ตะลุ่งตุ้งแช่ ตอน6

โอมเพี้ยง !
เสกน้ำรักษาโรค

 

 

แค่เกริ่นกล่าวเมื่อคราวก่อน ว่าจะตะลุ่งตุ้งแช่เรื่องน้ำ  “น้ำ” ก็มาซะเต็มที่!!

ต้องขอแสดงความเห็นใจต่อพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่

อุทกภัยอุทกภัย

ยามนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ “น้ำใจ” ...  ช่วยเหลือ แบ่งปัน อดทนและให้อภัย  จึงจะฝ่าฟันวิกฤติภัยร้ายจากธรรมชาติไปได้ด้วยดี

นอกจากน้ำใจ อ.สุทธิวัสส์เตือนไว้อีกสิ่งที่ควรพกติดบ้านก็คือ “สารส้ม” ทุกครั้งที่ไปแช่น้ำหรือลุยน้ำมา ก็ให้เอาสารส้มมาถูมาทาให้ทั่วตัว เพื่อป้องกันพยาธิ และ เชื้อราตามผิวหนัง

สารส้ม สารส้ม

แล้วเรายังได้เห็นภูมิปัญญาไทยอีกอย่างที่มีมาช้านาน นั่นคือ การเอาสารส้มมาแกว่งน้ำ เพื่อทำน้ำสะอาดไว้เป็นน้ำดื่มน้ำใช้ ในยามที่น้ำขาดแคลนเยี่ยงนี้

พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ ยามใดที่ผู้นำประเทศมีแต่โลภะ อยากมี อยากได้ อยากเป็น ชาวบ้านก็จะเกิดโลภะตามอย่าง เมื่อนั้น “อุทกภัย” จะบังเกิด

หรือยามใดที่ผู้นำเต็มไปด้วยโทสะ โกรธแค้น อาฆาตพยาบาท ชาวบ้านก็เป็นตาม เมื่อนั้น “อัคคีภัย” จะบังเกิด

หรือยามใดที่ผู้นำเต็มไปด้วยโมหะ (ความหลง) เห็นผิดเป็นชอบ ชาวบ้านก็หลงตาม  เมื่อนั้น “วาตภัย” จะบังเกิด

ทางแก้มีทางเดียวคือ “การเจริญเมตตาธรรม” ตั้งมั่นในพรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) หรือ การมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน แค่หนึ่งใจดวงเดียวก็สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

แต่ถ้ารวมหลายใจเป็น “อภิจิต” อันยิ่งใหญ่ ละโลภ โกรธ หลง ได้เมื่อไร เมื่อนั้นภัยพิบัติก็จะบรรเทาเบาคลาย จากร้ายกลายเป็นดี-ได้

นั่งสมาธิ นร.นั่งสมาธิ

ให้สังเกตุว่าประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก จะไม่ค่อยมีเหตุหายนภัยร้ายแรงมากนัก หรือ ถ้ามีก็คลี่คลายได้รวดเร็ว

(ขณะที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้ ๕ พ.ย. ๕๓ ... ภูเขาไฟระเบิดที่อินโดนีเซีย เสียชีวิตร่วมร้อยศพ / เฮติที่เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวตายกว่าแสนคนเมื่อต้นปี โดนพายุเฮอริเคนกระหน่ำซ้ำ ตายกว่า ๖๐๐ ศพแล้ว / เครื่องบินตกที่คิวบา ตายเหมาลำ)

            มาว่าเรื่อง “น้ำ” ของเรากันต่อดีกว่า

 จะเรียกว่าบังเอิญหรือตั้งใจหรือจักรวาลจัดให้ดีล่ะเนี่ย  เพราะทั้งโลกและร่างกายเราต่างมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ ๗๐ 

ดังนั้นจึงไม่เกินเลยไปถ้าจะกล่าวว่า “น้ำ” สามารถควบคุมชะตาชีวิตของมนุษย์ และ ชะตากรรมของโลกได้

มีงานวิจัยจากหลายสำนักที่บ่งบอกว่า น้ำไม่ใช่แค่น้ำ น้ำมีตัวรับรู้และจดจำ (memory)

น้ำสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลเป็นดี หรือ ร้ายก็ได้จากความคิดของคน (ในอนาคตข้างหน้า สื่อบันทึกข้อมูลอาจอยู่ในรูปของน้ำหลอดเล็ก ๆ แค่หลอดเดียว แต่จุข้อมูลได้มากมายมหาศาลหลายล้านเทราไบต์
)

ดร.มาซารุ เอโมโตะ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่นก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ค้นพบความมหัศจรรย์ของน้ำ (ตามหลังพระพุทธเจ้ามากกว่า ๒๕๐๐ ปี) โด่งดังจากเรื่อง “สาส์นจากวารี” (Masseges from Water)  คลิกลิงค์ ที่นี่

ในวิดีโอจะเห็นว่า ถ้าเราเขียนถ้อยความดี ๆ อย่างเช่น ความรัก ขอบคุณ สันติภาพ ความสุข น้ำจะมีผลึกหกเหลี่ยมที่สวยงามเป็นประกาย (ดร.มาซารุทดลองเขียนข้างขวดน้ำ แล้วนำน้ำไปแช่แข็ง มองผ่านกล้องจุลทรรศน์)

 น้ำจาก Mountain Spring ญี่ปุ่น..........คำว่า ขอบคุณ........ผลึกน้ำจากการสวดมนต์
น้ำจาก Mountain Spring ในญี่ปุ่น..... ..ผลึกน้ำจากคำพูดว่า 'ขอบคุณ' ....... .....ผลึกนำจากการสวดมนต์แบบพุทธ

ในทางตรงข้าม ถ้าเป็นข้อความที่เลวร้าย อย่างเช่น ฉันจะฆ่าแก ไอ้ผีบ้า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ฯลฯ  ผลึกของน้ำจะน่าเกลียดน่ากลัวและดูหม่นหมอง

ผลึกน้ำจากคำพูด 'กูจะฆ่ามึง'....พลึกน้ำเน่า.....ผลึกน้ำจากเพลงเฮฟวี่ ฯ
..ผลึกน้ำจากคำพูด 'กูจะฆ่ามึง' . . . .. . . .. ผลึกจากน้ำเน่าเสีย ... .. .... ..... . ... ..ผลึกน้ำจากเพลงเฮฟวี่เมทัล
           
ไม่ว่าคุณจะเขียนด้วยภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาญี่ปุ่น หรือภาษาอะไร ก็จะได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน (ไม่เชื่อก็ลองดู)
           
รวมไปถึงการเปิดเพลงหรือเล่นดนตรีคลาสสิกที่ไพเราะจับใจให้น้ำฟัง ผลึกจะเปล่งประกายสวยสดงดงาม
  
เพลงคลาสสิควงซิมโฟนี่ เสียงกีต้าร์คลาสสิค

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเพลงร็อก เฮฟวี่เมทัล หรือตะโกนด่าทอกันลั่นตลาด ผลึกของน้ำจะแปรรูปน่าขยะแขยง น่าชิงชัง

เสียงด่าทอเสียงด่าทอ เพลงเฮฟวี่เมทัล วงเฮฟวี่เมทัล

ปัญหาสุขภาพของคนไทยส่วนใหญ่กว่า ๙๐% คือ ระบบดูดซึมเสีย ทำให้ดื่มน้ำแล้วน้ำไม่เข้าตัว ร่างกายจึงขาดน้ำ (อาการที่ตามมาก็คือปัสสาวะบ่อย ถุงน้ำดีข้น ปวดหัว เป็นไมเกรน นอนไม่หลับ เป็นภูมิแพ้ ฯลฯ)

ปวดหัวนอนไม่หลับ
           
จึงมีคนคิดผลิตเครื่องทำน้ำโมเลกุลเล็ก ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เลย ราคาก็หลายหมื่น (ถ้ามีตังค์ก็ซื้อไปเถอะ แต่ถ้ายัง...ก็ฟังทางนี้ก่อน)
      
น้ำที่เราดื่มกินกันทุกวันนี้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ (มากกว่าแปดเหลี่ยม) แล้วพฤติกรรมของคนที่ชอบดื่มน้ำแบบ “ซัดโฮก ๆ” ก็ยิ่งทำให้น้ำไหลผ่านเลยไปไม่เข้าตัวแน่นอน
           
วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้องคือต้องค่อย ๆ จิบ (ทำเสียง จิ๊บๆ ไปด้วยก็ได้) จิบบ่อย ๆ ทุก ๆ ๒๐ นาที วันหนึ่งควรดื่มให้ได้อย่างน้อย ๒-๓ ลิตร
           
ส่วนการทำให้น้ำโมเลกุลเล็กมีหลายวิธี อ.สุทธิวัสส์บอกว่า...

  1. ใส่น้ำไม่ต้องเต็มขวด เขย่าแรง ๆ แบบเช้ค ๆ เป็นการออกกำลังไปด้วยในตัว ก็จะทำให้โมเลกุลของน้ำเล็กลง แต่ต้องใช้เวลานานหน่อย(เดี๋ยวนี้มีศาสตร์การแพทย์ทางเลือกที่เรียกว่า Homeopathy    ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน)

    การเขย่าน้ำ

  2.  นึกให้มีลำแสงสีขาวส่องพุ่งตรงไปยังน้ำในแก้วที่เรากำลังจะกิน

  3. สวดมนต์ให้น้ำฟัง
    สวดมนต์

เห็นมั้ยง่าย ๆ แค่นี้เอง ขอให้ทำด้วยความเชื่อมั่นและเบิกบานแจ่มใส

กรณีฉุกเฉินถ้าเราเกิดเจ็บป่วยกะทันหัน หันไปทางไหนก็ไม่มีอะไรซักอย่าง เปิดตู้เย็นก็ไม่เป็นตู้ยา เปิดตู้ยาก็ไม่เหลืออะไร ก็ลองโอมเพี้ยง เสกน้ำรักษาโรคดูสิ แล้วคุณจะค้นพบความมหัศจรรย์

***************
            ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไม “ความเครียด” ถึงทำให้คนป่วยเป็นโรคร้ายแรงได้  นั่นเพราะคุณกำลังเสกเลือดและน้ำในร่างกายให้กลับกลายเป็นยาพิษ มาทำร้ายตัวคุณเองไงล่ะ!?

 

ด้วยรักและปรารถนาดี
จาก ศิษย์สาย ๒

กลับขึ้นด้านบน

อ่านตอนอื่น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่