ตอน 49 หน้า 2/3

ไป้ทัว ! ช่วยเขาด้วย

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

ทอมหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง สายตามองไปยังแผ่นป้ายไม้บนพื้นประตูที่ถูกสลักเป็นตัวอักษร...

...อาร์เอ็มเอ...

.. ชื่อเหมือนกับกล่องที่รุ่งเล่าให้ฟัง

เธอเคาะประตูห้องเบา ๆ แล้วเปิดประตูกลับเข้าไป

เหล่าซือหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาว นั่งอยู่ที่โซฟา

ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนจากเสื้อกุยเฮงที่ดูหลวมโครก มาเป็นเสื้อยืดที่กระชับขึ้น แต่ก็ไม่อาจซ่อนสรีระของเขาที่ดูผ่ายผอมเหมือนกับคนติดยาเสพติดไว้ได้

แอนดี้ถามขึ้น

"รุ่งเป็นยังไงบ้าง ญา ?"

หงส์ถือแก้วใส่น้ำเย็นในมือ ยื่นมาให้ทอมพร้อมกับรอยยิ้ม

"พี่ทอม ดื่มน้ำก่อนสิคะ"

ทอมหัวเราะ เธอรับแก้วน้ำจากมือหงส์

"เพราะไอ้รุ่งคนเดียว พี่แอนดี้เรียกญาว่าญา แต่น้องหงส์เรียกว่าพี่ทอม กลายเป็นสองชื่อในคนเดียว"

เธอยกแก้วน้ำขึ้นจิบ

แอนดี้นึกถึงรุ่งแล้วหัวเราะเบา ๆ นิสัยมนุษย์สามารถติดตัวกันข้ามภพ ข้ามชาติกันได้จริงหรือนี่ ?

"ทำไมเค้าถึงเรียกญาว่าทอมครับ ? ตอนรุ่งบอกว่าจะฝากของให้เพื่อนชื่อทอม ผมไม่คิดว่าผู้หญิงที่ชื่อทอมจะมีบุคลิกแบบญานี้"

ทอมยิ้ม เธอชาชินมานานแล้ว กับการเล่าเรื่องความเป็นมาของชื่อเล่นว่า 'ทอม' ที่เพื่อนบังเกิดเกล้าเป็นคนตั้งให้

"สมัยตอนเรียนปีหนึ่งที่มหาลัย' ญาซอยผมสั้น รุ่งเค้าก็เลยเรียกญาว่าทอม แล้วเค้าก็ไปบอกเพื่อน ๆ คนอื่นว่า ญาชื่อทอม เพื่อน ๆ ก็เรียกว่าทอมกันหมด กว่าจะรู้ตัว ก็เปลี่ยนไม่ทันแล้ว เพราะเพื่อน ๆ ชินกับชื่อทอมไปแล้ว"

แอนดี้อมยิ้ม ความรู้สึกสดชื่นที่กำลังได้รับ มาจากการที่ได้เห็นสาวทั้งสองคนนี้อยู่พร้อมหน้ากัน ขาดก็เพียงแค่รุ่ง

"ไว้ถ้ามีโอกาส ผมจะเล่าให้ฟังเรื่องแม่หญิงคนหนึ่งที่มีสี่ชื่อ"

ทอมพยักหน้ารับรู้ เธอเริ่มเข้าเรื่อง

"พี่แอนดี้คะ ถ้าญาจะขออนุญาตตรวจอาการของพี่แอนดี้อีกครั้งได้มั้ยคะ ? รุ่งเค้าอยากให้ญาลองประเมินสุขภาพให้ด้วยลูกดิ่ง"

แอนดี้เหลือบมองใบหน้าน้องสาว นัยน์ตาของน้องสาวก็จ้องมาที่เขา

หงส์รู้สึกประหลาดใจซ้ำอีกครั้ง เหตุการณ์นี้กำลังย้ำว่า หญิงที่ชื่อนวล จะมาช่วยเยียวยาอาการ ตามคำบอกเล่าของพี่ชายทุกประการ

นวลคนนี้ กำลังเอ่ยปากขอตรวจสุขภาพให้กับพี่ชาย โดยที่พี่ชายไม่ได้เป็นฝ่ายร้องขอก่อน

หงส์พูดขึ้นทันที

"ได้ค่ะ เชิญพี่ทอมนั่งบนโซฟานี้"

หงส์รีบผลักโซฟาอีกตัวเข้ามาใกล้กับโซฟาของพี่ชาย

ทอมหัวเราะ

"ต้องให้น้องสาวเป็นคนอนุญาตเหรอคะ ?"

เธอกระเซ้าแอนดี้ ที่ไม่ปริปากเอื้อนเอ่ยคำใด นอกจากอมยิ้ม

ทอมทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เธอขอให้หงส์จัดการเตรียมปากกา และ กระดาษ มาเป็นลูกมือเธอ เพื่อช่วยจดรายละเอียด

หงส์นั่งบนเก้าอี้ติดกับทอม สมุดวางอยู่บนหน้าตัก มือถือปากกาพร้อมจด

หมอเถื่อนจ่อลูกดิ่งบนฝ่ามือซ้ายของคนไข้ การประเมินสุขภาพด้วยลูกดิ่งเพนดูลั่มของทอมเริ่มขึ้น

คำถามแรกที่ถูกยิงออกไปคือ

"ฉันช่วยชายผู้นี้ได้ ใช่หรือไม่ ?"

ลูกดิ่งหมุนเป็นวงกลมทันที แทนความหมายว่า 'ใช่'

เธอรู้สึกแปลกใจ เพราะคำตอบที่ได้ แตกต่างจากครั้งแรกที่เธอเคยประเมินให้เขา

ทอมถามคำถามทวนอีกครั้ง "หากฉันช่วยชายผู้นี้ได้ ขอให้ลูกดิ่งนิ่ง"

ลูกดิ่งนิ่งสนิท ตามที่ขอ

ทอมพยักหน้าพอใจ

"ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร คอยขัดขวางการตรวจครั้งนี้ ใช่ หรือ ไม่ ?"

ลูกดิ่งแกว่งเป็นวงกลม... ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรใด ๆ ขัดขวาง

แต่ทำไม รุ่งถึงถูกเจ้ากรรมนายเวรเล่นงาน ? เธอเอียงคอ และ ขมวดคิ้วกับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ

แต่นั่นคงไม่ใช่ประเด็นสำหรับตอนนี้ เมื่อไม่มีสิ่งใดขัดขวางเธอ เธอก็สามารถเจาะลึกในสาเหตุของโรคได้

ทอมเริ่มพูดให้หงส์จดตาม

"มีพยาธิตัวแบน ต้องใช้นิโคลซาไมด์ จำนวน 15 แผง"

"ล้ำไส้รั่ว เชื้อราในลำไส้ในระดับสามสิบวัน"

หงส์พยักหน้า

"ไวรัสไขกระดูกหลัง ในระดับสิบสี่วัน น้องหงส์จดตามนี้ไปก่อนนะคะ"

แอนดี้เหลือบมองใบหน้าที่จริงจังของสาวที่กำลังประเมินสุขภาพให้กับเขา

ถ้าเธอเกล้าผมขึ้น เธอจะมีส่วนคล้ายกับนวลอย่างมาก โดยเฉพาะใบหน้ารูปไข่ ผิวของเธอก็ดูนวลงามตามธรรมชาติโดยไม่ต้องแต่งเติม

"เลือดเลี้ยงหัวใจหกสิบเปอร์เซนต์ ขาดโปตัสเซียม สะเก็ดเลือดที่สมองส่วนหลัง โยเกิร์ตน้ำมันมะรุมสิบวัน"

ทอมพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

"อือ... เป็นหลายโรคเลยนะนี่ !"

ทอมยิงคำถามไปเรื่อย ๆ ตามแบบแผนที่ได้ฝึกฝนมา แทบจะไม่มีโรคไหนเลยที่ชายคนนี้ไม่เป็น

ด้วยต้นเหตุของโรคที่มากมายขนาดนี้ เธอจำเป็นต้องจัดเรียงลำดับความสำคัญ ไม่สามารถบำบัดทุกอย่างได้พร้อมกัน

ทอมยื่นมือขอกระดาษจากหงส์มาดู แล้วใช้ปากกาขีดวงกลม

เธอจรดปากกาอยู่ที่คำว่า 'เชื้อรา' นี่ควรเป็นสิ่งแรกที่เธอจะจัดการมันก่อน เพราะระดับเชื้อราที่พบนั้นมากจนทำให้ระบบดูดซึมเสีย แต่หากจะต้องจัดการเชื้อรา เธอจำเป็นต้องห้ามคนป่วยทานของหวานทุกชนิด และ โปรตีนจากสัตว์

นี่ยังไม่นับไวรัสในไขกระดูก ซึ่งปกติแล้ว บำบัดด้วยเม็ดมะรุมได้ แต่ เม็ดมะรุมมีความหวานมาก จะทำให้เชื้อรากำเริบได้

หากผู้ป่วยงดโปรตีน และ ของหวาน เพื่อควบคุมเชื้อรา ร่างกายก็จะได้รับพลังงานไม่พอที่จะต่อสู้กับไวรัสในไขกระดูก

เธอเลื่อนปากกาไปจรดที่คำว่า 'ไวรัส' แทน

หากเธอเลือกที่จะจัดการไวรัสก่อน ด้วยการให้โด๊ปเนื้อสัตว์ และ ของหวานเพื่อสร้างพลังงาน ภายในไม่กี่วัน เชื้อราก็จะเติบโตเป็นทวีคูณแน่นอน

สีหน้าทอมบอกถึงความกังวล เธอไม่เคยรับคนไข้ที่ตรวจเจอสาเหตุของโรคมากมายขนาดนี้มาก่อน หมอเถื่อนสาว เริ่มมีความลังเลว่าตนเองควรจะแนะนำวิธีการเยียวยาแบบไหนที่จะเหมาะสมที่สุด

ผู้ช่วยสาวจ้องมองหมอเถื่อน กำลังรอคำอธิบาย

เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เริ่มผุดมาจากลำคอของทอม

แอนดี้สังเกตุสีหน้าของหมอเถื่อนสาว สีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล และ ความไม่มั่นใจ

เขาพูดขึ้นเป็นภาษาจีนกลาง

"ซีฟ่ง เธอออกไปเดินเล่นข้างนอกสักพัก อีกสิบนาทีค่อยกลับเข้ามา"

หงส์พยักหน้ารับโดยไม่มีคำถาม

"ได้ พี่ใหญ่"

ผู้ช่วยจำเป็นหันมาพูดกับหมอเถื่อน

"พี่ทอม หงส์ขอตัวไปทำธุระที่รถก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาช่วยจดค่ะ"

"จ้ะ ตามสบาย" ทอมผงกหัว

หงส์เดินออกไป ค่อย ๆ ปิดประตู ทิ้งหมอเถื่อนสาวไว้กับพี่ชายตามลำพัง

ทอมกำลังนึกถึงความช่วยเหลือจากนักเพนดูลั่มคนอื่น ... อาจารย์นา นักเพนดูลั่มรุ่นพี่ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านประเมินสุขภาพ และ การบำบัดรักษาอาการที่ซับซ้อน การปรึกษาเธอ คงเป็นทางเลือกทางเดียวที่มีอยู่ ณ ขณะนี้

แอนดี้พูดขึ้น

"ญา... ขอผมขัดจังหวะหน่อยได้มั้ย ?"

"ค่ะ พี่แอนดี้"

"งั้นวางสมุดกับปากกาก่อนได้มั้ย ? ลืมเรื่องการวิเคราะห์ผลการตรวจโรคซักพักก่อน"

"ค่ะ" เธอวางสมุดกับปากกาลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ

"ผมมีเรื่องเล่า ถือว่าเป็นนิทานคลายเครียดแล้วกัน จะได้พักสมองไว้ชั่วคราวก่อน ฟังนิทานเพลิน ๆ พอได้ผ่อนคลายแล้วค่อยกลับมาพูดเรื่องโรคต่อ"

ทอมเริ่มยิ้มออกมาได้

"ค่ะ ได้ค่ะ"

คนไข้เริ่มเล่า

"เรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่หญิงอำไพ เธอเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา สมัยนั้นขอมปกครองเมืองที่เธออยู่ ขอมมีคำสั่งห้ามคนในเมืองเรียนวิชาอาคม แต่ห้ามเธอไม่ได้ เธอแอบเรียนวิชาอาคมอย่างลับ ๆ จนสามารถร่ายมนต์ทำให้ทหารขอมหลับคาป้อมยามได้ เธอสามารถสะกดจิตเสือสมิงได้ เธอสามารถเสกอาคมให้ธนูมีฤทธิ์เพื่อยิงให้เข้าหนังของเสือสมิงได้ ญารู้จักเสือสมิงใช่มั้ย ?"

ทอมพยักหน้า

"ค่ะ เสือที่แปลงร่างเป็นคนได้"

"หรือ คนที่แปลงร่างเป็นเสือได้ คือ ความหมายเดียวกัน แม่หญิงอำไพมีใจรักในวิชาอาคมมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ไม่มีใครสนับสนุน เธอก็แอบฝึกวิชาเงียบ ๆ คนเดียว โดยอ่านจากตำรา แม่หญิงอำไพ มีเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เป็นเพื่อนรักมาตั้งแต่จำความได้ ชื่อว่า ชื้น ชื้นเป็นเพื่อนที่แก่นคล้ายผู้ชาย ชื้นจะเป็นเพื่อนที่ปกป้องเธอเสมอเวลาที่มีเรื่องเดือดร้อน หรือ มีภัย ชื้นเป็นคนที่ตายแทนแม่หญิงอำไพได้ด้วยความเต็มใจ ชื้นเป็นเพื่อนที่รู้ใจ และ เป็นคนที่แม่หญิงอำไพไว้ใจได้มากที่สุด"

ทอมพยักหน้า เพื่อแสดงให้ผู้เล่ารู้ว่า เธอกำลังตั้งใจฟัง

"วันหนึ่ง เจ้าชายของเมืองเธอ ได้เล่าให้เธอฟังว่า เธอคือคนที่ถูกทำนายว่า จะเป็นผู้ริเริ่มก่อสงครามปลดแอก เธอจะเป็นผู้นำในการสอนวิชาอาคมให้แก่ผู้หญิงในเมือง เธอจะเป็นขวัญกำลังใจให้กับคนทั้งเมือง เธอที่แท้แล้ว เปรียบเสมือนนางฟ้าที่เบื้องบนส่งลงมาช่วยปลดปล่อยชาวเมืองจากการเป็นทาสของขอม"

ทอมพยักหน้ารับฟัง

"แต่แม่หญิงอำไพถูกเลี้ยงดูมาอย่างคนธรรมดา พ่อแม่ของเธอก็คือคนธรรมดา เธอใช้ชีวิตแบบคนธรรมดามาตลอด จู่ ๆ เจ้าชายมาแต่งตั้งให้มีศักดิ์ศรีเสมือนกับองค์หญิง แล้วต้องมารับภาระมากมายที่มีชาวเมืองทั้งหลายให้ความคาดหวังว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนลุกฮือต่อสู้กับขอม เธอจะเป็นผู้นำในการถ่ายทอดวิชาอาคมแก่คนในเมือง เป็นขวัญและกำลังใจตามคำทำนาย ภาระนี้มันหนักกว่าที่เธอจะรับได้ แม่หญิงอำไพเกิดความเครียด จนคิดที่จะหนีออกจากเมือง

ในคืนวันที่คิดจะหนี แม่หญิงอำไพได้ไปบอกลาชื้น เพื่อนที่เธอรักที่สุด เธอเล่าให้ฟังถึงความหนักอก ความกังวลกับภาระที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เธอจะทำได้ หากเธอทำพลาด ชาวเมืองทั้งหลายจะต้องผิดหวัง และ เธอก็จะกลายเป็นคนที่ทำลายความหวังของคนทั้งเมือง ชื้นก็รับฟังด้วยความเข้าใจ ชื้นรู้จักในตัวแม่หญิงอำไพดีว่า เธอมีความสามารถทำอะไรได้บ้าง ชื้นจึงพูดให้แง่คิดกับแม่หญิงอำไพ เพียงคำพูดไม่กี่ประโยค แล้วบอกให้แม่หญิงกลับไปคิดหนึ่งคืน หากยังต้องการจะหนี เธอก็จะขอติดตาม ช่วยให้แม่หญิงหนีได้อย่างปลอดภัย

แม่หญิงอำไพกลับเอาคำแนะนำของเพื่อนไปคิดทั้งคืน รุ่งเช้า เธอขอเข้าเฝ้าเจ้าเมือง แล้วให้คำมั่นว่าเธอจะไม่ทำให้ชาวเมืองต้องผิดหวัง"

ทอมพยักหน้าอีกครั้ง สีหน้าของเธอแสดงออกว่าให้ความสนใจในเรื่องที่เขาเล่าเป็นอย่างมาก

"แล้วแม่หญิงก็ทำได้เหรอคะ ? สุดท้ายเมืองของเธอก็เป็นอิสระ ?"

"ใช่ สุดท้าย ชาวเมืองของเธอ ก็ไล่ขอมออกไปได้หมด โดยเธอเป็นชนวนเริ่มต้น ประเทศนี้ ก็จึงเป็นของคนไทยจนบัดนี้ ไม่ได้เป็นของขอม"

"หือ..! นี่คือประวัติศาสตร์ของไทยเหรอคะ ?"

"ถือว่าเป็นตำนานดีกว่า เพราะไม่มีแหล่งอ้างอิง เป็นเรื่องเล่าที่เล่าต่อ ๆ กันมา"

ทอมพยักหน้า

"ค่ะ คำแนะนำของเพื่อนคงทำให้แม่หญิงเรียกความมั่นใจในตนเองกลับมา จนถึงขนาดกู้ชาติได้ในที่สุด"

"ใช่ คำแนะนำของเพื่อน แต่คงต้องเป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้ รู้ใจกัน ชีวิตคนคนนึง จะหาเพื่อนแบบนี้ได้สักกี่คน แต่เมื่อรู้จักกันแล้ว เพียงคนเดียวก็เพียงพอสำหรับกำลังใจทั้งชีวิต"

ประโยคสุดท้ายเป็นที่ประทับใจของผู้ฟัง ผู้ชายคนนี้ เล่าเรื่องได้เก่ง เขาใช้ภาษาไทยได้อย่างเยี่ยมยอดจริง ๆ

แอนดี้ขยับตัวลุกขึ้น

"ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ"

คนป่วยค่อย ๆ เดินตรงไปยังประตู

ทอมกำลังครุ่นคิด แอนดี้เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังทำไม ? เขากำลังจะบอกอะไรกับเธอ ?

แม่หญิงอำไพ กับ เพื่อนที่รู้ใจ !

ทอมดึงความคิดกลับมาที่ผลตรวจสุขภาพของแอนดี้ เธอหยิบสมุดขึ้นมาอ่านอีกครั้ง สาเหตุของโรคมากมายเหลือเกิน มิน่า ครั้งที่รุ่งเล่าให้ฟัง เขาถึงได้เปรย ๆ ว่า มีโรคอะไรกำลังฮิต ตรวจเจอหมด

อาการที่ซับซ้อนวุ่นวายขนาดนี้ หากโทรหาอาจารย์นาได้ น่าจะเป็นการดีที่สุด

ทอมกดโทรศัพท์มือถือหาอาจารย์นา แต่ไม่สามารถติดต่อได้

เธอตัดสินใจ โทรหาเพื่อนอีกครั้ง

รุ่งรับสาย

ทอมพูดขึ้นทันที

"รุ่ง ตรวจให้เหล่าซือแล้ว เจอเพียบเลย ทั้งไวรัสไขกระดูก เชื้อรา สะเก็ดเลือด พยาธิ ไม่รู้จะเอาอะไรก่อนดี นี่ว่าจะปรึกษาพี่นา แต่พี่นาไม่เปิดเครื่อง"

"อือ... "

เพื่อนไม่พูดอะไรอื่นอีก หรือว่า อาการของเขาอาจทำให้เขาเพลียมาก

"ใกล้ถึงหรือยังรุ่ง ?"

เสียงรุ่งตอบมาด้วยเสียงอ่อย ๆ

"ใกล้แล้ว"

"ถ้าแกพูดไม่ไหว ก็ฟังเอาแล้วกัน ชั้นไม่รู้ว่าถ้าอธิบายวิธีบำบัดอาการแล้ว เหล่าซือจะเชื่อชั้นหรือเปล่า ? เพราะมันมีหลายสาเหตุ อาการอาจจะไม่ดีขึ้นภายในสองสามวัน คงต้องอาศัยเวลา แล้วเราไม่ใช่หมอ เค้าจะมาเสี่ยงกับเราทำไม ?"

รุ่งหายใจแรง เขาพูดช้า ๆ ด้วยเสียงที่แผ่ว

"ทอม อาการที่แกตรวจเจอ ถ้าไปหาหมอที่โรงพยาบาล แกว่าหมอจะหาต้นเหตุเจอแบบแกหรือเปล่า ?"

"ไม่มีทาง แกก็รู้อยู่ว่าหมอฝรั่งรักษาได้แต่ปลายเหตุ ตรวจเลือดก็สาวไปหาต้นตอไม่เจอ อยู่ดี ๆ หมอคงไม่สั่งให้สแกนหาไวรัสในไขกระดูกแน่ ๆ ถ้าถึงมือหมอ เค้าจับโด๊ปอาหารพวกโปรตีน เหล่าซืออาจจะไตวายเพราะเชื้อราได้"

"อือ... มันจะมีใครอีกมั้ย ที่หาต้นเหตุของอาการเหล่าซือ ได้ดีกว่าแก ?"

ทอมเงียบ คงเป็นที่น้ำเสียงเอื่อย ๆ ปราศจากซึ่งความทะเล้นเหมือนปกติของเขา ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าเพื่อนกำลังฉุดให้เธอหยุดคิด

รุ่งพูดต่อ

"ความกังวล ไม่ได้เกิดจากความกลัวว่าจะทำงานไม่สำเร็จ ส่วนใหญ่เรากังวลเพราะเราไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังทำนั้น เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือไม่ ก็ขอเพียงความมั่นใจว่า เรากำลังเดินอยู่บนทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ไม่มีทางไหนอีกแล้วที่เหมาะสมกว่านี้ เท่านี้ ความกังวลก็จะหมดไป เราจะทำอย่างเต็มที่ งานจะสำเร็จ ไม่สำเร็จ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล เพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าที่เราเลือกแล้ว"

น้ำเสียงที่แผ่วเบาเหมือนกับคนป่วยหนักกำลังจะสั่งเสีย ทำให้ทอมคิดตาม

รุ่งถามขึ้นอีกครั้ง

"ทอม แกคิดว่าจะมีใครอีกมั้ย ที่หาต้นเหตุของอาการเหล่าซือ ได้ดีกว่าแก ?"

เพื่อนถามย้ำด้วยความหมายที่มีน้ำหนักที่รุนแรงกว่าน้ำเสียงของเขา

"อือ... เข้าใจแล้ว"

"ฝากเหล่าซือด้วยนะ ไป้ทัวหนี่ !"

************************************************************************************************************

อ่านหน้า 1 < 2, > 3
นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่