ตะลุ่งตุ้งแช่

มหันตภัยสารพิษ - - ปะทุร้ายทั่วโลก!!
ไทยเจอหนัก ถ้วยชามขวดน้ำพลาสติก

แฮ่ม! ... ประเดิมคอลัมน์ใหม่บนเว็บ “เพนดูลัมไทยดอทคอม” ด้วยอาการร้อนวิชา (อย่างแรง) หลังจากออดอ้อน--วอน “คุณลี” เจ้าของเว็บ ขอพื้นที่ซักน้อยนิด เพื่อจะ อัพเดทเรื่องราวข่าวสารสุขภาพใหม่ๆ

คุณลีก็ช่างกระไร สนองนโยบาย “ศิษย์สาย ๒” ยกทำเลทองจองหน้าแรก ให้บรรเลงเต็มที่ คอลัมน์ “ตะลุ่งตุ้งแช่”  จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อตีฆ้องร้องป่าว บอกกล่าวข่าวสารสดๆ  

เรียกว่าถ้าไม่ดีจัง-ดังจริง งานนี้มีหวังถูกถอด-จบ-จอดแน่ (กดดันเหมือนกันนะเนี่ย)

เอาล่ะ หลังจากทุกท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ ฝึกฝนเคล็ดวิชา “นาฬิกาชีวิต” จนช่ำชองเชี่ยวชาญ บางคนขึ้นขั้นแอดวานซ์ใช้ “เพนดูลัม” ตรวจรักษาแก้อาการป่วยช่วยผู้คนได้

เราก็มีน้ำกระชาย, โยเกิร์ตนมสดน้ำผึ้งมะนาว, น้ำกระเจี๊ยบพุทราแห้ง, ชามะละกอ เป็นเสมือนยาสามัญประจำบ้าน  จากหนังสือ “เปิดตู้เย็น..เป็นตู้ยา” (ที่กำลังขายดีทั่วประเทศขณะนี้) ทำให้ชนชาติไทยลดการใช้ยาฝรั่งไปได้อักโข!!

ล่าสุด.....มหันตภัยพันธุ์ใหม่ มันคือ “สารพิษ” ที่สะสมอยู่ในตัวพลโลกมาเนิ่นนาน บัดนี้ถึงเวลาปะทุ - - ทะลุเข้ารอบแจ๊คพอตแล้วจ้า

งั้นลองมาตรวจสอบดูกัน. ว่าคุณเข้าถึงแจ๊คพอตรอบไหนแล้ว?

พิษระดับที่ ๑ มาจากยา, สารปรุงแต่งในอาหาร (สี กลิ่น รส), ผงชูรส, ลิปสติก, ยาย้อมผม (เข้าทางศีรษะ)  
สูตรล้างพิษระดับพื้นๆ  .ใช้แค่เห็ด ๓ อย่าง ทำแกงจืด แกงส้ม ต้มยำ แกงเลียง ฯลฯ กินเป็นประจำ


พิษระดับที่ ๒ มาจากยาฆ่าแมลง ดีดีที สะสมในพืชผักผลไม้ (กะหล่ำปลีเป็นผักที่แมลงชอบนัก คนปลูกก็จะหยอดดีดีทีลงไปตั้งแต่หัวเล็กๆ จนเก็บขายได้ คิดเอาเองแล้วกันว่าจะกินต่อหรือไม่?) การสูดดมละอองสารพิษ, ควันรถ, ควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม, การดื่มน้ำประปาต้ม (คลอรีนในน้ำประปา เมื่อถูกต้มจะกลายร่างเป็นสารพิษกลุ่มเดียวกับยาฆ่าแมลง ... ทางที่ดีควรจะตั้งทิ้งไว้ให้คลอรีนระเหยก่อน สัก ๓๐-๖๐ นาทีแล้วค่อยนำมาต้ม ก็จะปลอดภัยกว่า)


พิษพวกนี้จะทำให้มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว ไม่อยากจะตื่น อ่อนเพลียง่าย ง่วงนอนบ่อย สมองมึนงง ตื้อตึ้บ คิดอะไรไม่ค่อยออก

สูตรล้างพิษ – ข้าวต้มถั่วเขียว  (ข้าวสาร ๑ ส่วน ถั่วเขียว ๑ ส่วน ต้มกับน้ำจนกลายเป็นข้าวต้ม ที่สำคัญสูตรนี้ต้องต้มในหม้อดินหรือหม้อกระเบื้องเคลือบเท่านั้น เพราะถ้าใช้หม้อโลหะ มันก็จะไปดึงสารพิษจากโลหะกลับเข้ามาอีก) หาโอกาสกินบ่อยๆ สักวันละมื้อ กินกับกับข้าวทั่วไป

พิษระดับที่ ๓ เข้มข้นสูงสุด ได้แก่ พิษจากโลหะหนัก สารตะกั่ว, สารฟอร์มาลีนหรือยาดองศพ ได้จากการกินอาหารทะเล (กุ้ง หอย ปู ปลา), ผักที่สดกรอบเกินเหตุ ที่ร้ายกว่านั้น ก็คือ ภาชนะพลาสติก ถ้วยชามเมลามีน กล่องโฟม ถุงร้อนใส่กับข้าว พวกนี้ถ้าใช้ใส่ของร้อน ฟอร์มาลีนจะออกมาปนเปื้อนกับอาหารทันที

แล้วก็ น้ำบรรจุขวดพลาสติก ทั้งขาวใส ขาวขุ่น ตัวร้ายทั้งนั้น (ถ้าบรรจุขวดปั๊บแล้วรับประทานทันที ก็จะไม่เป็นอะไร แต่กว่าน้ำดื่มบรรจุขวดจะมาถึงมือเราผู้บริโภค ลองคิดดูสิว่าจากโรงงานมายังยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ร้านค้าปลีก กินเสร็จแล้ว เรายังจะนำขวดกลับมาบรรจุซ้ำ นำไปแช่เย็นในช่องแข็งอีก โอ๊ย! ฟอร์มาลีนเต็มๆ)


ประธานาธิบดีอเมริกา “บารัก โอบามา” จะไม่ยอมดื่มน้ำจากขวดพลาสติกเลย จะดื่มจากขวดแก้วเท่านั้น!!

คนที่โดนสารพิษระดับนี้ อาการเริ่มต้นจะเริ่มจากเวียนหัว หน้ามืด ตาลาย ชาตามแขน-ขา ปวดท้องจี๊ดๆ ปวดเตือนเป็นระยะๆ แล้วก็หายไป นั่นแสดงว่าเริ่มมีเนื้องอกในลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ เนื้องอกในกระเพาะอาหาร หรืองอกตามอวัยวะต่างๆพอหมอตรวจเจอก็จะแนะให้ผ่าตัด ตัดแล้วก็งอกอีก งอกแล้วก็ตัดอีก ปล่อยไว้นานก็จะพาลเป็นมะเร็ง (ต่อไปหมอผ่าตัดจะขาดตลาดแน่นอน)

สูตรล้างพิษ – ต้นจางจืด (คนละชนิดกับรางจืด อาจจะหายากสักหน่อย แต่พอมีขายตามร้านขายยาไทย เช่น เจ้ากรมเป๋อ) ลักษณะเป็นไม้แห้ง หั่นเป็นแว่นๆ ใช้สัก ๓-๔ แว่นต้มกับน้ำ ๑ ลิตร (ต้มในหม้อดิน) ดื่มน้ำล้างพิษ ๗-๑๐ วัน
หรือจะใช้ ต้นเหงือกปลาหมอ (งงหนักขึ้นไปอีก) อันนี้ต้องเฉพาะพื้นที่ (ตามป่าชายเลนจะพอมี) ถ้าใช้สดมาสับๆ ให้ละเอียด ๑ ขีด (ถ้าแบบแห้งก็แค่ ๑/๒ ขีด) ต้มกับน้ำ ๑ ลิตร (ต้มในหม้อดิน) ดื่มน้ำล้างพิษ ๑๐ วัน
ง่ายกว่านั้นแต่ต้องใช้ตังค์เยอะหน่อย คือ ใช้ ชาแคลรี่ (CALLI) ของซันไรเดอร์  ชงดื่มวันละ ๑-๒ ซอง ล้างพิษระดับนี้ได้ชะงัดนัก

วิธีล้างสารพิษระดับเข้มข้น นอกเหนือจากชาแคลลี่ / ต้นเหงือกปลาหมอ หรือ ต้นจางจืดแล้ว ก็ยังมีสูตรง่าย ๆ กว่านั้น นั่นคือ ผักบุ้งแดง ๑ กำมือ ต้มกับน้ำ ๑ ลิตร เติมน้ำตาลทรายแดง ๕ ช้อนโต๊ะ (ต้มในหม้อดิน) กินน้ำล้างพิษ สัก ๑๐-๓๐ วัน ก็จะสบายตัวขึ้นค่ะ

น่าเสียดาย แจ๊คพอตพวกนี้ไม่สามารถไปขึ้นเงินรางวัลที่ไหนได้ ยิ่งสะสมนานก็ยิ่งเป็นพิษร้าย ล้างได้ก็ล้างไปซะ แล้วอย่าลืมไปบอกคนข้างตัว คนที่คุณรัก ให้ช่วยกันล้างพิษ และหยุดสะสมพิษด้วยนะคะ - - ตะลุ่งตุ้งแช่!

(โดย ศิษย์สาย ๒)

อ่านตอนอื่น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่