ตอน 3

แม่หมอปัญหาหัวใจ

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

หญ้าที่ขึ้นรกไร้ระเบียบบนสนามหน้าบ้าน ทำให้เธอต้องสั่นหัว

ถึงจะเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่งานบ้านง่าย ๆ แบบนี้ ไม่ได้ถือว่าหนักหนาสาหัสอะไรสำหรับเธอ เพียงแต่คงต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวันกว่าจะจัดการสนามหญ้าหน้าบ้านให้ดูเป็นระเบียบ พร้อมที่จะต้อนรับแขกคนสำคัญที่ท่านแม่บอกล่วงหน้าว่า จะมาเยือนภายในสองสามวันนี้

ตัดหญ้าเพียงครึ่งวันก็จริง แต่คำนวณแล้ว คงต้องใช้เวลาอีกครึ่งวันเพื่อพักให้หายเมื่อยล้า เธอยังจำได้ครั้งที่แล้วที่เธอจัดการตัดหญ้าด้วยตัวเอง ความเมื่อยล้ายังตามติดหลังจากนั้นไปอีกสองสามวัน

ชุดนังแจ๋วที่ใส่อยู่ ณ ตอนสายเช่นนี้... เสื้อยืดเก่าสีส้มซีด ๆ กางเกงวอร์มขายาว... พร้อมแล้วสำหรับงานสวนเล็ก ๆ

หวังว่ากรรไกรตัดหญ้าอันเดิม คงไม่ขึ้นสนิมไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้น บ่ายนี้กล้ามแขนเธอคงจะปูดออกมาเป็นมัด ๆ แน่นอน

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

เลขหมายที่ขึ้นบนหน้าจอ ไม่อยู่ในหน่วยความจำของโทรศัพท์ เธอกดรับสาย

"สวัสดีค่ะ !"

"ยิ้มเหรอ ? นี่กาญจน์นะ จำได้หรือเปล่า ?"

เสียงของเพื่อนเป็นที่คุ้นหู เธอยังจำเสียงเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้ เพราะเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมานี้ก็เพิ่งได้พบปะกัน

"กาญจน์ จำได้จ๊ะ ! ว่ายังไง ? กาญจน์เปลี่ยนเบอร์ใหม่เหรอจ๊ะ ? เครื่องยิ้มไม่เห็นขึ้นชื่อกาญจน์เลย"

"เหรอ ? ใช่มั้ง ? สงสัยลืมส่งข้อความบอกยิ้ม"

"จ้ะ ! ไม่เป็นไร เดี๋ยวยิ้มจะได้เมมไว้ว่านี่เป็นเบอร์ของกาญจน์ กาญจน์เป็นยังไงบ้าง ? สบายดีหรือเปล่า ? ยังไม่ได้ขอบคุณกาญจน์เลยที่อุตส่าห์ไปร่วมงานศพแม่ยิ้ม วันนั้นพอพระสวดเสร็จ มองหากาญจน์ ฝนบอกว่ากาญจน์กลับไปแล้ว"

เสียงปลายทางหัวเราะ

"อ๋อ ! ใช่ ๆ วันนั้นมีธุระต่ออีก งานยุ่งมาก เอ่อ...แล้วตอนนี้ยิ้มว่างอยู่หรือเปล่า ?

"ได้จ้ะ ! กำลังจะตัดหญ้า แต่คุยได้ คุยเสร็จค่อยตัดก็ได้ กาญจน์มีเรื่องอะไรเหรอ ?"

เพื่อนเก่ายิงตรงประเด็นทันที

"ยิ้ม ! กาญจน์ได้ยินจากหญิงว่า ยิ้มนั่งทางในช่วยคนได้ จริงหรือเปล่า ?"

ยิ้มไม่แปลกใจที่ข่าวเรื่องของเธอเริ่มแพร่กระจายไป เพราะท่านแม่ได้บอกล่วงหน้าไว้แล้วว่า เมื่อเสร็จภารกิจในการดูแลมารดาบังเกิดเกล้า เธอเอง จะต้องมีภาระในการช่วยเหลือผู้คน และ เธอจำเป็นต้องทำอย่างเปิดเผย ไม่มีอะไรจำเป็นต้องปิดบังใครอีกต่อไป

จิตที่มีสมาธิเพียงขณิกะ ตั้งคำถามกับเทวดาผู้อุปถัมภ์เธอว่า เธอสามารถสงเคราะห์เพื่อนผู้นี้ได้หรือไม่ ?

เธอได้รับคำตอบจากท่านแม่ในเพียงชั่วเสี้ยววินาที

"กาญจน์มีปัญหาอะไรเหรอจ๊ะ ? ถ้ากาญจน์เชื่อใจยิ้ม อยากให้ยิ้มช่วย ยิ้มยินดีช่วยได้"

เพื่อนอุทานกลับด้วยเสียงดัง

"เยส ! ช่วยเลย ยิ้ม ! ยิ้มช่วยเราเลย ยิ้มบ้านอยู่ที่ไหน ? เดี๋ยวเราไปหายิ้มนะ ตอนนี้ยิ้มว่างหรือเปล่า ? เราจะไปหายิ้มทันทีเลย ได้มั้ย ?"

เสียงตื่นเต้น ละล่ำละลัก แสดงถึง เพื่อนคนนี้คงมีเรื่องร้อนอกร้อนใจไม่น้อย

ยิ้มหัวเราะเบา ๆ

"ใจเย็น ๆ กาญจน์ ! เรื่องด่วนเลยเหรอ ? ค่อย ๆ เล่ามาก่อนก็ได้"

กาญจน์หัวเราะตัวเอง

"เหอ ๆ.... จะว่าด่วนมันก็ไม่ด่วนเท่าไหร่ แต่ใจมันทนไม่ไหว แต่เล่าตอนนี้ก็เริ่มจะอายเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหรอกยิ้ม แต่มันทำให้กาญจน์วุ่นวายใจ ขึ้น ๆ ลง ๆ งง ๆ กาญจน์ไปถึงบ้านยิ้มแล้วค่อยเล่าได้หรือเปล่า ?"

เมื่อได้ยินว่า ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ยิ้มก็ผ่อนลมหายใจได้ยาวขึ้น

"โอเค ! ได้ ๆ เดี๋ยวยิ้มบอกทางให้...."

เจ้าบ้านบอกทางให้กับแขกเสร็จแล้ว กดสายตัดการสื่อสาร หันกลับมามองสนามหญ้า

วันนี้การตัดหญ้าถูกขัดจังหวะโดยเพื่อนเก่าที่มีเรื่องร้อนใจ ไม่ใช่ฤกษ์ดีสำหรับการตัดหญ้าเสียแล้ว หากจะตัดตอนบ่ายแก่ที่แดดร่มลมตกไปแล้ว ก็คงเสร็จไม่ทันมืดอยู่ดี

ผลัดวันไปเป็นวันพรุ่งนี้ คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

****************************************************************************************** \

ยิ้มอยู่ในชุดเสื้อยืดคอปกสีขาว กางเกงสี่ส่วนสีเทา กำลังนั่งรอต้อนรับแขกคนแรก และ คนเดียวของวันนี้

เสียงรถยนต์แล่นมาจอดเทียบที่รั้วหน้าบ้าน ตามมาด้วยเสียงปิดประตู

เจ้าของบ้านลุกขึ้นเดินไปชะเง้อที่หน้าประตู

เพื่อนสาวสมัยมหาวิทยาลัย อยู่ในชุดเดรสลำลองสีดำ เดินหิ้วกระเป๋าถือกำลังยกมือจะกดกริ่งหน้าประตูรั้ว

เสียงสาวเจ้าบ้านตะโกน

"ไม่ต้องกดออด กาญจน์ ! เปิดประตูเข้ามาได้เลยจ้ะ !"

เพื่อนสาวรูปร่างโปร่ง ผิวขาว หน้าตาจัดอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกได้ว่าสวย เปิดประตูรั้วเข้ามา

สนามหญ้าที่มีหญ้าขึ้นค่อนข้างสูงในระดับเกือบถึงหัวเข่า เป็นที่เตะตาแขก

เจ้าบ้านสาวยืนรออยู่ที่ชานหน้าประตูบ้าน หัวเราะให้กับสายตาของเพื่อน

"อย่าไปใส่ใจมันเลยจ้ะ กาญจน์ ! หลายเดือนแล้ว ไม่ได้ตัดมัน หรือ กาญจน์จะมาช่วยยิ้มตัดหญ้าวันนี้ ใส่ชุดนี้ตัดหญ้า...ท่าจะคล่องดี"

กาญจน์ก้มลงมองชุดเดรสของตัวเอง

"เปลี่ยนได้ ยิ้มมีชุดให้กาญจน์เปลี่ยนมั้ยล่ะ ? เดี๋ยวช่วยตัดหญ้าให้"

แขกเดินเข้าไปถึงตัวของเจ้าบ้าน ยิ้มยื่นมือไปจับข้อมือเพื่อนมากุม

"ล้อเล่นจ้ะ กาญจน์ ! ใครจะใจร้ายมาให้เพื่อนช่วยตัดหญ้า มา... เข้ามาในบ้านเถอะ"

ห้องรับแขกขนาดกะทัดรัด กับโซฟารับแขกชุดเล็ก เป็นที่ต้อนรับแขกตามปกติของเจ้าบ้าน

ตั้งแต่คุณแม่ของยิ้มได้จากไปตั้งแต่หกเดือนที่แล้ว เธอก็เริ่มใช้บ้านหลังนี้ เป็นที่รับแขกที่มาติดต่อให้เธอช่วยเหลือ ซึ่งมีจำนวนประปราย เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 ราย เท่านั้น แต่ก็ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ไม่เคยมีสัปดาห์ไหนที่เธอรับช่วยเหลือคนน้อยกว่า 3 ราย

น้ำเย็นถูกเสิร์ฟให้ผู้มาเยือนโดยเจ้าบ้าน

เพื่อนมหาวิทยาลัยสองคน นั่งบนเก้าอี้โซฟาติดกัน เริ่มสนทนาเข้าประเด็น

"ว่าไงจ๊ะ ? กาญจน์มีเรื่องอะไรให้ยิ้มช่วย ?"

รอยยิ้มแบบปนเขิน ผุดออกมาจากมุมปากของเพื่อน

"คือยังงี้ยิ้ม ปัญหาที่มันคาใจของกาญจน์ มันไม่เชิงว่าทำให้เดือดร้อน แต่... คือ มันคาใจ อยากจะรู้ผล แต่ไม่รู้จะถามใคร..."

เพื่อนแสดงท่าทีอึกอัก เหมือนกับจะเริ่มชักแม่น้ำมานำ

ยิ้มตั้งสติถามท่านแม่ทันที ดีกว่าจะรอฟังแม่น้ำหลายสายจากเพื่อน

"... ธรรมดากาญจน์จะคุยกับเพื่อน แต่เรื่องนี้ กาญจน์เองก็ไม่สะดวกที่จะ..."

ยิ้มสวนด้วยคำถาม โดยไม่รอให้เพื่อนจบประโยค

"ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หรือ ผู้ชายที่เตี้ยกว่านิดนึง แต่ผิวคล้ำ คนไหนแน่ ที่ทำให้กาญจน์มาหายิ้มในวันนี้ ?"

เงียบ...! กาญจน์กลับถลึงตาโต แล้วจับข้อมือของเพื่อน

"ยิ้ม ! ยิ้มเห็นภาพเลยเหรอ ?"

แม่หมอสั่นหัว

"เปล่าจ้ะ ! แต่ได้ยินเสียง ท่านบอกมาว่าให้กาญจน์เข้าเรื่องได้เลย กาญจน์มีปัญหาหัวใจใช่มั้ยจ๊ะ ?"

เพื่อนยังเขย่าข้อมือของแม่หมอ

"โห... ! ขนลุกเลย ! ตรงเป๊ะเลย ใช่ ๆ ผู้ชายทั้งสองคน บุคลิกตรงเป๊ะเลย แต่ คนที่กาญจน์ต้องการรู้เรื่อง คือ คนที่สูงขาว ส่วนอีกคนนึงที่ผิวคล้ำ กาญจน์รู้ว่าเค้าชอบกาญจน์ แต่กาญจน์ไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเลย"

"ส่วนคนที่สูงขาว กาญจน์คิดกับเค้า แค่เค้าไม่คิดกับกาญจน์ ?"

แขกสาวจ้องหน้าแม่หมอ

"เหรอ ? เค้าไม่ได้คิดกับกาญจน์เหรอ ยิ้ม ?"

ยิ้มหัวเราะ

"ไม่ใช่ ไม่ใช่จ้ะ ! ที่เราพูด หมายถึง เราถามกาญจน์ เรากำลังถามกาญจน์ว่า คนที่ขาวสูงนั้น กาญจน์กำลังสงสัยว่าเค้าไม่ได้ชอบกาญจน์ใช่มั้ย ?"

กาญจน์ยกมือขึ้นทาบอก

"เฮ้อ ! โล่งอกไป นึกว่ายิ้มรู้แล้วว่าเค้าไม่ชอบกาญจน์

เปล่านะ ! กาญจน์ไม่ได้อยากรู้ตอนนี้หรอกว่าเค้าชอบกาญจน์หรือเปล่า เพราะกาญจน์มั่นใจว่า เค้าไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ากาญจน์ชอบเค้า"

ยิ้มพยักหน้ารับฟัง

"ไปเจอกันอีท่าไหนน่ะ กาญจน์ถึงไปแอบชอบเค้า ?"

พอพูดถึงคนที่ตัวเองชอบ ใบหน้าของกาญจน์มีเลือดฝาดวิ่งพล่านทันที

"ไม่ได้แอบเลย ชอบเป้ง ๆ เลย แต่ ไม่ได้บอกให้เค้ารู้ สถานการณ์ไม่อำนวย เพราะ มันมีข้อมูลที่กาญจน์อยากรู้ก่อน จะได้ทำตัวถูก"

"โอเค ! ว่ามาเลย อยากรู้อะไร ?"

สาวที่กำลังคับอก เริ่มเล่าเรื่องราวให้แม่หมอฟัง

"ปีที่แล้ว กาญจน์มีโอกาสเจอเพื่อนเก่าเป็นกลุ่ม ในงานงานนึง ในงานนั้นเพื่อนกาญจน์คนนึงที่ก็เรียกได้ว่าสนิทพอสมควร สมมุติว่าเธอชื่อวอแหวนแล้วกันนะ"

ยิ้มหัวเราะที่เพื่อนต้องการปิดความลับถึงขนาดใช้ชื่อย่อ

กาญจน์เล่าต่อ

"วอแหวน เป็นเพื่อนของกาญจน์ เคยเรียนห้องเดียวกัน วันนั้น วอ ได้แนะนำให้กาญจน์รู้จักกับเพื่อนผู้ชายอีกห้องนึง ชื่อกอไก่แล้วกัน"

ยิ้มหัวเราะอีกครั้ง เมื่อได้ยินชื่อย่อของตัวละครอีกตัว

กาญจน์เล่าต่อ

"นายกอเนี่ย เคยเรียนที่เดียวกับกาญจน์ แต่คนละห้อง กาญจน์ก็เคยเห็นเค้าในโรงเรียน แต่ไม่เคยพูดด้วย วันนั้นที่วอ แนะนำให้รู้จัก เผอิญว่า กาญจน์นั่งเก้าอี้ติดกับกอ วอก็เลยต้องแนะนำ พอแนะนำแล้ว เราก็นั่งคุยกัน...."

จู่ ๆ คนเล่าก็หยุด สีหน้าแดงก่ำ แล้วมองหน้ายิ้ม เธอจับข้อมือแม่หมออีกครั้งแล้วเขย่า

"ยิ้มรู้มั้ย ? เค้าน่ารักมาก น่ารักโคตร ๆ น่ารักสุด ๆ เค้าทำให้กาญจน์หัวใจหล่นหายไปเลย"

ท่าทางจะเป็นจริงเป็นจังอย่างคำพูด ยิ้มสังเกตุกิริยาของเพื่อนสาว ณ ตอนนี้ ใบหน้าสีชมพู มือที่รัดข้อมือเธอแน่นแล้วเขย่าไปมา

แม่หมอพยักหน้าช้า ๆ ให้รู้ว่า กำลังฟังอยู่

"แล้วไงต่อจ๊ะ ?"

"วันนั้นที่ขับรถกลับจากงานที่ไปเจอกัน กาญจน์ขับรถถึงบ้านได้ยังไงก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีถึงบ้านแล้ว ระหว่างทาง ใจของกาญจน์หายไปอยู่กับเค้าหมดเลย หลังจากนั้น กาญจน์ก็นัดเจอกับวออีก แล้วก็ถาม ๆ ว่า นายกอ จะมาด้วยหรือเปล่า ? วอเธอก็ชวนกอมาด้วยอีก ก็เลยเจอกันอีก แล้วก็มีโอกาสคุยกันมากขึ้น หลังจากนั้น กาญจน์ก็หาเรื่อง นัดกับเพื่อนกลุ่มอื่นไปที่ทำงานของกอ คือ กอน่ะ ทำงานในสถานที่ที่ เอ่อ... ให้คนเข้าไปดู ไปชมได้ ประมาณห้างสรรพสินค้า ที่มีคนเข้าไปชมเยอะ ๆ ได้ แต่ไม่ใช่ห้าง แต่วอไม่ได้ไปด้วย"

แม่หมอหัวเราะในความพยายามของเพื่อน ที่ต้องเล่าเรื่องให้เธอเข้าใจ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องไม่เปิดเผยความลับที่ไม่ควรเปิดเผย

"จ้ะ ! วอไม่ได้ไปด้วย แล้วไงต่อ ?"

"พอกอได้เจอกับกาญจน์ ก็ยังมีบุคลิกเหมือนเดิม ถึงแม้วอไม่ได้ไปด้วย กอก็ไม่ได้ถามถึงวอ แล้ววันนั้น ก็สนุกมาก ดีมาก หลังจากนั้น กาญจน์ก็เจอกับกออีก โดยไม่มีวอ"

สาวคับอก มองหน้าแม่หมอ แล้วเปลี่ยนมาพูดช้า ๆ

"ยิ้ม กาญจน์ต้องการรู้เรื่องแรก คือ นายกอ กับ วอ น่ะ ไม่มีอะไรกันใช่มั้ย ? เค้าสองคน ไม่ได้เป็นแฟนกันใช่มั้ย ?"

ยิ้มเริ่มเข้าใจเมื่อได้ฟังคำถามจากเพื่อน เสียงของท่านแม่บอกคำตอบมาทันที

ยิ้มตอบ

"ผู้ชายสูงโปร่ง ผิวขาวคนนั้น ไม่ได้เป็นแฟนกับ วอแหวน"

เสียงถอนหายใจจากอีกฝ่าย ดึงฟืดออกมาจากจมูก

"เยส ! โล่งอก ขอบคุณนะยิ้ม โล่งมากเลย เฮ้อ... !"

กาญจน์เอนหลังพิงเบาะโซฟา

"มันหนักอกกาญจน์มานานหลายเดือนเลย ยิ้มเข้าใจมั้ย ? ความรู้สึกของกาญจน์มันขัด ๆ กาญจน์ไม่สามารถถามวอได้ตรง ๆ แล้วก็ไม่มีโอกาสถามกอตรง ๆ ว่าทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อน หรือ แฟน แต่ ถ้าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน กาญจน์ก็จะเลิกยุ่ง เลิกคิดทันที กาญจน์จะไม่แย่งแฟนเพื่อนเด็ดขาด"

"จ้ะ ! ทั้งสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน สบายใจได้แล้วสิ อยากรู้แค่นี้เองเหรอ ?"

"ก็...ถ้าเรื่องที่อยากรู้ที่สุด ก็แค่นี้แหละ แต่ ถ้าสามารถรู้ได้มากกว่านี้ กาญจน์ก็อยากรู้ว่า กอเค้ามีแฟนหรือยัง ?"

ยิ้มตอบได้ทันที

"ยังจ้ะ ! เค้ามีคนแวดล้อมเป็นผู้หญิงเยอะ แต่เค้ายังไม่มีแฟน"

เลือดฝาดวิ่งขึ้นหน้ากาญจน์อีกครั้ง เธอกำมือแล้วพยักหน้าเบา ๆ

"เยส เยส เยส ! แค่นี้พอแล้ว ไป... ไปเอาชุดมาให้กาญจน์เปลี่ยน เดี๋ยวกาญจน์จะช่วยตัดหญ้าให้"

คำพูดของเพื่อนทำให้ยิ้มประหลาดใจ

"หา !... อาไร ? กาญจน์ต้องการรู้เพียงแค่นี้เองเหรอ ? อุตส่าห์ขับรถมาบ้านยิ้ม แค่ถามสองคำถามเองเหรอ ?"

เพื่อนสาวพยักหน้า

"ใช่ ! มันหนักอกมากเลย ยิ้ม ตอนนี้โล่งแล้ว กาญจน์น่ะ ไม่กลัวอกหักนะ ไม่เคยอยากรู้ว่าผู้ชายแบบนี้จะชอบเรากลับมั้ย ขอให้แค่ได้ชอบเค้า มันก็มีความสุขมาก แต่สิ่งที่กาญจน์จะไม่ทำคือ การไปหลงรักแฟนเพื่อน ซึ่งตอนนี้ กาญจน์ก็ได้รู้คำตอบแล้วไง"

ยิ้มหัวเราะ เธอรู้สึกขำกับกิริยาท่าทางลิงโลดของเพื่อน

"ยังงี้ ตัดหญ้าเสร็จ ก็ช่วยถูบ้าน กับ ขัดห้องน้ำให้ด้วยละกัน"

กาญจน์ชูสองมือ

"ได้เลย ! ไปเอาชุดมาให้เปลี่ยน เดี๋ยวจัดการให้"

ยิ้มหัวเราะร่า

"ฮ่า ๆๆๆๆ ล้อเล่น จ้ะ ! เดี๋ยวเราออกไปหากลางวันกินกันแถวนี้ มีร้านอร่อย เดี๋ยวยิ้มพาไป"

กาญจน์นึกขึ้นมาได้ เธอทักเพื่อน

"เอ้อ...! ยิ้ม ค่าใช้จ่ายล่ะ ? ค่าครู เท่าไหร่ ?"

ยิ้มสั่นหัว

"ไม่มีหรอกจ้ะ อะไรกัน ? ถามแค่สองคำถาม เดี๋ยวกาญจน์เลี้ยงมื้อกลางวันยิ้มแล้วกัน"

เพื่อนพยักหน้าหงึก ๆ

"ได้ ๆ เออ นี่ ! กาญจน์มีเพื่อนที่ทำงานอีกคนนึง ตอนนี้มีปัญหาครอบครัว คือ เค้ามีปัญหากับสามี ยิ้มรับปรึกษาเรื่องพวกนี้ด้วยใช่มั้ย ? กาญจน์จะให้เค้าติดต่อมาได้มั้ยยิ้ม ?"

"ได้สิ กาญจน์ให้เค้าโทรมาคุยก่อน ได้หรือไม่ได้ ตอนคุยโทรศัพท์ ยิ้มค่อยรู้"

เพื่อนพยักหน้า

"ได้ ๆ เดี๋ยวจะได้บอกให้เค้าลองโทรมาก่อน ท่าทางเค้าก็กลุ้มใจน่าดู อือ... แต่เรื่องนายกอน่ะ ยิ้มว่ามีวิธีไหนมั้ย ที่เราอยากได้อะไร แต่เราไม่สามารถบอกเค้าได้ เราจะใช้วิธีไหนทำให้เค้าชอบเราได้ ?"

ยิ้มนึกสักอึดใจ แล้วตอบ

"ยิ้มคงเลือกวิธีสวดมนต์ กับปฏิบัติสมาธิ เพราะยิ้มไม่รู้จักวิธีอื่นน่ะ ยิ้มเชื่อว่า การปฏิบัติธรรม จะทำให้เราได้สิ่งของที่เราสมควรจะได้ โดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยเลย ถ้าบุญเรามีสะสมไว้เพียงพอ บุญนี้ก็จะไปดึงผู้ที่เหมาะสมกับเรามาชอบเราเอง"

เพื่อนหัวเราะหึ ๆ

"อือ...! ถ้ากาญจน์ปฏิบัติธรรมแล้ว นายกอมาชอบกาญจน์ได้จริง ๆ นะ...." เธอหยุด แล้ว นึก

"... ขนลุก ไม่อยากนึกเลย นึกถึงว่า จู่ ๆ วันนึง กอเค้าเดินเข้ามา แล้วบอกกาญจน์ว่า เค้าชอบกาญจน์ โอย.. ! จาเป็นลม"

พูดแล้วก็หัวเราะร่า

ยิ้มลุกขึ้นยืนพยักหน้า ชวนเพื่อนให้ออกไปข้างนอกหาอาหารกลางวันทาน

**************************************************************************************************

สองทุ่มตรง.... เสร็จกิจแห่งการปฏิบัติกรรมฐานประจำวัน

จิตใจที่แจ่มใสเพราะเพิ่งได้ถูกชำระล้างมาจากความสงบในฌาน ทำให้การติดต่อจากท่านแม่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาพลาง ๆ ของผู้ชายวัยประมาณห้าสิบปีปรากฏขึ้นในจิต เสียงของท่านแม่ตอกย้ำให้จัดบ้านเรือนให้สะอาด และ เป็นระเบียบ เพื่อรอรับแขกคนสำคัญคนนี้ ซึ่งจะมาเยือนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

แขกคนนี้ ไม่ชอบความสกปรก ไม่ชอบอะไรที่ไม่เป็นระเบียบ

แขกคนสำคัญนี้จะนำพาบริวารอื่น ๆ มาพึ่งพาอาศัยเกื้อกูลตัวเธอได้ในอนาคตสืบไป

ยิ้มรับปากท่านแม่อย่างเป็นมั่นเหมาะ แต่ใจก็แว่บไปถึงภารกิจการจัดการกับหญ้ารกในสนามหญ้าหน้าบ้านที่ยังกวนใจเธออยู่

เธอจำเป็นต้องเคลียร์วันพรุ่งนี้ช่วงเช้าให้ได้ ไม่ให้มีใครมารบกวน แล้วมีสมาธิกับการจัดการกำจัดหญ้าในสนามด้วยตนเอง

คำว่า 'ไม่กี่วันข้างหน้า' ของท่านแม่ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่า กี่วันกันแน่ หากเกินสี่-ห้าวัน นั่นยังเป็นเวลาที่เพียงพอกับการติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดูแลหมู่บ้าน ให้จัดหาคนมาตัดหญ้าให้ ซึ่งโดยปกติต้องบอกล่วงหน้าประมาณสี่-ห้าวัน

สรุปแล้ว การลงมือทำด้วยตนเอง ก็เป็นคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุด ดีกว่ารอพึ่งพาชาวบ้าน

พรุ่งนี้ช่วงเช้าจนถึงเที่ยง เธอจะอุทิศเวลาให้กับการตัดหญ้า
**************************************************************************************************

อ่านหน้าต่อไป >
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่