| |||||||
| |||||||
สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท เรื่องราวที่ยิ้มได้ฟังจากปากของละมุดเมื่อคืนวานนี้ ทำให้เธอรู้สึกลำบากใจที่จะเล่าต่อ... วิทย์แนะนำให้เลือกสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เพื่อนัดรุ่งออกมา เขารู้ว่ายิ้มรู้สึกลำบากใจที่จะเป็นคนเล่า แต่เขาก็ยังยืนยันให้ยิ้ม เล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้ยินมาให้รุ่งฟัง โดยไม่ตกหล่น ร้านอาหาร 'กันเอง' ที่วิทย์เลือก เป็นร้านอาหารที่อยู่ถัดเข้ามาในซอย ห่างจากถนนใหญ่พอสมควร เขาเคยขับรถผ่านร้านนี้หลายครั้ง ไม่เคยเห็นว่าร้านนี้มีคนแน่นร้านสักครั้งหนึ่ง เป็นสัญญาณบอกเขาได้ว่าคุณภาพอาหารคงเป็นไปตามจำนวนของลูกค้า วิทย์กับยิ้ม มาถึงร้านก่อน เป็นแขกโต๊ะแรกของร้านในเย็นวันนี้ สักพัก รุ่ง อยู่ในชุดเสื้อยืดคอปก กางเกงขาสามส่วน รองเท้าผ้าใบ เดินเข้าร้านอาหารมา ยิ้มโบกมือขึ้นทัก "สวัสดีค่ะรุ่ง น่าอิจฉาจัง คนไม่ต้องทำงาน" รุ่งกำลังเดินเข้ามาหาที่โต๊ะอาหาร ได้ยินประโยคทักของยิ้ม ก็ทำท่าย่อตัว แล้วทรุดลงไปนั่งยอง ๆ กับพื้น "โห... หมดแรงเลย เล่นทักแบบนี้ กำลังเครียดเรื่องไม่มีงาน ยังมาทักแบบนี้อีก ใจร้ายจริง ๆ" ยิ้มหัวเราะ เด็กสาวประจำร้านยืนอมยิ้ม รุ่งลุกขึ้นมา หันซ้ายขวา มองไปทั่วร้าน แล้วพูดกับสาวประจำร้าน "น้อง... นี่ร้านปิดแล้วเหรอ ? ทำไมปิดเร็วจัง ? ไม่ทันทุ่มนึงเลยปิดแล้ว" เด็กสาวหัวเราะคิกคัก "ยังค่ะ ยังไม่ปิดค่ะ ปิดสามทุ่มค่ะ" รุ่งสั่นหัว "อย่ามาโกหกกันเลย ปิดแล้วก็ไม่ยอมบอก" เขาหันหน้ามาหาวิทย์ "เฮ่ย...วิทย์ ไปสิ รีบเปลี่ยนร้านเร็ว เค้าจะรีบปิดร้านแล้วยังมานั่งเกะกะเค้า" เด็กสาวคนเดิมไม่รู้ทันมุขของรุ่ง รีบเดินเข้ามาท้วง "ยังค่ะ ยังไม่ปิดค่ะ" รุ่งมองหน้าเธอ "ยังไม่ปิด แล้วลูกค้าหายไปไหนหมด ? นี่เค้าคงกินอิ่มกลับไปนอนหมดแล้วล่ะสิ" เธอรู้ตัวว่าถูกอำ ก็หัวเราะตัวเอง "แหม... ก็พี่ไม่มาวันที่คนแน่นนี่คะ" วิทย์หัวเราะเสียงดัง "ฮ่า ๆๆ มีด้วยเหรอ ร้านนี้คนแน่น ? ผมขับผ่านมากี่ครั้ง เห็นอย่างมากก็สี่คน" รุ่งหัวเราะหึ ๆ "โอเค ได้ ๆ งั้นเรารีบสั่งกัน เดี๋ยวทุ่มครึ่ง คนคงแห่กันมา น่ากลัว กลัวคนแน่น" เขาเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วทรุดตัวลงนั่ง สาวประจำร้านยังยืนขำที่ตัวเองถูกอำ วิทย์ยื่นรายการอาหารให้รุ่ง เขาเปิดดูรายการอาหาร "มีอะไรที่ได้เร็วบ้างน้อง ? พี่ไม่อยากไปต่อคิวคนอื่น ช่วยแซงคิวให้พี่ได้มั้ย ไม่งั้นพี่หิวตายแน่" เด็กสาวออกอาการขำอีก เธอยืนหัวเราะไม่หยุด วิทย์ยื่นขามาเตะขาเพื่อน "เฮ่ย...ไอ้สันดาน กวนเค้าอยู่ได้ กูอุตส่าห์หาร้านที่คนน้อย ๆ เพื่อมึงนะนี่ รีบ ๆ สั่งไปเลย" รุ่งพยักหน้า "เอ้า... ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ หนึ่งจาน" สาวพยักหน้ารับออร์เดอร์ "ค่ะ เดี๋ยวจะแซงคิวให้ค่ะ" เธอเริ่มรับมุขของลูกค้าจอมกวน รุ่งหัวเราะหึ ๆ เขาหันมามองหน้ายิ้มแล้วเพยิดหน้า "ว่าไงยิ้ม ? ท่านแม่จะสงเคราะห์เราเรื่องอะไรบ้างเหรอ ?" ยิ้มพยักหน้า "ค่ะ เอ... แต่ท่าทางรุ่งเหมือนไม่เดือดร้อนอะไรนิ ยังร่าเริงเป็นปกติ ยังงี้คงไม่ต้องแล้วมั้งคะ" รุ่งผงกหัว "อือ... เดี๋ยวนี้ยิ้มเริ่มกวนขึ้นทุกวันละ ไอ้วิทย์มันสอนหรือไง ? หน้าเราระรื่นแบบนี้ ข้างในนี่ร้องไห้อยู่ รู้สึกว่าอุปสรรคในชีวิตมันเยอะเหลือเกิน ถ้ายิ้มเอามือมาแตะหน้าอกเราตรงนี้ จะสัมผัสได้ว่าเราทุกข์ขนาดไหน" รุ่งยกมือทาบอกตัวเอง วิทย์ทนหมั่นไส้เพื่อนไม่ได้ เขาสั่นหัว "อย่าดราม่าให้มากเลย กูเลี่ยนว่ะ เก็บไว้หวานกับคนที่ควรจะหวานเหอะ ไม่ต้องมาหวานกับยิ้มหรอก ไม่ว่ามึงจะพูดแบบไหน ยิ้มก็รักมึงจะตายอยู่แล้ว" รุ่งยิ้มแล้วยักคิ้ว "จริงหรือเปล่ายิ้ม ? ยิ้มรักเราจะตายแล้วเหรอ ? มากไปหรือเปล่า ? เอาแค่ลงแดงก็พอนะ อย่าให้ถึงตายเลย" ยิ้มหัวเราะ "ค่ะ ก็รุ่งน่ารักขนาดนี้ ใครจะไม่รักเล่า ลองไปถามฝนดูสิ" วิทย์หัวเราะทันที "เหอ ๆ ๆ ตลกว่ะ ถ้าฝนเกิดมาเป็นแฟนไอ้รุ่งนะ เพื่อนที่หอ ฯ ต้องเอาหัวเดินต่างตีนแน่ ๆ ใครจะไปเชื่อเรื่องนี้" รุ่งขมวดคิ้ว "กูนี่มันห่างจากฝนขนาดนั้นเลยเหรอวะ ? อือ... เดี๋ยวได้รู้" วิทย์ยักคิ้วให้เพื่อน "ตกลงจะเอาจริงแล้วเหรอ ? ให้มันแน่เถอะมึง ฝนเค้าเปิดโอกาสให้ขนาดนี้แล้ว ถ้ามึงยังโง่ไม่ดูดตูด จะเสียดาย" "ดูดติดไป คันหน้าเบรค กูก็หัวทิ่ม" ยิ้มพูดขึ้น "ถ้าจะไม่สำเร็จ ก็ไม่ใช่เพราะฝนไม่เลือกรุ่งหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะรุ่งเองนี่แหละ รุ่งยังมีอะไรคาใจอยู่ ต้องล้างมันออกซะก่อน" ทั้งวิทย์ และ รุ่ง หันหน้ามาจ้องยิ้ม ทั้งสองคนรู้ทันทีว่า ยิ้มคงมีสัมผัสอะไรพิเศษถึงได้พูดแบบนั้น รุ่งถามทันที "อะไรคาใจเราเหรอยิ้ม ? ยิ้มรู้เหรอว่ามีอะไร ?" ยิ้มพยักหน้า "ยิ้มรู้ว่ามีอะไรที่ติดค้างในใจรุ่ง แต่ยิ้มยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ถ้ารุ่งยังหามันไม่พบ ยังไม่ได้ล้างมัน รุ่งก็จะมีปัญหาติด ๆ ขัด ๆ ในชีวิตไปเรื่อย ๆ จะมีแฟน ก็ไม่มีซักที ทั้ง ๆ ที่ผู้หญิงก็ชอบเรา เราก็ชอบเขา จะทำงาน ก็ไม่ได้งานที่ดี ทั้ง ๆ ที่เราก็มีฝีมือ จะใช้ลูกดิ่ง ก็กลับใช้ทำนายตัวเองไม่ได้ เรื่องสุขภาพตัวเอง ต้องให้ทอมตรวจให้แทน ทั้ง ๆ ที่รุ่งเองก็มีฝีมือใช้ลูกดิ่งได้ดี" รุ่งคิดตามทันที สิ่งที่ยิ้มพูด ถูกต้องทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยคิดเรียบเรียงเรื่องราวต่าง ๆ ได้เช่นนี้ "อือ ใช่ ๆ ... ยิ้มพูดถูกหมดเลย ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเราจะหัดอะไร เราจะเป็นเร็วกว่าคนอื่น หัดเล่นกีต้าร์เอง แป๊บเดียวก็เก่งกว่าคนอื่นแล้ว แต่มันก็ได้แค่มือสมัครเล่น พอจะเล่นจริงจังก็ขี้เกียจขึ้นมาซะงั้น ตอนคิดจะศึกษาธรรมะ แค่อ่านหนังสือธรรมะไม่กี่เล่ม เราก็เข้าใจอะไรมากกว่าคนอื่น แล้วไปได้เร็วมาก ๆ หัดนั่งสมาธิเอง ทำความเข้าใจศัพท์ธรรมะเอง เหมือนกับจะไปได้ไกล แต่พอมาถึงระดับนึง มันก็หยุดแค่นั้น เรื่องการงานไม่ต้องพูดถึงเลย ใคร ๆ ก็ยอมรับว่าเราทำงานดี แต่เจ้านายกลับไม่ชอบ แค่จุดเดียวเท่านั้น อนาคตหมดเลย" "ค่ะ ดูเหมือนอะไรจะพร้อมกว่าคนอื่น แต่ไม่รุ่ง ทั้ง ๆ ที่ชื่อรุ่ง คนอื่นดูเหมือนไม่พร้อมเท่าเรา แต่พอถึงเวลา เขากลับรุ่ง" "ใช่ ๆ ดูไอ้นี่ดิ" เขาชี้หน้าเพื่อน "เรียนก็เรียนมาด้วยกัน นิสัยก็เลวพอ ๆ กัน แล้วดูมัน งานก็ไปไกลกว่า ความรักก็สมหวัง" ยิ้มเอียงคอ "เหรอคะ ? ใครบอกรุ่งว่าความรักเค้าสมหวัง ?" แล้วเธอก็เหลือบมองไปที่วิทย์ จำเลยขยับแว่น แล้วทำตาโต เพื่อกลบความเขิน รุ่งพูดต่อ "อย่างน้อย ถ้าเทียบกับเรา ไอ้ซ่งนี่ก็คงไปไกลกว่า ตั้งแต่เกิดมา เรายังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะที มีแค่เป็นวุ้น ๆ" นายซ่งสั่นหัว ได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้ ทำให้เขาวกไปคิดถึงเรื่องที่เคยซักไซร้ถามรุ่ง แต่ไม่ได้ใจความซักที "งั้นจะให้กูถามเรื่องนักเทนนิสคนนั้นอีกมั้ย ว่าตกลง มึงเป็นอะไร ถึงอาการหนักขนาดนั้น ?" ยิ้มมองหน้ารุ่งแทนคำถาม วิทย์ไม่เคยเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องนี้มาก่อน รุ่งหัวเราะหึ ๆ เขาไม่โต้ตอบด้วยคำพูดใด ๆ ยิ้มพยักหน้า "นี่แหละค่ะ เรียกว่าเรื่องที่คาใจ ถ้าไม่แก้ มันก็ต้องคาไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีผลต่ออนาคต ทำให้เราตัดสินใจอะไรไม่ขาด" รุ่งขมวดคิ้ว "มันไม่ได้คาใจ เพียงแต่มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้" วิทย์โต้กลับ "นั่นแหละ เรียกว่าคาใจ เพราะถ้ามึงตอบกูได้หมด ก็แสดงว่ามึงเคลียร์ แต่นี่มึงตอบไม่ได้ คำตอบคือ ไม่ซ้าย ก็ขวา ตอบมาอย่างไหนก็ได้ แต่นี่มึงซ้ายก็ไม่ซ้าย ขวา ก็ไม่ขวา ตรงกลางก็ไม่ใช่ สเตตัสมึงคืออะไร ?" ยิ้มเริ่มแนะนำ "เอางี้ค่ะ รุ่งลองมาเริ่มเคลียร์ปัญหาติดค้างในอดีตมั้ยค่ะ ? ลองทำตามท่านแม่ ท่านแม่จะช่วยขุดให้" "ทำไงเหรอ ยิ้ม ?" "ง่าย ๆ ตอนนี้ ให้รุ่งหลับตาทำสมาธิ ทำใจให้สงบก่อน" "ทำที่นี่เลยเหรอ ? ในร้านอาหารนี่เลยเหรอ ?" "ได้ค่ะ ที่นี่เลย ตอนนี้ไม่มีคน" "หรือมึงจะไปทำที่ป้ายรถเมล์ ?" วิทย์พูดใส่หน้าเพื่อน รุ่งพยักหน้า เขาขยับตัวปรับท่านั่งใหม่ หลังตรง ก้นชิดพนักพิง แล้วค่อย ๆ หลับตา ยิ้มค่อย ๆ พูดนำ "รุ่งจับลมหายใจเหมือนกับตอนนั่งสมาธินะคะ ให้นึกถึงท้องฟ้า โล่ง ๆ แล้วรู้สึกว่าตัวเราเบา ๆ เบาจนค่อย ๆ ลอยขึ้นได้ ลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ ลอยขึ้นไปจนถึงเมฆ แล้วเลยเมฆขึ้นไป รู้สึกยังงั้นหรือยังคะ ?" เขาพยักหน้า รุ่งไม่เคยมีปัญหาในเรื่องการจินตนาการ เขารู้สึกอย่างนั้นทันทีที่ยิ้มพูดจบประโยค "ตอนนี้ยิ้มจะดึงรุ่งให้หลุดออกจากปัจจุบัน ลอยออกมานอกโลกเลย เห็นโลกทั้งใบลอยอยู่ข้างหน้า" รุ่งพยักหน้า เป็นคำตอบว่า เขาได้ทำตามแล้ว "ต่อมา เราจะย้อนเวลากลับไปในอดีต รุ่งจะมองเห็นโลกหมุนกลับอย่างเร็ว เร็วกว่าล้อรถยนต์ที่กำลังวิ่งอีก เวลาย้อนกลับไปรอบละหนึ่งปี ย้อนกลับไปยี่สิบรอบ" รุ่งมองเห็นภาพตามนั้น โลกกำลังหมุนกลับไปเรื่อย ๆ "หมุนครบยี่สิบรอบแล้วหยุด ขณะนี้โลกหยุดหมุน รุ่งพาตัวเองค่อย ๆ กลับลงมาสู่โลก กลับมาที่บ้านตัวเอง ตอนนี้รุ่งอายุเท่าไหร่คะ ?" รุ่งตอบทั้ง ๆ หลับตา "หกขวบ" วิทย์นั่งฟังไปเรื่อย ๆ เขาไม่เคยใส่ใจเรื่องความสามารถเหนือธรรมชาติต่าง ๆ แต่กลับเป็นผู้หญิงคนนี้ ที่นำพาเรื่องเหล่านี้มาให้เขารับรู้ สิ่งเหล่านี้คงมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ ไม่มากก็น้อย "รุ่งพาตัวเองไปที่บ้านนะคะ" "ถึงบ้านแล้ว" รุ่งรายงานเป็นระยะ ๆ "คราวนี้ ให้รุ่งนึกถึงชีวิตประจำวันในแต่ละวัน เท่าที่จำความได้ ว่าตั้งแต่เช้าถึงเย็น รุ่งทำอะไรบ้าง เจอใครบ้าง" เขาปล่อยจิตให้ระลึกความหลัง ความหลังที่ดูเลือนลาง ค่อย ๆ กลับมาเยือนเขา ภาพเหล่านั้นชัดยิ่งขึ้นเมื่อเขาอยู่ในสมาธิที่สงบ วิทย์นั่งมองเพื่อนที่กำลังหลับตา ความรู้สึกที่เขามีต่อผู้หญิงที่กำลังบำบัดเพื่อนเขา มีทั้งอารมณ์ของความฉงน ทึ่ง และ สับสน ยิ้มพูดนำทางต่อไป "เมื่อเห็นภาพกิจวัตรประจำวันแล้ว ก็นึกถึงกิจวัตรที่ทำในแต่ละสัปดาห์ เท่าที่ระลึกได้" รุ่งพยักหน้า "คิดว่าคงจำได้แค่นี้" "ค่ะ เท่าที่ระลึกได้ ตอนนี้มีเหตุการณ์อะไรสำคัญที่ค้างคาในใจ ทั้งเรื่องผู้คน สถานที่ หรือ สิ่งของ อะไรก็ได้ นึกแบบผ่าน ๆ นะคะ ไม่ต้องลงละเอียด ถ้ามี มันจะผุดขึ้นมา ถ้าไม่มี ให้บอกว่าผ่าน" "ไม่มีครับ เท่าที่จำความได้ ไม่มีอะไรที่ติดในใจ" "ค่ะ งั้น เห็นภาพตัวเองค่อย ๆ โตขึ้น แล้วเห็นกิจวัตรประจำวันเริ่มเปลี่ยนไป รุ่งจะเห็นภาพแบบการดูดีวิดีในสปีดสามเท่าสี่เท่า ทำได้มั้ยคะ?" รุ่งยิ้มทั้ง ๆ ที่หลับตา "อือ... ทำได้ ๆ แปลกจัง เห็นเป็นแบบนั้นได้" "ค่อย ๆ เห็นภาพไปเรื่อย ๆ นะคะ ตั้งจิตไว้ว่า เมื่อไหร่ที่มี่เรื่อง หรือ เหตุการณ์ช่วงไหน ที่ติดค้างในใจ ขอให้เรื่องนั้นผุดขึ้นมา" รุ่งระลึกถึงภาพในอดีต พ่อ แม่ คุณตา คุณยาย และ ญาติ ๆ ทางฝ่ายของแม่ เพื่อนสนิทของพ่อ ชีวิตเขาวนเวียนกับผู้คนเหล่านี้ จนเมื่อถึงชั้นมัธยม เหตุการณ์ที่สะเทือนใจที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น ภาพนั้นหยุดไว้ ณ ตอนเช้าตรู่ของวันหนึ่ง หลังจากที่แม่ได้วางโทรศัพท์ แล้วเดินมาบอกเขาในห้องนอนว่า พ่อเขาได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในประเทศอังกฤษ ความติดขัดในใจที่มีต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ใช่ความเสียใจที่ได้สูญเสียพ่อไป เพราะเขามั่นใจว่าสิ่งที่เขาได้รับรู้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เหตุใดถึงไม่มีใครอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ได้ คนที่ใกล้ชิดคุณพ่อทุกคนนิ่งเฉย ไม่มีใครมีท่าทีเศร้าโศกเสียใจ เรื่องเหล่านี้ติดค้างในใจตลอดมา และ คงจะตลอดไป เด็กอายุสิบสามแล้ว คงจะฉลาดพอที่จะมองออกว่า ความผูกพันที่คนรอบข้างมีต่อพ่อของเขา มันลึกซึ้งเกินกว่าที่จะปิดกั้นอารมณ์ได้ แต่ทุกคนกลับดำเนินชีวิตต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รุ่งหายใจแรงขึ้นจนเห็นได้ชัด ยิ้มเห็นอาการของเขา เธอถามขึ้น "รุ่งคะ ระลึกถึงสิ่งที่ติดค้างได้แล้วเหรอคะ ?" "ครับ เรื่องพ่อ ข่าวเรื่องพ่อเครื่องบินตก" "เหรอคะ ? รุ่งยังอาลัยอาวรณ์ ทำใจไม่ได้ที่พ่อจากไปใช่มั้ยคะ ?" "ไม่ได้อาลัยอาวรณ์ เรื่องที่ติดค้างนี้คงรอเวลาที่จะแก้ไขได้ คงอีกไม่นาน" เพียงแค่นึกถึงสิ่งที่คุณย่าให้สัญญากับเขา ทำให้เขามีกำลังใจที่จะอดทนต่อไป เมื่อวันนั้นมาถึง เรื่องที่ติดค้างคาใจมาสิบกว่าปีก็คงจะได้ถูกถอนทั้งราก และ โคน ยิ้มพยักหน้า "งั้น ข้ามเหตุการณ์นั้นนะคะ เร่งสปีดเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เมื่อรุ่งโตขึ้นมากกว่านั้น ระลึกถึงอะไรได้อีก ?" <กลับหน้าแรก... อ่านหน้าต่อไป > |
|||||||