| |||||||
| |||||||
ทันทีที่เขารวบรวมสติได้ ความคิดแรกที่วิ่งเข้ามาในสมองคือ ครั้งนี้ เขาจะไม่ยอมปล่อยคนไข้คนนี้ ให้หลุดผ่านไปเพราะความไม่มั่นใจในตัวเองอีก รุ่งปิดประตูเบา ๆ แล้วเดินเข้ามาที่เตียง ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม ที่พาให้คนคนนี้ มานอนอยู่ต่อหน้าเขาอีกครั้ง นั่นหมายถึง อะไรบางอย่างได้ลิขิตไว้แล้วว่า เขาจะต้องช่วยคนผู้นี้ได้ รุ่งหยิบลูกดิ่งในกระเป๋ากางเกงออกมา ยืนโน้มตัวเข้าหาคนป่วย ยื่นลูกดิ่งจ่อเหนือหน้าผากของคนไข้ที่กำลังหลับสนิท จิตรวบรวมสัมผัสทั้งหมดในร่างกายเป็นสมาธิได้อย่างรวดเร็ว ในใจยิงคำถามทันที "ฉันช่วยคนคนนี้ได้หรือไม่ ?" ลูกดิ่งนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว รุ่งตั้งคำถามกับตัวเองทันที 'แล้วเราจะถามคำถามนี้ไปทำไม ? ถ้าเรามั่นใจว่าเราช่วยได้ เราก็ไม่ต้องถามคำถามนี้' เขาข้ามไปคำถามถัดไป "คนป่วยคนนี้ ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรใช่หรือไม่ ?" ลูกดิ่งนิ่ง หมายถึง คำตอบปฏิเสธ แล้วเขาก็นึกหัวเราะตัวเองอีกครั้ง 'แล้วกูจะถามคำถามนี้ทำไมอีกวะ ? เปิดโอกาสให้ลูกดิ่งปฏิเสธ โง่จริง ๆ' เขาตัดสินใจข้ามคำถามนี้ ตรงไปยังคำถามที่เกี่ยวกับโรคทันที คำถามเรื่องหมวดหมู่ของโรคพยาธิ ถูกยิงออกไปทันที ในทุกคำถาม ลูกดิ่งให้คำตอบได้เพียงไม่ถึงสองวินาที คำตอบที่พบคือ ...มีพยาธิตัวแบนจำนวนมาก คำถามหมวดต่อไป สำหรับจุลินทรีย์ที่ทำลายเม็ดเลือด คำตอบที่พบคือ .. มีไวรัสในไขกระดูก มีเชื้อราในระบบดูดซึม คำถามหมวดต่อไป สำหรับอุปสรรคในการไหลเวียนของเลือด คำตอบที่พบคือ ... มีสะเก็ดเลือดตกค้าง อวัยวะส่วนใด ที่สะเก็ดเลือดไปตกค้าง เขาควรจะไล่ถามไล่เรียงตั้งแต่ศรีษะลงมา ฉับพลันทันใดนั้น ยังไม่ทันที่คำถามในหมวดอวัยวะที่ติดสะเก็ดเลือดจะออกมาจากจิต ความเจ็บปวดอย่างหนักหน่วง ก็เกิดขึ้นที่กลางหลังของเขา เพียงแค่ชั่ววินาที อาการเจ็บจี๊ดวิ่งแปล๊บขึ้นมาถึงกระโหลกด้านหลัง รุ่งรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว เขารีบยืนตัวตรง เพื่อประคองหลัง อาการเจ็บทวีความรุนแรงหนักขึ้น เขาขยับตัวหันหลัง เพื่อหาเก้าอี้ แต่การขยับตัวของเขา ทำให้เกิดอาการเจ็บแปล๊บขึ้นอีกครั้ง จนเขาสะดุ้งเฮือก มือปล่อยให้ลูกดิ่งตกลงบนพื้น "แป๊ก" ลูกดิ่งกระทบพื้น แล้วแตกออกเป็นสามชิ้น กระเด็นออกจากกัน รุ่งรู้ตัวว่าเขาคงยันกายในท่ายืนไม่ได้แล้ว เขาค่อย ๆ ย่อขา ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นช้า ๆ แต่ไม่ว่าจะขยับตัวเชื่องช้าสักเท่าไหร่ อาการเจ็บที่กลางหลังก็จะเกิดขึ้นตามการเคลื่อนไหวของเขา ไม่กี่วินาทีถัดมา เขาหย่อนก้นนั่งลงบนพื้นได้สำเร็จ มือสองข้างเท้ายันพื้นไว้ เขาจำเป็นต้องทิ้งกายลงนอนหงายกับพื้นให้ได้ เพื่อไม่ให้กระดูกหลังขยับเขยื้อนได้อีก รุ่งค่อย ๆ ขยับมือทั้งสองข้างที่ยันพื้นไว้ออกไปเรื่อย ๆ พยายามประคองหลังเพื่อจะนอนราบ เมื่อขยับตัว ความเจ็บที่หลังก็วิ่งจี๊ดขึ้นมาอีก จนทำให้เขาร้องออกมาเบา ๆ "โอ๊ย !" หนึ่งอึดใจผ่านไป รุ่งอยู่ในท่านอนหงายได้เรียบร้อยแล้ว ลมหายใจเริ่มอ่อนระรัวด้วยความเหนื่อย ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เขาถึงกับน้ำตาเล็ด *********************************************************************************************** บ่ายสามโมง การสัมภาษณ์กับคุณเจเน็ตผ่านไปได้ด้วยดี ดีเกินกว่าที่เธอจะคาดคิด ตอนนี้ ก็คงเหลือแค่การตัดสินใจของเธอเองแล้ว ว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร แต่แนวโน้มของใจเธอ ณ ตอนนี้ คงเอียงกะเท่เร่ หาความเป็นกลางไม่ได้ เพราะสิ่งที่ได้สัมผัสจากการสัมภาษณ์ทั้งสองครั้ง เธอมั่นใจว่างานนี้เหมาะสมกับเธอที่สุด ชีวิตผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างเธอ คงไม่มีวันที่จะมีโอกาสได้งานที่ท้าทาย และ ตื่นเต้นใกล้เคียงนี้ได้อีกแล้ว ที่ปรึกษาเดียวที่เธอมี คือ ลูกดิ่งเพนดูลั่ม เพียงขอแค่คำยืนยันจากลูกดิ่งอีกอย่างเดียวเท่านั้น เธอก็คงจะตัดสินใจได้ทันที ลูกดิ่งลูกใหม่นี้ ได้นำพาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ พลเรือนนามฐิติชญาเดินมาที่รถยนต์ฮอนด้าซิตี้สีแดง เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง อย่างแรกที่เธอต้องการทำคือ นำลูกดิ่งมาเพื่อถามคำถามที่ต้องการ คำถามสั้น ๆ ที่จะยิงไปยังจุดหมาย คือ "ฉันสมควรรับงานนี้ ใช่ หรือ ไม่ ?" ทอมเปิดลิ้นชักด้านหน้าข้างคนนั่ง แต่เธอไม่เห็นถุงลูกดิ่งอยู่ในนั้น เธอรีบมองหาบนที่นั่งด้านซ้าย แต่ไม่พบ หรือ มันอาจจะตกลงไปอยู่ที่พื้น ? ทอมเดินอ้อมรถมายังที่นั่งฝั่งซ้าย แล้วก้มลงดูที่พื้นรถ... ว่างเปล่า ! เป็นไปไม่ได้ ! เธอจำได้อย่างแม่นยำว่า เธอไม่ได้นำลูกดิ่งลงจากรถ มันจะหายไปได้อย่างไร ? ภาพสุดท้ายของลูกดิ่งที่เธอจำได้ คือ ตอนที่เธอยื่นให้เพื่อนดู... รุ่ง ! หรือว่า รุ่งจะหยิบลูกดิ่งติดตัวไปด้วย ? ทอมรู้สึกว่าอากาศเริ่มร้อนขึ้นมาทันที เธอถอดเสื้อคลุมแล้วโยนไว้ที่เบาะรถ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดเบอร์เพื่อน ในใจภาวนาว่า ขอให้ลูกดิ่งของเธอ อยู่ที่เพื่อน อย่าหายไปไหน เสียงเพื่อนรับสาย "ฮัลโหล" "ฮัลโหล รุ่ง แกหยิบลูกดิ่งชั้นติดไปด้วยหรือเปล่า ?" เพื่อนตอบกลับมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา คล้ายคนง่วงนอน "ทอมเหรอ ? อือ... ใช่ ลูกดิ่งแกอยู่กับชั้น" ทอมถอนหายใจ แล้วกำมือแน่น เหมือนกับคนที่สะใจ เพียงแค่ได้ยินคำตอบที่ต้องการได้ยิน "เฮ้อ... โล่งอก ใจหายหมด นึกว่าทำหายที่ไหน แล้วแกอยู่ที่ไหนแล้ว ? ชั้นจำเป็นต้องใช้ลูกดิ่งด่วน จะเจอแกได้ยังไง ?" เสียงรุ่งหัวเราะเบา ๆ "หึ ๆ ทอม เสียใจด้วยว่ะ วันนี้คงเจอแกไม่ได้แล้ว ชั้นเดี้ยงแล้วว่ะ เดินไม่ได้" "หา ! เดี้ยง ? แกไปโดนอะไรวะ ? แกอยู่ที่ไหน ?" "อยู่ที่ซีดาร์นี่แหละ ชั้นว่าชั้นซวยแล้วล่ะ เมื่อกี๊ตรวจคนป่วย แล้วไม่ได้จัดการเจ้ากรรมนายเวร โดนโดดเกาะหลังเลย หลังเจ็บมาก ตอนนี้ต้องนอนหงายบนพื้น นี่พูดมาก ๆ ก็กระเทือนหลัง" "ตายห่าแล้ว ทำไมแกสะเพร่ายังงี้วะ ? ใช้ลูกดิ่งมาเป็นปีแล้ว ยังพลาดเรื่องง่าย ๆ อีก จำไม่ได้เหรอ เรื่องที่อาจารย์นาเคยเล่าให้ฟัง ซี้ซั้วไปตรวจคนที่เจ้ากรรมนายเวรไม่อนุญาต ไมเกรนจับเป็นเดือนเลย ทำไมแกมั่วยังงี้วะ ? ปกติแกก็รู้อยู่แล้วนี่หว่า ทำตัวเองเดี้ยงจนได้..." ทอมรู้สึกว่าตัวเองพูดมากไป ปลายทางไม่มีคำต่อล้อต่อเถียง เธอคิดว่าเพื่อนคงอยู่ในอาการที่หนักพอสมควร การตำหนิเพื่อนมากไปกว่านี้ คงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น "เอางี้รุ่ง แกอยู่ที่ซีดาร์ใช่หรือเปล่า ? เดี๋ยวชั้นไปหาแกเอง" "ไม่เป็นไรหรอกทอม แกมาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เดี๋ยวอาน้อยเค้ากำลังหาวิธีช่วยชั้นอยู่" ทอมถอนหายใจ "ชั้นไม่ได้จะไปช่วยแก แต่ชั้นมีความจำเป็นต้องใช้ลูกดิ่ง แกนอนรอชั้นที่นั่นก่อน เดี๋ยวชั้นจะลองติดต่อยิ้มดูก่อน บางทีท่านแม่อาจจะช่วยแกได้" "อย่า ทอม อย่าบอกยิ้ม ห้ามบอกยิ้มเด็ดขาด" "ทำไมวะ ?" "ถ้ายิ้มรู้ ยิ้มอาจจะคิดว่าเค้ามีส่วนผิดในเรื่องนี้ เพราะยิ้มเป็นคนสนับสนุนให้ชั้นช่วยคนไข้คนนี้" ทอมสั่นหัว "อะไรวะ ? ยิ้มสนับสนุนให้แกไปตรวจใคร ?" "อย่าเพิ่งถามเลย เรื่องมันยาว เอาว่าแกห้ามบอกยิ้มละกัน" "เออ ๆ ระหว่างรอชั้น แกลองให้ใครเอาน้ำมาเสกน้ำมนต์กินไปก่อน อาจจะช่วยได้บ้าง" "อือ... ได้ ๆ ชั้นอยู่ที่เรือนไม้นะทอม แกให้พนักงานเค้าพาแกมาที่เรือนไม้ ชั้นอยู่ในห้องอาร์เอ็มเอ" *********************************************************************************************** ฮอนด้าซิตี้สีแดง วิ่งบนถนนไฮเวย์ด้วยความเร็วหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง... ... โชเฟอร์กำลังใช้ความคิดเดาผลลัพธ์ของลูกดิ่ง หากเธอถามคำถามด้วยใจที่เป็นกลางจริง ๆ เธอเชื่อว่า ลูกดิ่งจะตอบว่า เธอควรรับงานนี้ แต่หากว่า เธอมีความเชื่อว่าลูกดิ่งจะตอบเช่นนี้ นั่นแสดงว่า ใจเธอกำลังไม่เป็นกลาง แล้วผลลัพธ์ก็อาจจะไม่เที่ยงตรง กลายเป็นว่า เธอได้คำตอบที่เข้าข้างตัวเอง แต่หากว่าใช้สติสัมปะชัญญะของตัวเธอเอง แล้วไม่ต้องถามลูกดิ่ง เธอก็ยังนึกเหตุผลใดมาคัดง้างไม่ได้ว่า ทำไมเธอจึงไม่ควรรับงานนี้ แต่... เมื่อคิดอีกที เพราะงานนี้ เป็นงานที่เธอได้มาเพราะการได้ลูกดิ่งลูกใหม่นี้เป็นที่ปรึกษา ฉะนั้น เธอมั่นใจว่า คำถามทุกคำถามที่เธอใช้มาตลอด และ กำลังจะใช้ต่อไป มีความเป็นกลางเพียงพอแล้ว บ่ายสี่โมง ทอมบังคับรถเข้าจอดที่ลานจอดรถของบางกอกซีดาร์ฟันปาร์ค สิบนาทีถัดมา รถคาร์ทนำสาวทอมมาถึงหน้าเรือนไม้ เธอรีบลงจากรถ แล้วก้าวขึ้นเรือนไม้ สาววัยรุ่นผิวขาว ใส่เสื้อแขนกุด กระโปรงสั้นเหนือเข่า กัดผมสีทองประปราย รูปร่างดี กำลังเดินออกจากห้องโถงใหญ่มาต้อนรับเธอ สาวที่เดินออกมาต้อนรับยกมือไหว้ก่อน "สวัสดีค่ะ พี่ทอมหรือเปล่าคะ ?" ทอมยกมือรับไหว้ "ใช่ค่ะ มาหาอาน้อยค่ะ" "ค่ะ อาน้อยไม่อยู่ค่ะ ออกไปแล้ว พาเพื่อนของพี่ไปรักษา ต้องไปถึงที่นั่นก่อนพระอาทิตย์ตกค่ะ" "หา ! รุ่งออกไปแล้วเหรอ ? เค้าฝากของไว้ให้หรือเปล่าคะ ?" "ค่ะ ฝากไว้ค่ะ เดี๋ยวเชิญพี่ทอมตามเข้ามาที่ห้องก่อนนะคะ" ทอมพยักหน้า เดินตามสาวรุ่นน้อง ทอมรู้สึกสะดุดตากับวิธีการแต่งหน้าของสาวคนนี้ อายไลเนอร์ที่ทำให้ตาดูเฉี่ยว ประกอบกับบรัชออนพาสเทลสีอ่อนที่แก้ม ช่างเข้ากับหน้าตาของเธอ ทอมเดินตามหลังได้กลิ่นน้ำหอมบาง ๆ ที่โชยมาจากตัวสาวที่เดินนำหน้า เธออดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองการแต่งกายของสาวคนนี้ แล้วเธอก็ยิ้มให้กับตัวเอง เด็กสาวคนนี้แต่งกายได้สวยงามถูกใจเธอ นาน ๆ เธอจะได้เจอผู้หญิงที่แต่งตัวได้อย่างมีศิลปะ ไม่รุ่มร่าม ไม่เฝือ แถมยังมีกลิ่นอายของความเซ็กซี่เจืออยู่ได้อย่างลงตัว สาวข้างหน้าเดินนำเธอเดินผ่านห้องโถงใหญ่มาจนสุด ประตูที่อยู่ข้างหน้ามีป้าย 'RMA' ติดอยู่ ประตูห้องถูกเปิดออกโดยสาวที่นำทาง ทอมเดินเข้าประตูไป ภาพที่เธอเห็นคือ ห้องที่เต็มไปด้วยตู้โชว์รูปภาพ และ ตู้เก็บหนังสือ มุมของห้องมีโซฟาสามสี่ตัว ริมผนังด้านตรงข้าม มีผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียง ชายคนนั้นค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นมานั่ง เขาพูดขึ้น "ญานั่นเอง" ทอมประหลาดใจที่ได้ยินเสียงชายคนนี้เอ่ยชื่อเธอ เธอรีบเดินเข้าไปใกล้ แล้วเธอก็คุ้นกับชายคนนี้ แต่ สภาพที่เธอเคยจำเขาได้ ไม่ใช่สภาพผู้ชายที่ผอมแห้งขนาดนี้ "เหล่าซือ ! ใช่เหล่าซือแอนดี้หรือเปล่าคะ ?" เธอทำหน้าประหลาดใจที่เห็นเขาที่นี่ ในสภาพอย่างนี้ ชายบนเตียงพยักหน้า สีหน้าเขาก็ประหลาดใจเหมือนกันที่ได้เห็นเธอ "ใช่ครับ ผมแอนดี้ ญาเป็นเพื่อนกับรุ่ง ?" "ค่ะ ญาเป็นเพื่อนกับรุ่ง" ทอมรู้สึกว่ารูปร่างของเขาดูซูบผอมไปกว่าเดิมเยอะมาก หากคะเนด้วยสายตา น้ำหนักคงลดไปไม่ต่ำกว่าสี่-ห้ากิโล "นี่น้องสาวผม ชื่อ หงส์" แอนดี้แนะนำสาวคนที่เดินออกไปรับเธอ เขาทวนความคิดในใจ 'ญา เป็น เพื่อนกับรุ่ง ! เหลือเชื่อจริง ๆ ! ' ... แล้วเขาก็ยิ้มออกมาได้ หงส์เดินเข้ามาหาเธอ แล้วแบมือยื่นมาให้ บนฝ่ามือของหงส์คือถุงใบเล็ก ๆ ที่เธอคุ้นตา "นี่ค่ะ เพื่อนพี่ฝากของไว้ให้" ทอมแบมือรับถุงจากหงส์ แล้วหยิบลูกดิ่งออกมาจากถุง รอยยิ้มเริ่มปรากฏเมื่อทอมได้สัมผัสลูกดิ่งอีกครั้ง เธอมองหน้าหงส์ "ขอบคุณค่ะ น้องหงส์รู้จักรุ่งเหรอคะ ? " หงส์สั่นหัว "เปล่าค่ะ ตอนที่หงส์มาถึง เพื่อนพี่ก็ไม่อยู่แล้ว เค้าฝากถุงนี้ไว้กับพี่แอนดี้ พี่คะ ขอถามได้มั้ยคะ ว่าอะไรอยู่ข้างในกรอบเหล็กนั่นคะ ?" ทอมยิ้ม เธอค่อย ๆ ใช้เล็บงัดขอบฝาเหล็กที่ปิดลูกดิ่ง เพื่อเปิดฝาลูกดิ่งออก แล้วเทของที่ถูกบรรจุอยู่ในนั้นออกมา หินสีน้ำเงินใส หล่นมาอยู่ในฝ่ามือของทอม
ทันทีที่หงส์น้อยเห็นหินในมือทอม เธออุทาน "เกล็ดพญานาค ! พี่คือนวล !" ทอมมองหน้าหงส์ เธอไม่เข้าใจว่าสาวน้อยคนนี้หมายถึงอะไร หงส์หันหน้าไปมองพี่ชาย แอนดี้ส่งรอยยิ้มให้น้องสาวด้วยหางตา พร้อมกับพยักหน้าช้า ๆ หงส์เข้าใจทันทีว่า พี่ใหญ่ของเธอ คงรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ คือ นวลที่เขาตามหา ภาพของแม่หญิงนวลแห่งโยนกนคร กลับเข้ามาในความคิดของแอนดี้ แม่หญิงที่งดงามด้วยรูปโฉม และ กิริยา ผิวพรรณนวลดั่งแสงจันทร์ แต่มีจิตใจที่แข็งแกร่ง และ เด็ดเดี่ยวไม่น้อยไปกว่าชาย บัดนี้ เธอคนเดียวกันนี้ ได้ยืนอยู่ต่อหน้าเขา ณ ปัจจุบัน
__________________________________________________________________________________________ โดย วีรยาติ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่
1. สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ 2. แสดงความคิดเห็น หรือ โหวต - ชอบตัวละคร ขอเชิญโหวตได้ที่นี่ - อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่ เชิญเยี่ยม Facebook หมอเถื่อน (ให้กำลังใจโดยเข้าไป แล้วกด Like หรือ เขียนคำวิจารณ์)
|
|||||||