| |||||||
| |||||||
รุ่งคิดตาม เขาพยักหน้า “มีสิ่งที่เราต้องเอาชนะอยู่สิ่งเดียว ยอมแพ้ไม่ได้ คือ กิเลส นอกนั้น ยอมได้หมด ไม่จัดว่าแพ้อะไรทั้งนั้น มันไม่มีการแพ้ชนะอะไรในโลกนี้ตามแบบที่คนทั่วไปมองกัน คนเราทุกวัน ต้องต่อสู้กับกิเลสของตัวเอง เรื่องอื่น ๆ ยอมให้ได้หมด เรื่องที่ยอมไม่ได้คือ ปล่อยให้กิเลสชนะเรา ปล่อยให้ความยึดมั่นเอาชนะเรา แล้วมันก็ชนะเรามาตลอด…” รุ่งพูดขึ้น สหายอาวุโสมองหน้า แล้วตบโต๊ะเบา ๆ รุ่งอมยิ้ม เขาพยักหน้ายอมรับคำแนะนำของสหายเก่า ********************************************************************************************* ทอมกับคุณพ่ออยู่ในห้องครัว... “รุ่งนี่เก่งนะ ความสามารถรอบด้านจริง ๆ ป้าเล่าให้ฟังว่า เค้าเก่งภาษาอังกฤษ เล่นดนตรีเป็น ทำอาหารเป็น แล้วก็พูดจาดี มีสัมมาคารวะ” ทอมพยักหน้ารับฟัง ใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจเธอยิ้มกว้าง จนอยากจะแสดงออกมาทางสีหน้า “ก็… จริง ๆ ก็อยู่ห้องเดียวกันค่ะ ถ้าไปกันกลุ่มใหญ่ก็ไปกันหมด ถือว่าสนิทพอ ๆ กันค่ะ” “แต่พ่อสังเกต รู้สึกว่าญาจะไม่ค่อยสนิทกับเค้า” ลูกสาวเอียงหัว “ก็ถ้าสนิทกัน ญาก็น่าจะรู้ว่าเค้ามาหาที่บ้าน ญาก็คงรอเจอเค้า แต่นี่ญากลับหลบออกไปข้างนอก แล้วให้แม่มารับหน้าแทน แล้วตอนญาเดินเข้ามาในบ้าน พอเจอเค้าอยู่ในห้องครัว สีหน้าเราบอกเลยว่าไม่ได้ดีใจ พ่อรู้นะ” ทอมพยักหน้ารับฟัง คุณพ่อพยักหน้า ลูกสาวยิ้ม แล้วพยักหน้า เธอเตรียมน้ำสมุนไพรเสร็จเรียบร้อย กำลังยกถาดน้ำจะเดินออกไป คุณพ่อพูดขึ้น เธอชะงัก ขมวดคิ้ว คุณพ่อได้ยินน้ำเสียง ก็เข้าใจว่าลูกสาวคงไม่พอใจ ทอมวางถาดน้ำบนเคาน์เตอร์ “เค้าไม่ได้บอกพ่อหรอก เค้าแค่บอกว่าเค้าจะไปหัวหิน มีเพื่อน ๆ ไปรออยู่แล้ว แค่นี้พ่อก็พอเดาอะไรได้ อุตส่าห์มาถึงที่บ้านเลย อย่างนี้เขาเรียกดับเครื่องชน พ่อเคยเป็นหนุ่มมาก่อน เราน่ะ ถึงไม่ได้ชอบเค้า แต่ก็ไม่ได้ถึงกับเกลียดเค้าใช่มั้ยล่ะ ?” ทอมขำในใจ เมื่อนึกว่าขณะนี้คุณพ่อกำลังเข้าข้างเพื่อนตัวแสบจนออกนอกหน้า เธอหันกลับไปหยิบถาดน้ำ แล้วเดินออกมาจากห้องครัว แล้วเธอก็จำได้ว่าวิทย์ได้ชวนเธอ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ********************************************************************************************* ทั้งห้าเริ่มทานอาหาร รสชาติข้าวผัดกระเทียมของรุ่งเป็นที่ถูกปากของทุกคน มีเพียงแต่ทอมเท่านั้น ที่ไม่เอ่ยปากชม ทอมไม่เคยได้เห็นบุคลิกด้านนี้ของคุณป้ามาก่อน เธอเคยเห็นแต่ภาพหญิงที่มีกฏระเบียบ เข้มงวด และ ชอบเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของคนอื่น แต่ปฏิสัมพันธ์ของคุณป้าที่มีต่อเพื่อนเธอ มันช่างตรงกันข้ามกับญาติผู้ใหญ่ที่เธอเคยรู้จัก รุ่งกับคุณป้าแย่งกันเล่าถึงเหตุการณ์เก่า ๆ สมัยที่ต้องรับแขกนักกีฬาเทนนิส ไม่น่าเชื่อว่าคุณป้าคุยกับรุ่งเหมือนกับอยู่ในวัยใกล้เคียงกัน เสียงคุณป้าคุยไปหัวเราะไปเหมือนกับสาวรุ่น ทุกคนหันหน้าไปทางรุ่ง เขายิ้มมุมปาก พยักหน้าว่าจำได้ รับหน้าที่เล่าต่อ สีหน้าเขาดูจริงจัง หากย้อนเวลากลับไปได้ ความรู้ที่เขามีอยู่ในวันนี้ คงช่วยเธอได้ คุณพ่อถามขึ้น “รู้เยอะครับ เรื่องแรกคือ เรื่องเวลา เวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ สำหรับนักกีฬาที่ต้องเข้ารายการแข่งขัน ที่เขาจ้างผมก็เพื่อให้ผมช่วยคุมเวลาด้วย โค้ชคนเดียวเอาไม่อยู่ เพราะโค้ชหนึ่งคน ต้องดูแลนักกีฬาสองสามคน ตารางประจำวันต้องเป๊ะ ๆ ครับ ฝรั่งเขามีมาตรฐานเรื่องเวลาสูง สูงจนผมสงสารนักกีฬา…” เขาพูดแล้วก็หยุดเงียบ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้น “ไม่ต้องอินมาก พาราเซตบอย” สหายเก่ากระเซ้า รุ่งหันไปมองหน้า “เหอ ๆ… นึกทีไรก็อดไม่ได้…” เขาถอนหายใจ แล้วพูดต่อ ทุกคนพยักหน้าเห็นภาพ “สวรรค์ที่สอง คือ วันที่ฝนตก วันไหนฝนตกไม่ต้องซ้อม” คุณแม่พูดขึ้น ทอมถามขึ้น รุ่งมองหน้าเพื่อน คุณพ่อเข้าใจว่า กำลังเกิดการประลองฝีปากระหว่างลูกสาวกับแขก จึงห้ามทัพ คุณป้าหัวเราะ รุ่งยักคิ้วให้ทอม แล้วยื่นขาไปเตะหน้าแข้งเธอ ‘โป๊ก’ “โอ๊ย..” ทอมก้มลงคลำหน้าแข้ง แล้วลุกขึ้นพรวด “อ้ายนี่ หาเรื่องหรือไง ?” คุณพ่อตกใจ “อะไรกัน ? แค่เพื่อนยักคิ้วให้ เอ้า…ยืนทำไม ? นั่งลง นั่งลง” ลูกสาวนั่งลง แล้วทำปากหมุบหมิบ รุ่งหัวเราะหึ ๆ แล้วยื่นหน้าไปทางคุณพ่อ เขาพูดเบา ๆ ทอมยกมือชี้หน้า “แกระวัง อย่าเผลอแล้วกัน” ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน คุณป้าเดินมาหาทอมที่ห้องรับแขก สองสาวป้าหลาน เดินขึ้นชั้นบน ********************************************************************************************* เธอมองไปรอบ ๆ ห้องหลานสาว ทอมรู้สึกประหม่าเมื่อต้องมาคุยกับคุณป้าสองต่อสอง คุณป้ามองหน้าหลานสาว แล้วยิ้ม คำนี้ทำให้หลานสาวยิ้ม ลดความประหม่าไปได้ คุณป้าพยักหน้า เธอรู้ทันทีว่ารุ่งคงเล่าอะไรให้คุณป้าฟัง คุณป้าหัวเราะ ทอมพยักหน้ารับฟัง “แต่จะบอกญาว่า ต่อไปนี้ ขอให้ญาถามเรื่องที่สงสัยกับป้า หากเกี่ยวกับตัวป้า อย่าเก็บอะไรไปคิดเอาเอง ไม่ว่าใครจะสร้างภาพป้าว่าเป็นแบบไหน เราเองโตพอที่จะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ป้าจะเล่าอะไรให้ฟัง…” เธอเอื้อมมือมาแตะแขนหลานสาว ทอมพยักหน้าทันที “อื้อ… เรารู้ว่าป้ารักพ่อของเรา ป้ารักแม่เรามาก แม่เราน่ะเป็นผู้หญิงที่หายาก อดทน แกร่ง แม่จะเป็นคนปรับสมดุลในบ้านได้ พ่อเราน่ะเขาเป็นลูกคนสุดท้อง จิตใจดี อ่อนโยน บางครั้งตัดสินใจไม่เด็ดขาด ตั้งแต่เล็ก มีอะไรก็ปรึกษาป้ามาตลอด ป้าก็รู้ว่านั่นคือบุคลิกของเค้า เวลามีเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ คุณพ่อก็จะตื่นกลัวไปมากกว่าเหตุ แต่ถ้ามาให้ป้าจัดการ ป้าฟันได้ชั๊วะ ๆ ป้ากล้าตัดสินใจ ผิดก็ผิด ป้าไม่กลัว แต่พ่อเราน่ะไม่กล้าทำผิดพลาด กลัวความผิดพลาด ญาพอนึกออกใช่มั้ย ? อยู่กับพ่อมาจนโตขนาดนี้ คงพอมองออก” ทอมพยักหน้า คุณป้าพูดตรงทุกอย่าง “นิสัยความขี้กลัว ขี้ตกใจของพ่อเรานี่ ป้าพยายามแก้มาตลอด ก็ดีขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่อง เรื่องไหนพ่อเราคิดว่าสำคัญเกินกว่าจะคิดเอง ก็มาให้ป้าช่วยตัดสินใจให้ แล้วญาก็เป็นลูกสาวคนเดียว สำคัญสำหรับพ่อมาก ป้ายินดีให้คำแนะนำ บางครั้งก็รู้ว่าพ่อเราเอาคำแนะนำป้าไปอ้างบ้าง เพื่อจะทำให้คำพูดมีน้ำหนัก แต่การนำเรื่องของญามาปรึกษาป้า ป้าก็จะให้คำแนะนำตามที่เล่ามา เพราะตัวญาเองไม่ได้อยู่ด้วย พ่อเราเล่าอะไรมา ป้าก็ตัดสินใจจากคำบอกเล่า ฉะนั้นหลาย ๆ อย่าง พอพ่อเรากลับมาบอกที่บ้านว่าเป็นคำแนะนำป้า แต่คำแนะนำมันไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างนี้ป้าก็เสร็จน่ะสิ กลายเป็นคนที่มาทำให้ครอบครัวเค้ายุ่งเหยิง เหตุการณ์ทั้งหมด ป้าก็ต้องตำหนิพ่อเรา ที่ขี้ขลาดเกินกว่าจะตัดสินด้วยตนเอง เกินกว่าจะเชื่อใจคนในบ้าน ไม่กล้าเสี่ยง กลัวว่าคนที่รักจะทำพลาด..” ทอมเริ่มเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น “… นั่นเป็นเรื่องของป้าที่จะค่อย ๆ คุยกับพ่อเราเอง ป้าตำหนิพ่อเราได้ เพราะป้าเป็นพี่ แต่ญาเอง ต้องเข้าใจพ่อ พ่อเป็นคนที่รักเรามาก ญาจะตำหนิพ่อไม่ได้ เพราะญาเป็นลูก มันจะเป็นบาปติดตัว ปล่อยให้ป้าคุยกับพ่อเอง” ทอมพยักหน้า “อย่าไปว่ารุ่งเค้าเลย เค้าสนิทกับป้า เราเคยสนิทกัน เราก็เลยคุยเหมือนกับจะเป็นเพื่อนกัน ทั้ง ๆที่อายุห่างกัน เค้าเล่าให้ป้าฟัง เพราะรุ่งรู้จักป้าดีว่า ป้าไม่ใช่คนแบบนั้นเลย รุ่งเข้าใจป้ามากกว่าญาแน่นอน เพราะญาเห็นป้าแต่ที่บ้าน ญาไม่ได้เคยมาทำงานร่วมกันเคียงบ่าเคียงไหล่ เหมือนกับรุ่ง ฉะนั้นที่รุ่งทำนั้นถูกแล้ว รุ่งเล่าเรื่องลูกดิ่งกับมโนมยิทธิให้ฟัง..” ทอมเหลือกตา “…ไม่ต้องกลัว ป้าเข้าใจ ต่อภาพติดทั้งหมด พ่อมาเล่าให้ป้าฟัง ด้วยข้อมูลที่คิดไปเอง มาเล่าให้ป้าฟังว่าญาไปมัวเมากับการใช้ลูกดิ่งติดต่อผีสางเทวดา จนวัน ๆ ไม่ทำอะไร กลัวว่าจะกลายเป็นลัทธิประหลาดที่เข้าไปแล้ว เสียคน กลับตัวไม่ได้ ขอคำปรึกษาว่าอยากให้กลับมาสู่หนทางที่ถูกต้อง ป้าจะแนะนำยังไง ถ้าถามอย่างนี้ ป้าก็ตอบไปอย่างนั้น แต่ฟังจากที่รุ่งเล่า มันไม่ใช่แบบนั้น จะบอกให้ว่า รุ่งกับพ่อเราน่ะ ป้าเชื่อใจในการตัดสินใจของรุ่งมากกว่า เพราะเคยทำงานด้วยกัน รุ่งผ่านการตัดสินใจอะไรยาก ๆ มาแล้ว ตอนนั้นอายุแค่ยี่สิบ แต่งานที่รุ่งรับผิดชอบ แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ยังทำไม่ได้ รุ่งผ่านมาแล้ว แต่พ่อเราน่ะ อยู่กับตัวเลขมาตลอด เรื่องที่ต้องอาศัยความเด็ดขาดกลับเป็นแม่เราซะมากกว่าที่ตัดสินใจได้ ถ้ารุ่งบอกว่าเขาศึกษาเรียนรู้แล้ว ว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ป้าก็มั่นใจ” รอยยิ้มปรากฏบนสีหน้าหลานสาว “เราอายุเท่าไหร่แล้ว ปีนี้ ?” “ยี่สิบหกค่ะ” “รู้มั้ยตอนป้าอายุแค่สิบหกก็มีแฟนแล้ว อายุยี่สิบกว่าก็หนีที่บ้านไปเที่ยวต่างประเทศไม่บอกใคร ป้าชอบภาษาอังกฤษ พอเรียนจบมหาวิทยาลัย ป้าก็มีแฟนเป็นฝรั่ง ที่บ้านแอนตี้ เรื่องราวใหญ่โต…” หลานสาวหัวเราะ หากไม่ได้ยินกับหูตัวเอง คงไม่เชื่อ คุณป้าชี้มือมาที่ตัวเอง คุณป้าจับแขนทอมอีกครั้ง ทอมพยักหน้า “ฉะนั้น เราจะเรียนมโนมยิทธิ หรือ ความจริง เราจะนับถือศาสนาไหน เราเลือกเองได้ ถ้าคิดดีแล้ว ทำไปเถอะ กล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนพ่อเรา ชีวิตไม่ต้องไปไหน ทั้งเรื่องลูกดิ่งกับมโนมยิทธิ เดี๋ยวป้าจัดการคุยกับพ่อเอง” “ค่ะ” หลานสาวฉีกยิ้มได้เต็มแก้ม “ป้าแค่ขอให้เราเข้าใจพ่อ ถึงแม้พ่อจะมีข้อเสีย แต่สำหรับญา พ่อทุ่มเททุกอย่างเพื่อญา พ่อเราเป็นพ่อที่ดีมากคนหนึ่งที่ป้ารู้จัก เข้าใจแค่นี้ แล้วเรื่องอื่น อภัยให้ท่าน บาปจะได้พ้นตัวเรา” ทอมพยักหน้าอีกครั้ง เธอค่อย ๆ กราบลงที่ตักของคุณป้า คุณป้ายกมือขึ้นลูบหัว หลานสาวเงยหน้าขึ้นมาพร้อมน้ำตา คุณป้าค่อย ๆ ใช้นิ้วปาดน้ำตาบนแก้มเธอ ********************************************************************************************* รุ่งยืนลาคุณพ่อคุณแม่ทอม และ สหายเก่าที่หน้าประตูรั้ว เขาชะเง้อมองหาเพื่อน “ญาไม่ลงมาซะที ฝากลาเค้าด้วยนะครับ ผมต้องไปก่อน เดี๋ยวไปถึงหัวหินจะดึก” แขกหนุ่มยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสามท่าน สหายต่างวัยอ้าแขนรับ รุ่งเดินเข้าไปกอด “น้าเนตร ไว้ผมจะโทรไปหา แล้วนัดเจอคนเก่า ๆ ที่โฮสเทลนะครับ” เธอพยักหน้า ยกมือขึ้นลูบหัวรุ่ง “เอ่อ… ตอนไหนครับ ?” “ตอนที่ไม่มีความมั่นใจไง” เขาขมวดคิ้ว แล้วก็คิดได้ เขาพยักหน้าทันทีด้วยความเข้าใจ ********************************************************************************************* รถแท๊กซี่ไม่มีผู้โดยสารสีเหลืองเขียว กำลังวิ่งมาแต่ไกล เขาโบกมือ เสียงแตรรถยนต์ดังขึ้น… รถฮอนด้าซิตี้สีแดงวิ่งมาเทียบที่ทางเท้าข้างหน้าเขา รุ่งก้มลงมอง โชเฟอร์กวักมือให้เปิดประตูขึ้นรถ “แกจะไปส่งชั้นเหรอ ?” ทอมยกมือขึ้นตบหัวรุ่งอย่างแรง รุ่งยกมือคลำหัว แล้วบ่น ทอมออกรถ “อือ… น้าเนตรเป็นคนที่พนักงานทุกคนในโฮสเทลรัก ชั้นก็รัก” “แล้วเรื่องนาฬิกา ?” เธอถามห้วน ๆ รุ่งมองหน้าเพื่อน เขาไม่เข้าใจว่าทอมอารมณ์เสียอะไรถึงมีน้ำเสียงอย่างนั้น เขาตวาดกลับ “แกตอบชั้นมาก่อน ว่าแกหายไปไหน ? ทำไมชั้นโทรไปหลายครั้ง แล้วแกไม่โทรกลับ ?” ทอมขับรถเข้าด่านทางด่วนพิเศษ รุ่งโวยวาย โชเฟอร์ไม่ตอบ รุ่งเอะใจ หันหลังไปมองที่เบาะหลัง มีกระเป๋าเสื้อผ้าอีกใบวางอยู่ที่เบาะหลัง เขาก็เข้าใจทันที “เชอะ เด๋วนี้ทำฟอร์มเข้ม” แล้วเขาก็ปรับเบาะเอนนอน ********************************************************************************************* ...รุ่งนอนหลับตา แต่ในใจนึกถึงอดีตที่โฮสเทล วัยที่เขามีความมั่นใจในทุก ๆ อย่าง ในทุก ๆ วัน คำพูดของน้าสายเนตรประทับอยู่ในใจเขาตลอดทาง ...ทอมนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด คำพูดของคุณป้าซาบซึ้งกินใจเกินกว่าคำว่า ‘ขอบคุณ’จะแทนได้ วันนี้ เพื่อนรัก และ คุณป้า ซึ่งไม่น่าจะมาพบเจอกันได้ กลับมาดับความร้าวฉานของเธอกับคุณพ่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือ เป็นบารมีของหลวงพ่อ ? รุ่งเป็นคนนำเธอให้รู้จักหลวงพ่อ หรือ หลวงพ่อเป็นคนนำเธอให้รู้จักรุ่ง ? ทอมหยุดรถที่ข้างทาง มืด และ เปลี่ยว รุ่งลืมตา เงยหน้าขึ้นมอง ทอมดับเครื่องเปิดประตู ลงจากรถ แล้วเดินไปท้ายรถ รุ่งตกใจ รีบลุกขึ้น เขารีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งไปที่ท้ายรถ เพื่อนสาวกำลังยืนหันหลังก้มหน้า รุ่งใจหาย ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับเพื่อนแน่นอน เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ “ทอม แกเป็นอะไร ?” ทอมหันหลังกลับมาอย่างเร็ว แล้วเดินโผเข้ามากอดเขา หัวซบที่บ่าเขา เร็วจนเขาตั้งตัวไม่ทัน เพียงแค่อึดใจที่รุ่งเรียกสติกลับมา ก็ได้ยินเสียงร่ำไห้กระซิก ๆ มาจากเพื่อนที่กำลังซบบ่าเขา เขาพอจะเดาคร่าว ๆ ว่า เพื่อนคงเพิ่งผ่านเวลาที่ยากลำบากมา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุใด แต่เขาก็รู้ทันทีว่าเพื่อนต้องการอะไร รุ่งยกมือขึ้นลูบหัว แล้วพูดเบา ๆ เพื่อนยังสะอึกอีกสักพัก รุ่งปล่อยเวลาให้ค่อย ๆ เดินผ่าน ค่อย ๆ ลูบหัวเพื่อนอย่างช้า ๆ เสียงอู้อี้ดังมาจากปากทอม รุ่งหัวเราะ “ได้ ได้ หยุดแล้ว” เขาหยุดลูบหัว ทอมค่อย ๆ ผละหัวจากบ่าเขา เธอพูดโดยไม่มองหน้าเพื่อน เธอพูดจบแล้ว ก็เดินผละตรงมาที่รถ เปิดประตูขึ้นไปนั่ง แล้วสตาร์ทเครื่อง รุ่งยังยืนงงอยู่ที่เดิม เขาเกาหัว เขาค่อย ๆ เดินบ่นพึมพำกลับไปที่รถ __________________________________________________________________________________________ โดย วีรยาติ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก เปิดให้จองแล้ว กดที่นี่
1. สมัครสมาชิก เว๊บบอร์ดที่นี่ (หากไม่สมัครสมาชิก จะโหวต หรือ แสดงความคิดเห็นไม่ได้) และ 2. แสดงความคิดเห็น หรือ โหวต - ชอบตัวละคร ขอเชิญโหวตได้ที่นี่ - อ่าน หรือ แสดงความคิดเห็นที่นี่ เชิญเยี่ยม Facebook หมอเถื่อน (ให้กำลังใจโดยเข้าไป แล้วกด Like หรือ เขียนคำวิจารณ์)
|
|||||||