไปคิดถึงเรื่องที่เคยซักไซร้ถามรุ่ง แต่ไม่ได้ใจความซักที

"งั้นจะให้กูถามเรื่องนักเทนนิสคนนั้นอีกมั้ย ว่าตกลง มึงเป็นอะไร ถึงอาการหนักขนาดนั้น ?"

ยิ้มมองหน้ารุ่งแทนคำถาม วิทย์ไม่เคยเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องนี้มาก่อน

รุ่งหัวเราะหึ ๆ เขาไม่โต้ตอบด้วยคำพูดใด ๆ

ยิ้มพยักหน้า

"นี่แหละค่ะ เรียกว่าเรื่องที่คาใจ ถ้าไม่แก้ มันก็ต้องคาไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีผลต่ออนาคต ทำให้เราตัดสินใจอะไรไม่ขาด"

รุ่งขมวดคิ้ว

"มันไม่ได้คาใจ เพียงแต่มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้"

วิทย์โต้กลับ

"นั่นแหละ เรียกว่าคาใจ เพราะถ้ามึงตอบกูได้หมด ก็แสดงว่ามึงเคลียร์ แต่นี่มึงตอบไม่ได้ คำตอบคือ ไม่ซ้าย ก็ขวา ตอบมาอย่างไหนก็ได้ แต่นี่มึงซ้ายก็ไม่ซ้าย ขวา ก็ไม่ขวา ตรงกลางก็ไม่ใช่ สเตตัสมึงคืออะไร ?"

ยิ้มเริ่มแนะนำ

"เอางี้ค่ะ รุ่งลองมาเริ่มเคลียร์ปัญหาติดค้างในอดีตมั้ยค่ะ ? ลองทำตามท่านแม่ ท่านแม่จะช่วยขุดให้"

"ทำไงเหรอ ยิ้ม ?"

"ง่าย ๆ ตอนนี้ ให้รุ่งหลับตาทำสมาธิ ทำใจให้สงบก่อน"

"ทำที่นี่เลยเหรอ ? ในร้านอาหารนี่เลยเหรอ ?"

"ได้ค่ะ ที่นี่เลย ตอนนี้ไม่มีคน"

"หรือมึงจะไปทำที่ป้ายรถเมล์ ?" วิทย์พูดใส่หน้าเพื่อน

รุ่งพยักหน้า เขาขยับตัวปรับท่านั่งใหม่ หลังตรง ก้นชิดพนักพิง แล้วค่อย ๆ หลับตา

ยิ้มค่อย ๆ พูดนำ

"รุ่งจับลมหายใจเหมือนกับตอนนั่งสมาธินะคะ ให้นึกถึงท้องฟ้า โล่ง ๆ แล้วรู้สึกว่าตัวเราเบา ๆ เบาจนค่อย ๆ ลอยขึ้นได้ ลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ ลอยขึ้นไปจนถึงเมฆ แล้วเลยเมฆขึ้นไป รู้สึกยังงั้นหรือยังคะ ?"

เขาพยักหน้า รุ่งไม่เคยมีปัญหาในเรื่องการจินตนาการ เขารู้สึกอย่างนั้นทันทีที่ยิ้มพูดจบประโยค

"ตอนนี้ยิ้มจะดึงรุ่งให้หลุดออกจากปัจจุบัน ลอยออกมานอกโลกเลย เห็นโลกทั้งใบลอยอยู่ข้างหน้า"

รุ่งพยักหน้า เป็นคำตอบว่า เขาได้ทำตามแล้ว

"ต่อมา เราจะย้อนเวลากลับไปในอดีต รุ่งจะมองเห็นโลกหมุนกลับอย่างเร็ว เร็วกว่าล้อรถยนต์ที่กำลังวิ่งอีก เวลาย้อนกลับไปรอบละหนึ่งปี ย้อนกลับไปยี่สิบรอบ"

รุ่งมองเห็นภาพตามนั้น โลกกำลังหมุนกลับไปเรื่อย ๆ

"หมุนครบยี่สิบรอบแล้วหยุด ขณะนี้โลกหยุดหมุน รุ่งพาตัวเองค่อย ๆ กลับลงมาสู่โลก กลับมาที่บ้านตัวเอง ตอนนี้รุ่งอายุเท่าไหร่คะ ?"

รุ่งตอบทั้ง ๆ หลับตา

"หกขวบ"

วิทย์นั่งฟังไปเรื่อย ๆ เขาไม่เคยใส่ใจเรื่องความสามารถเหนือธรรมชาติต่าง ๆ แต่กลับเป็นผู้หญิงคนนี้ ที่นำพาเรื่องเหล่านี้มาให้เขารับรู้ สิ่งเหล่านี้คงมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ ไม่มากก็น้อย

"รุ่งพาตัวเองไปที่บ้านนะคะ"

"ถึงบ้านแล้ว"

รุ่งรายงานเป็นระยะ ๆ

"คราวนี้ ให้รุ่งนึกถึงชีวิตประจำวันในแต่ละวัน เท่าที่จำความได้ ว่าตั้งแต่เช้าถึงเย็น รุ่งทำอะไรบ้าง เจอใครบ้าง"

เขาปล่อยจิตให้ระลึกความหลัง ความหลังที่ดูเลือนลาง ค่อย ๆ กลับมาเยือนเขา ภาพเหล่านั้นชัดยิ่งขึ้นเมื่อเขาอยู่ในสมาธิที่สงบ

วิทย์นั่งมองเพื่อนที่กำลังหลับตา ความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงที่กำลังบำบัดเพื่อนเขา มีทั้งอารมณ์ของความฉงน ทึ่ง และ สับสน

ยิ้มพูดนำทางต่อไป

"เมื่อเห็นภาพกิจวัตรประจำวันแล้ว ก็นึกถึงกิจวัตรที่ทำในแต่ละสัปดาห์ เท่าที่ระลึกได้"

รุ่งพยักหน้า

"คิดว่าคงจำได้แค่นี้"

"ค่ะ เท่าที่ระลึกได้ ตอนนี้มีเหตุการณ์อะไรสำคัญที่ค้างคาในใจ ทั้งเรื่องผู้คน สถานที่ หรือ สิ่งของ อะไรก็ได้ นึกแบบผ่าน ๆ นะคะ ไม่ต้องลงละเอียด ถ้ามี มันจะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มี ให้บอกว่าผ่าน"

"ไม่มีครับ เท่าที่จำความได้ ไม่มีอะไรที่ติดในใจ"

"ค่ะ งั้น เห็นภาพตัวเองค่อย ๆ โตขึ้น แล้วเห็นกิจวัตรประจำวันเริ่มเปลี่ยนไป รุ่งจะเห็นภาพแบบการดูดีวิดีในสปีดสามเท่าสี่เท่า ทำได้มั้ยคะ?"

รุ่งยิ้มทั้ง ๆ ที่หลับตา

"อือ... ทำได้ ๆ แปลกจัง เห็นเป็นแบบนั้นได้"

"ค่อย ๆ เห็นภาพไปเรื่อย ๆ นะคะ ตั้งจิตไว้ว่า เมื่อไหร่ที่มี่เรื่อง หรือ เหตุการณ์ช่วงไหน ที่ติดค้างในใจ ขอให้เรื่องนั้นผุดขึ้นมา"

รุ่งระลึกถึงภาพในอดีต พ่อ แม่ คุณตา คุณยาย และ ญาติ ๆ ทางฝ่ายของแม่ เพื่อนสนิทของพ่อ ชีวิตเขาวนเวียนกับผู้คนเหล่านี้ จนเมื่อถึงชั้นมัธยม เหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น

ภาพนั้นหยุดไว้ ณ ตอนเช้าตรู่ของวันหนึ่ง หลังจากที่แม่ได้วางโทรศัพท์ แล้วเดินมาบอกเขาในห้องนอนว่า พ่อเขาได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในประเทศอังกฤษ

ความติดขัดในใจที่มีต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ใช่ความเสียใจที่ได้สูญเสียพ่อไป เพราะเขามั่นใจว่าสิ่งที่เขาได้รับรู้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เหตุใดถึงไม่มีใครอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ได้ คนที่ใกล้ชิดคุณพ่อทุกคนนิ่งเฉย ไม่มีใครมีท่าทีเศร้าโศกเสียใจ

เรื่องเหล่านี้ติดค้างในใจตลอดมา และ คงจะตลอดไป เด็กอายุสิบสามแล้ว คงจะฉลาดพอที่จะมองออกว่า ความผูกพันที่คนรอบข้างมีต่อพ่อของเขา มันลึกซึ้งเกินกว่าที่จะปิดกั้นอารมณ์ได้ แต่ทุกคนกลับดำเนินชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

รุ่งหายใจแรงขึ้นจนเห็นได้ชัด

ยิ้มเห็นอาการของเขา เธอถามขึ้น

"รุ่งคะ ระลึกถึงสิ่งที่ติดค้างได้แล้วเหรอคะ ?"

"ครับ เรื่องพ่อ ข่าวเรื่องพ่อเครื่องบินตก"

"เหรอคะ ? รุ่งยังอาลัยอาวรณ์ ทำใจไม่ได้ที่พ่อจากไปใช่มั้ยคะ ?"

"ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ เรื่องที่ติดค้างนี้คงรอเวลาที่จะแก้ไขได้ คงอีกไม่นาน"

เพียงแค่นึกถึงสิ่งที่คุณย่าให้สัญญากับเขา ทำให้เขามีกำลังใจที่จะอดทนต่อไป เมื่อวันนั้นมาถึง เรื่องที่ติดค้างคาใจมาสิบกว่าปีก็คงจะได้ถูกถอนทั้งราก และ โคน

ยิ้มพยักหน้า

"งั้น ข้ามเหตุการณ์นั้นนะคะ เร่งสปีดเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เมื่อรุ่งโตขึ้นมากกว่านั้น ระลึกถึงอะไรได้อีก ?"

<กลับหน้าแรก... อ่านหน้าต่อไป >
นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่