ตอน 59 (หน้า3/3)

งานเลี้ยงแห่งปี (5)

ต้นเรียกต่อให้เดินออกมาจากกลุ่มเพื่อนที่ยืนคุยกันอยู่บริเวณสนามหญ้า

"มีอะไร ต้น ?"

"พี่ต่อ พี่จ๊อดมีเรื่องกับบอยที่หน้าสวนญี่ปุ่น ตอนนี้ยามเอาตัวบอยออกไปนอกบ้านก่อน"

ต่อทำตาเหลือก

"มีเรื่องกันได้ยังไง ? ไอ้บอยไปทำอะไรพี่จ๊อด ?"

น้องชายยักไหล่

"ต้นก็ไม่รู้ พี่จ๊อดไม่ยอมพูด แต่พี่จ๊อดโมโหมาก สองคนต่อยกัน มีคนอื่นไปช่วยกันห้ามไว้"

ต่อรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากน้องชาย

"ต่อยกัน ? ไอ้บอยกล้าต่อยพี่จ๊อดเหรอ ?"

"มันกระทืบพี่จ๊อดเลย"

ต่อสบถ

"อ้ายเหี้ยนี่ ! มันกระทืบพี่จ๊อดในบ้านเราได้ยังไง ?"

"เรื่องนั้นไว้ก่อนเหอะ แต่ตอนนี้เราจะทำยังไง ? พ่อแม่ของบอยก็ยังอยู่ในงาน ถ้าบอยบอกพ่อ งานนี้เรื่องใหญ่แน่ ๆ"

ต่อควักโทรศัพท์มือถือทันที แล้วกดเบอร์หาเจ้าตัว

บอยรับสาย

ต่อพูดด้วยเสียงดัง

"ไอ้บอย ! เกิดอะไรขึ้น ? มึงไปมีเรื่องกับพี่จ๊อดทำไม ?"

"พี่ต่อต้องไปถามพี่จ๊อด ว่ามาหาเรื่องผมทำไม ? แล้วบอกพี่จ๊อดด้วยว่า เตรียมรับของขวัญจากผมให้ดี"

"ของขวัญอะไร ? มึงจะทำอะไร ?"

"พวกพี่รุมผม พี่จ๊อด ไอ้ต้น แล้วก็ไอ้ญาติบ้านนั้นด้วย มากันสี่ห้าคน รุมผมคนเดียว รักกันดีใช่มั้ย ? สามัคคีกันดีใช่มั้ย ? เตรียมรับของขวัญจากผมได้"

บอยตัดสัญญาณมือถือทิ้ง

ต่อสบถอีกครั้ง

"ไอ้ระยำ ! มันกดสายทิ้ง ต้น ไอ้บอยบอกว่ามีญาติบ้านนั้นไปช่วยรุมมัน มันหมายถึงใคร ?"

"พี่รุ่ง กับเพื่อน แล้วก็พี่พจน์ กับ แพท วิ่งเข้าไปห้าม"

ต่อมองภาพออกทันที เขารู้ว่าบอยมีอะไรอยู่ในมือ

"ชิบหายแน่ ! งานนี้"

ต้นได้ยินคำนี้ ก็ตกใจ

"ทำไม ? ไอ้บอยจะทำอะไรเหรอ พี่ต่อ ?"

ต่อกำลังใช้ความคิด หากบอยจะบอกข้อมูลเหล่านั้นเพื่อเล่นงานจ๊อด เขาจะส่งถึงใครเป็นคนแรก ระหว่างอามัณ กับ ลุงเอก...พ่อของจ๊อด ?

เขาหันไปถามน้องชาย

"ต้น อามัณ กับ ลุงเอกอยู่ไหน ?"

"ตอนนี้อยู่ที่บ้านใหญ่มั้ง"

พี่ชาย รีบออกตัววิ่งตรงไปบ้านใหญ่ทันที

ต่อยืนหายใจหอบอยู่ที่ห้องโถง เพ็ญกำลังเดินหอบกล่องของขวัญในงานเข้ามาในบ้าน

"พี่เพ็ญ เห็นลุงเอก กับ อามัณ หรือเปล่า ?"

"อยู่ในห้องรับแขกเล็ก"

เขาเดินผละจากเพ็ญ ตรงมาที่หน้าห้องรับแขกเล็ก

ประตูห้องถูกเปิดออก มัณฑนาเดินออกมาจากห้อง สายตาของต่อมองเห็นคุณลุง นั่งก้มหน้า มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้อง ประตูถูกปิด มัณฑนาสบสายตากับต่อ เธอไม่ปริปากพูดอะไร แล้วเดินจากไป

"พี่ต่อ"

เสียงวิภวาเรียกญาติผู้พี่ เธอเดินตรงมาจากทางเดินด้านใน

"พี่ต่อ รู้เรื่องพี่จ๊อด กับ บอยแล้วใช่มั้ย ?"

ต่อพยักหน้า

"รู้ แล้วนี่ เมื่อกี๊ลุงเอกคุยอะไรกับอามัณไม่รู้"

วิขมวดคิ้ว
"เรื่องพี่จ๊อดกับบอยเหรอ ? คุณพ่อรู้เรื่องแล้วเหรอ ?"

จ๊อดปรากฏตัวที่หน้าห้องโถง เสื้อเชิ้ตมีรอยยับ ริมฝีปากยังมีเลือดซึมเล็กน้อย

เขาค่อย ๆ เดินผ่านโถงเข้ามา ถึงหน้าห้องรับแขกเล็ก ส่งสายตามองน้องทั้งสอง ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากจ๊อด

เขาเปิดประตูห้องรับแขก แล้ว ก้าวเข้าไป

วิมองหน้าต่อ

"สงสัยคุณพ่อ รู้เรื่องแล้ว เรียกพี่จ๊อดมาคุยแน่เลย ยุ่งแน่"

ต่อถอนหายใจเฮือกใหญ่

ลูกชายคนโตปิดประตูห้อง

คุณพ่อชี้มือให้นั่งบนเก้าอี้โซฟา

จ๊อดทรุดตัวลงนั่ง

ในห้องรับแขก ขณะนี้ มีแค่เขา และ คุณพ่อบังเกิดเกล้าเพียงเท่านั้น

"จ๊อด ! ปากแกไปโดนอะไรมา ?"

ลูกชายสั่นหัว

"ไม่มีอะไรครับ อุบัติเหตุนิดหน่อย"

เอกฤทธิ์หยิบเอกสารสองแผ่น ยื่นให้ลูกชาย

"แกอ่านบทความนี้ซิ"

เขารับเอกสาร บทความมีชื่อจ่าหัวไว้ว่า

'สายเลือดทรพี กลับมาทวงบัลลังก์'

จ๊อดเห็นแค่ชื่อหัวข้อบทความ เขาก็จำได้อย่างดี สายตาเหลือบมามองบิดา

"แกเคยอ่านแล้วใช่มั้ย ? แกบอกพ่อมาตามตรง ว่าแกเคยอ่านแล้ว"

ลูกชายพยักหน้าช้า ๆ

เอกฤทธิ์เค้นน้ำเสียง พูดด้วยอารมณ์ที่แสดงออกถึงความเครียดที่อยู่ในอก

"แกเก่งมาก ที่ไปหาบทความพวกนี้มาได้ ไม่ว่าเรื่องนี้มันจะถูกฝังมากี่สิบปี แต่มันก็ไม่พ้นมือแก แกมีความพยายาม มีความสามารถที่ดีมาก แกเก่งเหลือเกิน ความเก่งของแก แทนที่แกจะนำมาใช้ให้คนอื่นยอมรับ แกกลับนำความสามารถพวกนี้ มาทำเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้..."

สีหน้าของลูกชายซีดเผือด นัยน์ตาเบิกโต

เอกฤทธิ์ลุกขึ้นยืน ชี้มือออกไปนอกห้อง

"....ถ้าหลานชายของชั้นคนนั้น คือ สายเลือดทรพี แล้วแกล่ะ ? แกมีดีกว่าเค้าตรงไหน ? เค้าโตมาด้วยนามสกุลธรรมดา ๆ ไม่ได้มีคำว่า 'ไตรสรณ์' ห้อยท้ายเหมือนแก เค้ามีความรู้ ความสามารถ เค้ารักษาคนให้หายป่วยได้ เค้าได้รับการยกย่องบนเวที โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเค้าคือไตรสรณ์ คนยกย่องเค้า เพราะความสามารถ ถ้าเค้าคือสายเลือดทรพี แล้วแกล่ะ ? สิ่งที่แกกำลังทำนี้ มันไม่ใช่ทรพีหรือไง ?"

คำพูดของผู้ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้า เสียดแทงจิตใจของเขาอย่างสุดลิ่ม ทุกครั้งที่เขาได้ยินพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง เปรียบเทียบตัวเขา กับ ไอ้เด็กบ้านนั้น มันคือความทรมานที่บาดหัวใจเขาตลอดมา และ คงตลอดไป

ความเสียดแทง บาดลึกในใจของลูกชายคนโต อย่างยากที่จะเยียวยา ไม่มีคำอธิบายใด ๆ หลุดออกมาจากปากของลูกชายคนนี้

"... เค้าถูกตัดออกจากทุกสิ่งทุกอย่างของไตรสรณ์ ตั้งแต่เค้ายังไม่เกิด สิ่งที่เค้าได้มาทุกวันนี้ มาจากความสามารถของเค้าล้วน ๆ แกจะมีอะไรมาสู้เค้า ? ไม่ว่าแกจะไปสมัครงานที่ไหน นามสกุลไตรสรณ์ของแกก็เป็นยี่ห้อที่ขายได้ แล้วเค้าล่ะ พี่ชายแกคนนี้ มีอะไรเพียบพร้อมเหมือนที่แกมี ? เค้าต้องใช้ความสามารถส่วนตัวทุกอย่าง เพื่อที่จะได้อะไรบางอย่างที่เค้าอยากได้ แต่แกล่ะ แกได้ทุ่มเทอะไรบ้าง เพื่อสิ่งที่แกต้องการ ? นอกจาก แกแบมือขอ แล้วได้มาง่าย ๆ ? แกทำอะไรมากกว่านั้นเป็นบ้าง ?"

น้ำตาของลูกชาย เริ่มไหลล้นออกมาจากขอบตา ทุกคำเปรียบเปรยที่คุณพ่อยกมาพรรณา มันได้ทำลายหัวใจดวงนี้ของลูกชายจนแหลกละเอียดหมดสิ้นแล้ว

"... พี่ชายของชั้น ชื่อ วีระ เค้าเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดของชั้น เค้าเป็นพี่ชายคนโตของพวกเรา เค้าทำหน้าที่ได้ดีกว่าแก ในสมัยที่แกยังเป็นหลานชายคนโตของไตรสรณ์ แกไม่มีคุณสมบัติอะไรแม้ซักนิด ที่เทียบกับลุงแกได้ ถ้าใครกล่าวหาว่าพี่ชายของชั้นคือ ลูกทรพี มันผู้นั้นก็เป็นศัตรูกับชั้นแน่นอน"

จ๊อดเงยหน้าขึ้นจ้องคุณพ่อ นี่ถึงขนาดพ่อบังเกิดเกล้าจะประกาศตนเป็นศัตรูกับเขาเชียวหรือ !

ความในใจถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ไหลลงอาบแก้มทั้งสอง

เอกฤทธิ์จ้องมองไปยังลูกชาย ความเจ็บปวดทั้งหมดที่ลูกชายได้รับผ่านถ้อยคำดุด่าในครั้งนี้ ยังเทียบไม่ได้กับ ความเจ็บปวดที่เขาสัมผัส ในฐานะคนที่เป็นพ่อ ที่ได้รับรู้ว่า ลูกชายตัวเอง ได้ก่อการกระทำที่เลวทรามต่ำช้าเกินกว่าที่จะรับได้

"ถ้าบทความนี้ได้ลงตีพิมพ์ตามที่แกต้องการ คุณย่าแกจะต้องหัวใจวายตาย ครอบครัวเราทั้งหมดจะเสียชื่อเสียง เรื่องในอดีตที่พวกเราอยากจะลืม จะกลับมาทำให้ตระกูลเราย่อยยับหมด เพียงเพราะแค่แกจะขัดขวางไม่ให้พี่ชายแกกลับเข้ามาในตระกูล แกมันยังมีสำนึกของความเป็นมนุษย์อยู่มั้ย ?

แกอยากจะได้ในสิ่งที่พี่ชายแกได้ ได้ ชั้นจะให้แกตามนั้น แกจะได้เป็นเหมือนเค้า

ชั้นจะตัดแกออกจากเงินทั้งหมดของครอบครัว เหมือนที่พี่ชายแกเป็นมาตั้งแต่เกิด ชั้นจะให้แกออกไปอยู่นอกบ้านนี้ เหมือนที่พี่ชายแกโตขึ้นมา แล้วถ้าเป็นไปได้ แกกล้าเปลี่ยนนามสกุลไปใช้นามสกุลอื่นที่ไม่ใช่ไตรสรณ์ แกกล้ามั้ย ? แล้วมาดูกัน ว่าแกจะอยู่บนโลกนี้ได้ เหมือนพี่ชายแกมั้ย ?

ชั้นจะไม่มีวันให้เรื่องพวกนี้ ถึงหูคุณย่าเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะเห็นแก่แก แต่ชั้นกลัวว่าคุณย่าจะกระอักเลือด ถึงแม้เรื่องพวกนี้ ชั้นจะปิดไม่ให้ใครรู้ มีแต่อามัณกับชั้นเท่านั้นที่รู้ แต่ชั้นก็จะทนเห็นแกอยู่ในบ้านนี้อีกต่อไปไม่ได้..."

ลูกชายเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว

".... เช้าวันพรุ่งนี้ ชั้นต้องไม่เห็นแกในบ้านหลังนี้ แกจะเหยียบเข้ามาในบ้านนี้อีกไม่ได้ !"

เอกฤทธิ์ เดินตรงไปที่ประตูห้อง เปิดประตู แล้วก้าวออกจากห้อง ทิ้งประตูที่เปิดคาไว้

ต่อ กับ วิ รีบเดินเข้ามาในห้องรับแขก

วิพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

"พี่จ๊อด ! เกิดอะไรขึ้น ? คุณพ่อท่าทางอารมณ์เสียมาก คุณพ่อรู้เรื่องพี่จ๊อดกับบอยแล้วเหรอ ?"

จ๊อดมองหน้าน้องสาว นัยน์ตาแดงก่ำ รอยน้ำตายังเปียกอยู่ทั้งสองแก้ม

ต่อเห็นใบหน้าญาติผู้พี่ มือของเขากำแน่น

จ๊อดเดินแทรกน้องทั้งสองคน ออกจากห้องรับแขก แล้วตรงไปที่บันได เดินขึ้นชั้นสอง

วิหันมาถามต่อ

"พี่ต่อ เกิดอะไรขึ้นน่ะ ?"

ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย นอกจากสีหน้าที่เป็นกังวล

วิเดินออกจากห้องรับแขกเล็ก แล้ววิ่งขึ้นบันได ตรงไปยังห้องของพี่ชาย

เธอถือวิสาสะ เปิดประตูห้องโดยไม่เคาะ...

... กระเป๋าเสื้อผ้าขนาดกลางถูกวางไว้บนเตียง พี่ชายเจ้าอารมณ์กำลังค้นหาเสื้อผ้าที่ต้องการ แล้วโยนชิ้นที่เลือกไว้ลงที่เตียง

"พี่จ๊อด จะไปไหน ?"

"วันพรุ่งนี้ ชั้นคงไม่ใช่พี่ชายแกอีกต่อไปแล้ว"

"พี่จ๊อดพูดอะไรน่ะ ? คุณพ่อคุยอะไรกับพี่จ๊อด ?"

"ทุกคนในบ้านนี้ ไม่ได้เห็นชั้นเป็นหลานชายคนโตอีกแล้ว แต่แกจำไว้ สำหรับคุณปู่แล้ว ชั้นเป็นหลานชายคนโตของไตรสรณ์มาตลอด และ ไม่มีทางที่ใครจะแย่งสิ่งนี้ไปจากชั้น ฟ้าดินย่อมรู้ว่า ชั้นเกิดก่อนไอ้เด็กบ้านนั้น !"

เขาพูดโดยไม่มองหน้าน้องสาว

วิเดินลงส้นเท้าเข้ามาหาพี่ชาย เธอหยุด แล้วกระทืบส้นเท้าอย่างแรงอีกครั้ง

"พี่จ๊อด ! หยุด ! แล้วฟังน้องวิเดี๋ยวนี้ !"

เสียงของน้องสาวแผดดังลั่นห้อง

จ๊อดหันมามองหน้าน้อง

"ถ้าพี่จ๊อดติดแค่เรื่องใครเกิดก่อนเกิดหลัง แค่นั้น น้องวิจะบอกความจริงให้พี่จ๊อดยอมรับซะที พี่รุ่งน่ะ เกิดปีเดียวกับพี่จ๊อดก็จริง แต่ พี่รุ่ง เกิดเดือนมกราคม วันเกิดพี่รุ่งคือ ยี่สิบมกราคม"

พี่ชายถลึงตามองน้องสาว

"ใครบอกแก ?"

"น้องวิเห็นสำเนาบัตรประชาชนของพี่รุ่งจากพี่ธรรม์ รวมทั้งบันทึกประวัติทั้งหมดของพี่รุ่งที่อยู่กับพี่ธรรม์ พี่รุ่งคือหลานชายคนโตของไตรสรณ์โดยสมบูรณ์"

อดีตหลานชายคนโต แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน

"แกพูดหมดแล้วใช่มั้ย ? ถ้าพูดหมดแล้ว แกออกไปจากห้อง ชั้นจะไปไหนก็เรื่องของชั้น"

วิภวาหันหลังกลับ แล้วเดินออกจากห้องพี่ชายทันที

จ๊อดคุกเข่าลงกับพื้น ความภูมิใจที่เหลืออยู่เพียงสิ่งเดียว คือ การที่ได้รู้ว่าตนเองคือหลานชายคนโตของคุณปู่ตามพฤตินัย และ นิตินัย กลับถูกลบล้างหมดสิ้นแล้ว กับความจริงที่น้องสาวเพิ่งเปิดเผยให้เขาได้รับรู้

เขาไม่มีคุณสมบัติใด ๆ เลย ที่จะสู้กับ คนที่ชื่อ รุ่งโรจน์ ได้ ในวันนี้

ไม่ใช่สิ ! เขาไม่เคยมีคุณสมบัติเหล่านั้นมาก่อนด้วยซ้ำ

วิภวาเดินกลับมาที่ห้องนอนตัวเอง ในจิตลึก ๆ มีความรู้สึกเป็นห่วงพี่ชายร่วมสายเลือดอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน

สายตาเหลือบมองไปเห็นรูปภาพที่ใส่กรอบไม้ ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง

*********************************************************************************

จ๊อดถือกระเป๋าเสื้อผ้า เดินออกทางประตูครัวของตึกใหญ่ อ้อมมาที่โรงจอดรถ

รถยนต์บีเอ็มดับบลิวถูกสตาร์ท

จุดหมายปลายทางครั้งนี้ นับว่าไกลโข แม้ว่าเขาจะไปถึงจุดหมายนั้น ที่นั่น ก็อาจจะไม่มีที่สำหรับเขา

แต่ ที่ไหนก็ตามที่รถยนต์คันนี้สามารถพาเขาไปถึง เขาก็พร้อมที่จะรับในสถานการณ์ปลายทางแห่งนั้น

ที่ไหน ก็ ได้ ที่ ไม่ใช่ ที่นี่ !

รถถูกเข้าเกียร์ถอย จ๊อดเคลื่อนรถถอยตีวง แล้วเปลี่ยนเกียร์มาเป็นเดินหน้า

เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น

เป็นวิภวา... น้องสาวในสายเลือด ที่เคาะกระจกฝั่งคนนั่ง

เธอทำมือเป็นสัญญาณให้พี่ชายลดกระจกลง

จ๊อดกดปุ่ม เลื่อนกระจกฝั่งคนนั่งด้านหน้าลง

น้องสาวยื่นถุงพลาสติคมาวางไว้บนเบาะหน้า

"พี่จ๊อด น้องวิอยากให้พี่จ๊อดเก็บนี่ไว้ ไม่ว่าพี่จ๊อดจะไปไหนก็ตาม เก็บมันไว้นะ"

พี่ชายพยักหน้า แล้วเลื่อนกระจกขึ้น

วิถอยหลังมาหนึ่งก้าว

แต่กระจกถูกเลื่อนลงอีกครั้ง

"วิ !"

เสียงพี่ชายเรียก

น้องสาวก้มหน้าลงมอง

"ชั้นขออะไรแกอย่างนึง ถ้าแกยังเห็นว่าชั้นเป็นพี่ชาย ขอให้แกเลิกคบกับบอย เด็ดขาด มันไม่คู่ควรกับแก"

แม้ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร แต่สายตาของพี่ชายที่เธอจ้องอยู่ ณ ตอนนี้ คือ แววตาของพี่ชายคนเดิมที่เธอเคยเห็นมาตั้งแต่เธอยังเด็ก แววตานี้ที่เธอไม่ได้สัมผัสจากเขามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

นี่แหละ คือ แววตาของ พี่จ๊อด พี่ชายแท้ ๆ ของเธอ

วิภวาพยักหน้า

"ได้ พี่จ๊อดไม่ต้องเป็นห่วง โชคดีนะ"

กระจกถูกเลื่อนขึ้น

เสียงรถยนต์บีเอ็มดับบลิวถูกเร่งเครื่อง รถเริ่มแล่นออกนอกโรงรถ และ วิ่งพ้นเขตรั้วบ้านไตรสรณ์ แล้วสปีดก็ถูกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

วิภวายืนพนมมืออยู่ที่โรงรถ เธออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่าที่เธอพอจะนึกออก ให้คุ้มครองพี่ชายร่วมสายเลือดคนนี้

บีเอ็มดับบลิววิ่งด้วยความเร็ว 120 กม. ต่อ ชม. บนถนนบางนาตราด

มือซ้ายของโชเฟอร์ หยิบถุงพลาสติคที่น้องสาววางไว้บนเบาะ แกะของด้านในออกมาดู

มันคือ กรอบรูป ในกรอบเป็นรูปถ่ายของสี่พี่น้องที่เคยถูกถ่ายไว้ที่ระยอง ... จ๊อด ต่อ ต้น วิ

น้ำตาของพี่ชายไหลหยดลงมาที่แก้ม เขาค่อย ๆ วางกรอบรูปไว้บนเบาะ ยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้ว เร่งเครื่องยนต์ฝ่าความหนาวยามดึก มุ่งหน้าไปยังจุดหมาย

__________________________________________________________________________________________

โดย วีรยาติ

1, 2, <อ่านหน้า

กลับขึ้นด้านบน

นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่

 

อ่านตอนต่อไป
อ่านตอนอื่น

1. สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ

2. แสดงความคิดเห็น หรือ โหวต

- ชอบตัวละคร ขอเชิญโหวตได้ที่นี่

- อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่

เชิญเยี่ยม Facebook หมอเถื่อน

(ให้กำลังใจโดยเข้าไป แล้วกด Like หรือ เขียนคำวิจารณ์)

Free hit counter