ประสบการณ์การใช้เพนดูลั่มของ Diane Stein

บทที่ 7 การแก้ปัญหาการใช้งาน (หน้า 3)

 

 6. เหตุผลประการสำคัญที่ทำให้คำตอบจากเพนดูลั่มไม่น่าเชื่อถือเกิดขึ้น เมื่อชาวโลกทิพย์ขั้นสูงสุดไม่ได้เป็นผู้อำนวยการคำตอบ

การติดต่อจากเทพจะเกิดขึ้นได้ คุณจะต้องอธิษฐานจิต (เพื่ออุทิศตัวคุณเอง) ก่อน  พูดให้ชัดเลยก็ได้ว่าขั้นตอนนี้ประกาศเจตนารมณ์ของคุณว่า จะยืนอยู่ข้างไหน

ถ้าคุณไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งของเทพ (Light) คุณก็จะไม่มีเกราะพลังงานคุ้มครองเหล่าเทพให้มาทำงานกับคุณเทพจะไม่ทำงานเพื่อความชั่วร้าย (Evil) และในเรื่องจุดยืนนี้ มันไม่มีอะไรที่อยู่ก้ำกึ่ง หรือ เป็นกลาง มีแต่ฝั่งเทพ หรือ ไม่ใช่ เท่านั้น

การอธิษฐานจิต ไม่ใช่เป็นการละเมิดข้อห้ามของศาสนาใด ๆ ยกเว้นเสียแต่ลัทธิบูชาซาตาน (Satanism) ซึ่งเป็นสิ่งชั่วร้าย

การอธิษฐานจิตเป็นเป็นหนทางขั้นแรกที่จะก่อให้เกิดพัฒนาการต่าง ๆ ให้กับตัวคุณ พร้อม ๆ ไปกับการสร้างเกราะป้องกันให้กับคุณ 

นอกจากนี้ ยังเป็นเกราะป้องกันให้กับเทพที่ต้องการจะมาทำงานร่วมกับคุณด้วย

จะไม่มีเทพองค์ใดที่จะมาให้คำตอบแก่เพนดูลั่ม หรือ จะมาช่วยคุณ หรือ จะมาสอนคุณ หรือ ให้ข้อมูลอื่นใดแก่คุณ ถ้าคุณไม่ได้อุทิศตนเพื่อกุศล 

นอกเสียจากว่าคุณจะเลือกฝั่งความชั่วร้าย มิฉะนั้นแล้วก็ไม่มีเหตุผลใดที่คุณจะไม่อธิษฐานจิตเพื่อความเป็นกุศล

เมื่อคุณอธิษฐานจิตเพื่ออุทิศตัวคุณเอง และ สร้างความสัมพันธ์กับเทพสักองค์หนึ่งแล้ว เพนดูลั่มของคุณจะมีความแม่นยำ และ เชื่อถือได้มากขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

ดูบทที่สี่อีกครั้งในเรื่องการอธิษฐานจิต  ซึ่งวิธีการก็ไม่ใช่อะไรที่ยากเย็นนัก เพียงแต่พูดข้อความออกมาดัง ๆ สามรอบว่า

“ฉันขออุทิศตัวฉัน ชีวิตของฉัน เวลาตลอดอายุขัยของฉัน ให้แก่ความเป็นกุศล (the Light)”

เมื่อคุณได้ทำการอุทิศเช่นนี้แล้ว ความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เป็นกุศล และ ชาวทิพย์ฝั่งกุศลจะสถิตอยู่กับคุณ และ จะไม่จากคุณไปไหนอีก

7. มีบ้างเหมือนกันที่คุณไม่สามารถเชื่อมกับเทพได้ หรือ เทพไม่ยอมทำงานกับคุณหากคุณไม่ปฏิบัติต่อเทพด้วยความเคารพอย่างสมบูร
(Treat your Be-ing of the Highest Light with anything less than total respect)

ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบไม่บ่อยนัก แต่ก็เกิดขึ้นเหมือนกัน 

มีบางคนที่ยังไม่สุขุม ขาดความขอบคุณ ขาดความเข้าใจถึงพรประการนี้ที่พวกเขาได้รับ (ในที่นี้หมายถึงการที่ได้มารู้จักและเรียนรู้ศาสตร์แห่งเพนดูลั่ม) 

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตกอยู่ในประเภทนี้ ขอให้เปลี่ยนทัศนคติโดยด่วน มิฉะนั้นคุณจะต้องเสียใจอย่างแรงในวันหนึ่ง

8. ถ้าคุณใช้เพนดูลั่ม ในการถามปัญหาหยุมหยิม (Trivial) คุณก็จะได้รับคำตอบแบบหยุมหยิมเช่นกัน 

และ หากคุณถามคำถามที่คุณไม่ได้ต้องการจะรู้ หรือ ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรู้ หรือ รู้ไปก็ไม่ได้เป็นผลดีแต่อย่างใด คุณก็จะไม่ได้รับคำตอบที่มีความหมาย 

คำถามที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว หรือ การตัดสินใจที่เป็นอิสระของผู้อื่น จะไม่ได้รับการตอบ  เช่นเดียวกับคำถามเกี่ยวกับคนอื่นที่คุณไม่มีสิทธิอันควรที่จะรับทราบข้อมูลของเขา 

หากคุณสามารถแยกความปรารถนาเพื่อตัวคุณเอง (Ego and Pride) ออกจากความต้องการที่จะใช้เพนดูลั่มเพื่อประโยชน์ของปวงชน (Desire to use the pendulum) และ หากคุณก้าวเข้ามาสู่วิถีแห่งการพัฒนาตนเองทางจิตวิญญาณแล้ว คุณจะได้รับคำตอบเสมอสำหรับทุกคำถาม 

เมื่อคุณก้าวเข้ามาสู่วิถีของการรับใช้ผู้อื่น และรับใช้โลก รับใช้เหล่าทวยเทพ คุณจะได้รับการชี้แนะในระดับที่สูงขึ้น ข้อมูลที่มากขึ้น มากจนเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ทีเดียว

เพนดูลั่มไม่ใช่ของเล่น หรือ เกม หากแต่เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้อย่างจริงจัง และ เป็นงานระดับจิต 

คุณต้องมีความเคารพต่อเครื่องมือชิ้นนี้ในระดับที่จริงจัง และ คุณก็จะได้รับอะไรอีกมากมาย 

หากทำอย่างเล่น ๆ คุณก็จะไม่ได้อะไรเลย

9. การเรียบเรียงประโยคคำถามไม่ดี (Poor phrasing of your questions) ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่คำตอบออกมามั่ว หรือ ไม่มีความหมาย 

การใช้เพนดูลั่มให้ได้ผลคุณจะต้องถามคำถามที่อยู่ในรูปแบบเรียบง่าย โดยต้องการคำตอบ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” อย่างเรียบง่ายเท่านั้น 

ถ้าคำถามมีคำว่า “และ” “หรือ” คุณจะต้องแยกคำถามออกเป็นสองคำถาม (หรือมากกว่านั้น) ถามทีละคำถาม

ใช้ประโยคที่ไม่กำกวม ไม่อาจเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นได้

ใช้คำที่ตรงตัวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และถามเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการรู้เท่านั้น

การใช้เพนดูลั่มเป็นเรื่องของศิลปะการตั้งคำถาม ซึ่งถ้าคุณทำได้ดี ข้อมูลที่ได้รับก็จะมีความชัดเจน และ คำตอบจะถูกจำกัดกรอบอยู่เอง  มันต้องใช้เวลาอยู่บ้างในการสร้างทักษะนี้ 

ให้คุณทดลองถามบ่อย ๆ โดยใช้เพนดูลั่มด้วย  และ เมื่อฝึกมากพอ คุณก็จะคลิก 

ในทุกบทของหนังสือเล่มนี้จะมีตัวอย่างคำถามที่ใช้ในการถามเพนดูลั่ม

1, 2 < อ่านหน้า

โปรดติดตามอ่านหน้าต่อไป ภายใน 3 วัน