ตอน 4 หน้า 2

4.5 G มึนไปเลย !

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

ไฟสปอตไล๊ท์สนามหลายสิบดวง ถูกเปิดส่องจากเสามาที่เจ้า 'ฟลอร์เลส-โคสเตอร์'

.... เครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะแบบใหม่จาก Bolliger & Mabillard ที่ตัวรถถูกดีไซน์ให้ไร้ตัวถัง เพื่อเพิ่มความหวาดเสียวให้กับผู้นั่งที่ร่อนอยู่ในอากาศ ผู้นั่งสามารถปล่อยเท้าแกว่งอย่างสนุกสนานยามเมื่อตัวรถไฟถูกเหวี่ยงด้วยความเร็ว

การทดสอบ เทสไรด์ ครั้งที่ 45 กำลังจะเริ่มขึ้น

คาร์ลเป็นวิศวกรวัยกลางคน ชาวสวิตเซอร์แลนด์ผมบลอนด์ จาก บริษัท Bolliger & Mabillard ที่ถูกส่งมาติดตั้งเครื่องเล่นใหม่นี้ที่บางกอกซีดาร์ฟันปาร์ค เขายืนประจำอยู่ที่ห้องควบคุมกำลังกดปุ่มให้เครื่องเล่นเริ่มออกตัว

พนักงานอาสาสมัครยี่สิบสี่คนเริ่มส่งเสียงเฮฮา เมื่อตัวรถไฟเริ่มขยับไปบนราง

รุ่งกำลังยืนอยู่ข้างล่าง กับ กลุ่มพนักงานอื่น ๆ ที่เพิ่งลงจากการเทสไรด์ครั้งที่ 44 พลางปรบมือ โบกมือ โบกไม้ให้กับคณะผู้ทดสอบเทสไรด์ครั้งที่ 45 ต่างฝ่ายต่างโบกมือไปมาด้วยความสนุกสนาน

พนักงานบางคนกำลังถ่ายวีดิโอด้วยโทรศัพท์มือถือ

รถไฟถูกขับเคลื่อนอย่างช้า ๆ ขึ้นไปที่ความสูง 150 ฟุต (45 เมตร)

รุ่งยืนมองความสูงของรถไฟที่จุดสูงสุด แล้วอ้าปากหวอ เสียวสันหลังวาบ อาการกลัวความสูงก็วิ่งเข้าจับกระโหลกศรีษะด้วยความเย็นเฉียบ

เสียงนุ่ม ๆ สำเนียงอเมริกันของแคลร์ กำลังบรรยายเป็นภาษาอังกฤษออกลำโพงว่า ความเร็วสูงสุดของเครื่องเล่นตัวนี้ คือ 65 ไมล์ หรือ 104 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

รถไฟกำลังถูกปล่อยให้ไหลลงมาจากจุดสูงสุด เท้าของคนนั่งแกว่งไปมา

ขบวนรถวิ่งอย่างเร็วจนถึงจุดที่ต่ำที่สุด แล้วตีวงม้วนขึ้นบิดเป็นเกลียวตีลังกา

รุ่งหัวเราะหึ ๆ กับตัวเอง แล้วพูดเปรย ๆ

"ชาติก่อนทำกรรมอะไรไว้วะ ชาตินี้ถึงต้องมาถูกทรมานแบบนี้ ?"

เวลาสามนาทีกว่า รถไฟก็เคลื่อนกลับเข้าที่ชานชาลา

คาร์ลกดปุ่มเปิดคานล็อคที่นั่ง เพื่อปล่อยให้ผู้เล่นเครื่องลงจากรถไฟได้

เสียงสรวลเสเฮฮาของคณะอาสาสมัครดังอื้ออึงไปทั่ว บางคนเดินไปขอจับมือกับคาร์ล

แคลร์ อยู่ในชุดเสื้อยืดซีดาร์ฟันปาร์คสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ปล่อยผมยาวประบ่า ยืนยกมือไหว้ขอบคุณอาสาสมัครทุกคนอยู่ที่ทางลงชานชาลา

"คอบ คุณ ค่า" ภาษาไทยสำเนียงฝรั่งของเธอฟังดูน่ารักน่าชัง

อาสาสมัครคนสุดท้าย ลงจากชานชาลาแล้ว

แคลร์สังเกตุเห็นรุ่งยืนอยู่ข้างล่าง เธอกวักมือ แล้วส่งภาษาอังกฤษทักทาย

"ไฮ... รุ่ง ! ขึ้นมาสิ !"

รุ่งพยักหน้า แล้วเดินขึ้นไปบนชานชาลา

"ไฮ คาร์ล ! วันนี้ทุกอย่างเรียบร้อยมั้ย ?" เขาร้องทักวิศวกรหนุ่มในห้องควบคุม

คาร์ลโบกมือกลับ

"เรียบร้อยดี อยากจะขึ้น เอ็กซคลูซีฟไรด์ มั้ย รุ่ง ?"

รุ่งถามกลับ

"เอ็กซคลูซีฟไรด์ คือ อะไร ?"

คาร์ลตะโกนกลับมา

"นายขึ้นไปคนเดียวไง"

รุ่งหัวเราะแล้วสั่นหัว

"โอ.. ! ไม่ดีกว่า ขึ้นเป็นคณะ ฉันยังไม่เอาเลย"

แคลร์ถามขึ้น

"อะไรพาเธอมาที่นี่วันนี้ ? เจ็ดโมงเย็นแล้ว เธอยังไม่กลับบ้านเหรอ ?"

รอยยิ้มตอนค่ำของเธอยังดูสดใส

"มาหาเธอไง แคลร์ ! ฉันอยากชวนเธอไปเที่ยว"

รุ่งพูดกับเธอตรง ๆ

เขาคุ้นเคยกับการมีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติมานานแล้ว เขารู้ดีว่า การพูดตรง ๆ กับสาวต่างชาติเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ไม่ซับซ้อนเหมือนกับการพูดกับสาวไทยทั่วไป

แคลร์เลิกคิ้วขึ้น มีสีหน้าประหลาดใจ แต่ก็มีรอยยิ้ม

"ชวนฉันเหรอ ?"

รุ่งพยักหน้า

"ใช่ เธอนั่นแหละ !"

"เธอวางแผนจะไปไหนล่ะ ? เล่ามาสิ"

แคลร์ถามพลาง มือทั้งสองก็กำลังจดตัวเลขสถิติการเทสไรด์ ลงในกระดาษรายงาน

"ก็คงจะพาเธอไปกินข้าวกลางวันที่ทิมบัคตู แล้วไปช็อปปิ้งที่ไคโร มื้อเย็นมากินเกี๊ยวที่ฮ่องกง"

เธอหัวเราะทันที ที่ฟังจบ

"ฟังดูดีนะ เฮอะ ๆ"

เธอหันไปตะโกนคุยกับคาร์ล

"เฮ้...คาร์ล ! ผู้นั่งยี่สิบสี่คน สามนาที สามสิบห้าวินาที ทำไมมันเกินมายี่สิบวินาที ?"

คาร์ลยกมือ ไม่เห็นด้วย

"โน โน โน ! มันคือ สามนาที สิบห้าวินาที เป๊ะ ! เธอจับเวลาตั้งต้นผิด ต้องมาร์คตั้งแต่ฉันกดปุ่ม ไม่ใช่มาร์คตั้งแต่สัญญาณพร้อมออโต"

แคลร์หัวเราะ

"อะไรกัน ? มาร์คตั้งแต่สัญญาณพร้อมดังขึ้นต่างหาก เพราะที่มิชิแกนเราเริ่มจับเวลากันตอนนี้"

คาร์ลยังสั่นหัว

"ไม่ใช่ มาตรฐานของบอลลิเจอร์ ฯ จะเริ่มจับเวลาจากการกดปุ่มสตาร์ทที่ห้องคอนโทรล"

"แล้วจะเอายังไงดี ?"

คาร์ลชี้ไปที่ตัวรถไฟ

"ไม่เป็นไร วิ่งรถเปล่าอีกหนึ่งรอบ"

แคลร์หันมามองหน้ารุ่ง เธอนึกขึ้นได้ ตะโกนบอกคาร์ล

"เฮ้..! เดี๋ยว ! เดี๋ยวฉันขึ้นไปนั่ง"

เธอรีบเดินไปวางเอกสารในมือที่เก้าอี้คนนั่งรอ แล้วปลดวิทยุสื่อสารจากเข็มขัดวางบนเก้าอี้ด้วย

สาวอินเดียนเดินกลับมาคว้าข้อมือรุ่ง

"ไป ไปนั่งด้วยกัน"

รุ่งกลับหยุดยืนอยู่ที่เดิม แล้วสั่นหัว

"ไม่ ไม่ ! เธอขึ้นไปเถอะ ฉันรอตรงนี้ดีกว่า"

แคลร์หัวเราะ

"อะไร ? เธอกลัวเหรอ ? ไปสิ ไปด้วยกันเถอะ"

เธอลากแขนรุ่งเดินตรงไปที่ขบวนรถไฟ

รุ่งเดินตามอย่างช้า ๆ พลางปฏิเสธ

"ไม่ ๆๆ เธอขึ้นไปเถอะ ฉันไม่ชอบเล่นรถไฟเหาะ"

"เธอจะชวนฉันไปเดทไม่ใช่เหรอ ? เธอต้องตามใจฉันสิ ให้เกียรติฉัน นี่เป็นสินค้าของฉัน เธอควรจะทดลองเล่นเครื่องเล่นตัวนี้"

รุ่งหัวเราะ

"งั้น ไม่เป็นไร ! ฉันไม่ชวนเธอเที่ยวแล้ว เธอไม่ต้องเที่ยวกับฉันก็ได้ แต่ยังไง ฉันก็ไม่นั่งรถไฟเหาะ"

สาวเชื้ออินเดียลากหนุ่มขี้กลัวมาถึงตัวรถไฟที่นั่งแถวสุดท้าย เธอมองที่ตัวรถไฟ แล้วมองหน้ารุ่ง

"ไม่เป็นไร ! ไม่เล่นก็ไม่เล่น ถ้าอย่างนั้น แค่นั่งลองดูก็พอ อยากให้เธอนั่งลงบนที่นั่ง แล้วลองดูว่ามันรู้สึกยังไงกับที่นั่งที่เปลือยเปล่า ไม่มีตัวถังแบบนี้"

สาวนัยน์ตาคม ชี้มือไปที่เก้าอี้รถไฟเหาะ ตัวเธอเอง ก็เดินแทรกตัวลงนั่งบนเก้าอี้แถวสุดท้ายของขบวน แล้วผายมือให้รุ่งนั่งลงที่ที่นั่งตัวติดกัน

รุ่งพยักหน้า แล้วก้าวขึ้นนั่งบนเก้าอี้ด้านซ้ายติดกับแคลร์

สาวอินเดียนแกว่งเท้าไปมา เธอหยิบยางรัดผมขึ้นมา อีกมือหนึ่งรวบผมที่ยาวประบ่าไปไว้ด้านหลัง แล้วรัดด้วยยาง

"ลองแกว่งเท้าดูสิ โล่งดีจัง !"

รุ่งพยักหน้า เขาลองแกว่งเท้าไปมา

แคลร์ยกมือดึงคานเหล็กล็อคที่นั่งเหนือหัวของรุ่ง ลงมาพาดที่เหนือตัก อยู่ในตำแหน่งล็อคที่นั่ง

คานเป็นรูปตัวยูช่วยล็อคหว่างขา และ หัวไหล่ของผู้นั่งให้อยู่ติดกับพนัก

"เธอลองจับที่บาร์รอบ ๆ นี่ เห็นไหมว่า มันหุ้มด้วยยางนิ่ม ๆ ? ลองโยกดูสิ ดูมั่นคงดีมั้ย ?"

รุ่งลองทำตาม รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของวัสดุอุปกรณ์ของคานเหล็กล็อคที่นั่ง

แคลร์ดึงคานเหล็กล็อคที่นั่งของเธอเอง ลงมาเข้าตำแหน่งล็อคเช่นกัน

เธอหันหน้าไปที่ห้องควบคุม แล้วยกนิ้วโป้งให้กับวิศวกรควบคุม

คารล์กดปุ่มล็อคที่นั่งทันที

'แชะ !' เสียงคานล็อคอัตโนมัติดังขึ้นจากเก้าอี้ของ รุ่ง และ แคลร์

ไฟ 'Ready' สว่างขึ้นที่ป้ายเหนือชานชาลา แคลร์ยกนาฬิกาจับเวลาขึ้นกด

รุ่งยังไม่เอะใจ

สาวอินเดียนอธิบายต่อ

"ฟลอร์เลสโคสเตอร์รุ่นนี้ ออกตัวนิ่มด้วยนะ ไม่กระชาก จะค่อย ๆ ลากเราขึ้นไปบนสุดอย่างช้า ๆ"

ขบวนรถเริ่มเคลื่อนที่ออกจากชานชาลาอย่างช้า ๆ

รุ่งตกใจ เมื่อรู้ตัวว่า ขบวนรถเริ่มเคลื่อนที่

"เฮ้ ! แคลร์ ! เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมรถถึงขยับได้ ?"

"ยัง ! ฉันยังอธิบายไม่หมดเลย คราวนี้จะอธิบายให้เธอฟังถึง สี่จุดห้าจี"

รุ่งพยามดันคานเหล็กขึ้น แต่ไม่ว่าจะกระชากอย่างไร คานเหล็กก็ไม่ขยับเขยื้อน

"แคลร์ ! ไอ้นี่มันเปิดยังไงล่ะ ? มีปุ่มปลดด้วยมือหรือเปล่า ?"

สาวอินเดียนหัวเราะ

"ตลกน่า ! ถ้าเก้าอี้โรลเลอร์โคสเตอร์ มีปุ่มปลดคานล็อคด้วยมือ คงได้ยินข่าวคนตายกันทุกรอบแน่ ๆ"

รุ่งมองหน้าแคลร์ เขาอุทานเป็นภาษาไทย

"ชิบหายล่ะดิ กู !"

"อย่าตื่นเต้นไปเลย รุ่ง ! ฉันมีข่าวดีจะบอกอีก เธอจะลืมความกังวลทั้งหมดที่มี ถ้าเธอรู้จักกับสี่จุดห้าจี มันจะทำให้เธอลืมเรื่องที่เธอกังวลได้ตลอดวันนี้เลยด้วยซ้ำ"

ขบวนรถไฟเคลื่อนพ้นชานชาลาแล้ว กำลังไต่ระดับขึ้นสู่ด้านบน

รุ่งเริ่มมองเห็นทิวทัศน์ด้านล่าง และ สัมผัสถึงความสูงของขบวนรถไฟ ที่กำลังไต่ระดับ สูงขึ้น สูงขึ้น

เขาพูดด้วยเสียงที่เบาลง

"แคลร์ ! สี่จุดห้าจี คืออะไร ? ถ้าฉันรู้แล้วมันจะช่วยฉันได้ตอนนี้ รีบบอกมาเถอะ ก่อนที่ฉันจะหัวใจวาย"

เสียงที่เริ่มสั่นของรุ่ง ทำให้แคลร์หัวเราะ เธออธิบาย

"เธอเคยเรียนเรื่อง กราวิเทชั่น... อัตราเร่งเมื่อวัตถุถูกปล่อยแบบฟรีฟอล ?"

รุ่งสั่นหัว

"เธอพูดภาษาอะไรน่ะ ? เอาแบบสั้น ๆ ที่คนธรรมดาเข้าใจได้มั้ย ?"

"เอาน้ำหนักเธอคูณกับสิบ ก็จะได้เป็นค่าของนิวตัน"

ขบวนรถไฟถูกลากมาจนเกือบถึงจุดที่สูงที่สุด

ลมแรงพัดกรรโชก ทำให้หัวของรุ่งกระเซอะกระเซิง เขามองลงไปจากที่นั่ง ทัศนวิสัยกว้างไกล เห็นไปถึงไฟหน้าประตูใหญ่ของสวนสนุก

"คำอธิบายของเธอ ไม่ได้ช่วยอะไรให้ฉันดีขึ้นเลย แคลร์ นี่มันสูงมากกว่าตึกสิบชั้นอีกนะ !"

เขาแบมือทั้งสองข้างออกมา

"ดูสิ ! เหงื่อแตกเต็มทั้งสองมือแล้ว"

แคลร์หัวเราะ เธอยื่นมือมือซ้ายมากุมมือขวาของรุ่ง แล้วอธิบายต่อ

"แรงกราวิเทชั่น เรียกย่อ ๆ ว่า จีฟอร์ซ มันคืออัตราเร่งของวัตถุที่พุ่งเข้าหาแกนของโลก"

ขบวนรถไฟมาถึงจุดที่สูงสุดแล้ว

รุ่งพูดออกมาเป็นภาษาไทย

"แล้วกูจะรู้ไปทำไมเนี่ย ? เสียวจะตายห่าแล้ว !"

รถไฟเริ่มถูกปล่อยให้ไหลลง

เพียงไม่ถึงสี่วินาที ความเร็วของรถไฟเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสามเท่าตัว ขบวนรถมุ่งหน้าพุ่งลงล่าง

เสียงล้อกระทบรางดังลั่น

รุ่งบีบมือแคลร์แน่น

เธอยกแขนซ้าย ชูแขนข้างขวาของรุ่งขึ้น แล้วตะโกนเสียงดัง

"The record of Cedar's Floorless Coaster is FOUR POINT FIVE G !"

ไม่กี่วินาทีถัดมา ขบวนรถมีความเร็วเพิ่มขึ้นจนใกล้จุดท็อปสปีด

แคลร์ยังชูมือ แล้วตะโกนเสียงดัง

"FOUR POINT FIVE G !"

ขบวนรถไฟวิ่งด้วยความเร็วเกือบร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง ลมแรงตีเข้าปะทะที่ใบหน้าของรุ่งอย่างเต็มที่

แรง G Force ของวัตถุมีชีวิตเพศชาย ที่ชื่อ รุ่งโรจน์ นั้น ก่อให้เจ้าของวัตถุเกิดความรู้สึกวาบไปทุกรูขุมขน ไร้เสียงที่จะเปล่ง แต่ภายในนั้นร้องด้วยเสียงที่ดังลั่น

รถไฟวิ่งลงถึงจุดต่ำสุด แล้วตีม้วนขึ้นอย่างเร็ว บิดเกลียว

หัวใจของรุ่งแทบจะหยุดเต้น เมื่อเขารู้ตัวว่าเขากำลังถูกแรงรถเหวี่ยงอย่างเร็ว จนตีลังกาหัวทิ่ม แล้วพลิกกลับมาตั้งตรงอย่างรวดเร็ว

สายตาที่ยังพอจับภาพได้ มองเห็นว่าข้างหน้า รางรถไฟกำลังจะบิดตัวอีกครั้ง

เขาไม่สามารถที่จะเปิดเปลือกตาได้อีกแล้ว จึงปิดตาสนิท

ที่นั่งของเขาถูกเหวี่ยงอีกครั้งอย่างรวดเร็ว รางพลิกเป็นเกลียว

เสียงล้อกระทบรางเงียบหายไป

เสียงรอบข้างทั้งหมดเงียบหายไป.....

เสียงร้องของหญิงสาวดังก้องในโสตประสาท

"....พี่ชื้น !....."

เสียงล้อกระทบรางกลับมาดังอีกครั้ง

รุ่งลืมตาขึ้น

รถไฟกำลังวิ่งขึ้นสู่ที่สูงในทางตรง

จู่ ๆ ความกลัวทั้งหลายก็หายไปสิ้น

เขาหัวเราะดังลั่น แล้วตะโกน

"วู้...! FOUR POINT FIVE G !"

แคลร์หัวเราะเมื่อได้ยินเสียงของรุ่ง เธอตะโกนตามอีกครั้ง

"FOUR PONT FIVE G !"

ทั้งสองคนเปล่งเสียงหัวเราะดังลั่น

***************************************************************************

ขบวนรถไฟเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เข้าเทียบชานชาลา

รถไฟจอดสนิท

เสียง 'แชะ !' ดังขึ้น

คาร์ลได้ปลดล็อกที่นั่งแล้ว

รุ่งเพียงใช้แรงยกเบา ๆ คานเหล็กล็อคที่นั่งก็ถูกยกกลับขึ้นไปในตำแหน่งสูงสุด

แคลร์ยกนาฬิกาจับเวลาขึ้นกด แล้วพูดขึ้น

"เป็นยังไง ? เธอลืมเรื่องกังวลใจที่ผ่านมาตลอดทั้งวันนี้ได้หมดเลย ใช่หรือไม่ ?"

รุ่งหัวเราะ

"วันนี้ ฉันไม่ได้มีเรื่องอะไรทำให้กังวลเลย จนกระทั่ง ได้มาเจอเธอนี่แหละ"

สาวอินเดียนหน้าคม หัวเราะร่วน

รุ่งเดินลงจากขบวนรถ จิตยังประหวัดถึงเสียงของหญิงสาวที่จู่ ๆ ก็ดังก้องขึ้นในระหว่างที่สติหลุดออกจากตัว

เสียงรหัสเรียกตัวแคลร์จากวิทยุสื่อสารที่เก้าอี้ดังขึ้น

เธอรีบเดินไปที่เก้าอี้

รุ่งเดินตรงไปที่ห้องควบคุม แล้วยกมือชี้หน้าคาร์ลพร้อมรอยยิ้ม

"ระวังตัวไว้ ! ฉันจะฆ่านาย !"

คาร์ลหัวเราะ แล้วกำมือชูนิ้วโป้งให้เป็นการสัพยอก

แคลร์เดินกลับมาที่หน้าห้องควบคุม ยื่นหน้าเข้าไปหาคาร์ล

"คาร์ล ! เอ็กซคลูซีฟไรด์สำหรับคุณผู้หญิงวีไอพีหนึ่งคน อีกสองสามนาที รถคลับจะพาเธอมา พร้อมมั้ย ?"

คาร์ลพยักหน้า

สาวอินเดียนหันมาส่งยิ้มให้รุ่ง

"ถ้าเธอยังไม่รีบกลับ รออีกสักครู่นะ ขอฉันต้อนรับสตรีวีไอพีคนนี้เพียงรอบเดียว สามนาทีกว่า ก็เสร็จ"

*******************************************************************************

1 < อ่านหน้า > 3
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่