ตอน 18 หน้า 1

สวัสดีค่ะ คุณครู

สั่งซื้อ หนังสือนิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก ราคา 380 บาท

"อาจารย์ครับ สรุปว่าพรุ่งนี้ สิบโมงเช้านะครับ คุณแอนดี้จะรอพบอาจารย์ที่เรือนอภิญญาฆราวาส"

"ได้ค่ะ คุณน้อย ! แล้วพรุ่งนี้คุณน้อยเข้าไปด้วยหรือเปล่าล่ะ ?"

"ไม่ได้เข้าครับ ! คุณแอนดี้เป็นคนที่จะสามารถช่วยอาจารย์ได้ ลองคุยกับเค้าดูนะครับ"

อาจารย์หญิงถอนหายใจเฮือกเล็ก ๆ

"เฮ้อ... ! ไม่รู้เด็กไปทำกรรมอะไรไว้ จู่ ๆ ถึงได้ป่วยเหมือนกับถูกยาสั่งแบบนี้ ครูเองก็เป็นห่วงเด็กมากเหมือนกัน แม่ของเด็กคนนี้เป็นคนอุปถัมภ์เรือนอภิญญาฆราวาสมาตลอด นี่ล่าสุด เธอก็บริจาคแอร์สองตัวมาติดห้องชั้นบนของเรือน สรุปว่า คุณน้อยไม่ต้องไปหาเงินที่ไหนมาซื้อแอร์แล้ว งานนี้ครูหาได้แล้ว อนุโมทนาด้วยนะคุณน้อย"

"โอว ! ขอบคุณมากครับอาจารย์ อนุโมทนาบุญด้วยครับ ดีจัง ! ต่อไปนี้วันไหนเป็นวันสอนกรรมฐานใหญ่ ก็แบ่งคนไปห้องชั้นบนได้แล้ว"

"นั่นน่ะสิคะ ! แต่ถ้ามีคนสนใจมาเรียนกรรมฐานสม่ำเสมอมากกว่านี้ก็จะดี นอกจากงานใหญ่แล้ว เรามีคนมาเรียนกันอยู่เป็นพัก ๆ เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ของเรือนก็ใหญ่โต เสียดายไม่ได้ใช้งาน"

"อีกไม่นาน น่าจะมีคนศรัทธามากขึ้นนะครับ"

"เพราะคุณแอนดี้นี่น่ะเหรอ ? อือ... ! ถ้าเป็นศิษย์ที่หลวงพ่อสอนส่งมา ครูก็มั่นใจว่าเขาจะต้องมาสร้างอะไรดี ๆ ให้กับเรือนอภิญญาฆราวาสได้"

"ที่เรามีคนศรัทธาได้มาถึงตอนนี้ ก็ได้อาจารย์เป็นหัวแรงใหญ่ ถ้าเราไม่ได้ความกรุณาของอาจารย์ เราก็คงไม่มีเรือนไม้นี้ตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ"

อาจารย์หญิงหัวเราะ

"โอย... ! ถ้าจะเทียบกับความใจบุญของครอบครัวกิจบูรณาแล้ว ครูเทียบไม่ติดหรอก

ทุกวันครูก็สวดมนต์ขอพรจากพระท่าน ขอพรจากหลวงพ่อ ให้คุ้มครองครอบครัวกิจบูรณา

สิ่งที่ครอบครัวของคุณน้อย ได้ทำเพื่ออุปถัมภ์วัดนาคโขง อุปถัมภ์หลวงพ่อสอน มันเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ที่เกินกว่ากำลังของคนธรรมดา ครูดีใจที่ได้มารู้จักคุณหญิงกับครอบครัว พูดถึงครอบครัวกิจบูรณาทีไร ครูก็อดจะมีปีติไม่ได้"

"เราเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกันนะครับอาจารย์ ถึงได้มารู้จักกันเพื่อเกื้อกูลกัน ผมเอาใจช่วยนะครับ พรุ่งนี้ขอให้คุณแอนดี้ช่วยให้อาการของเด็กดีขึ้นได้"

"ถ้าได้ยังงั้นก็เยี่ยมน่ะสิ ! ขอบคุณนะ คุณน้อย"

************************************************************************************************

แดดยามเช้าวันเสาร์กำลังส่องแสงสีส้มอ่อน ๆ ลงมาทั่วบริเวณเรือนไม้

สิงห์ในชุดดำ ลงจากประตูหน้าฝั่งซ้ายของรถกระบะ

เขาพูดกับโชเฟอร์

"น้าชวนช่วยเอาชุดที่แขวนไว้ในรถ ขึ้นไปไว้บนห้องโถงชั้นสองด้วยนะครับ เดี๋ยวตอนบ่ายผมต้องเปลี่ยนชุด"

พนักงานขับรถอาวุโสวัยเกือบหกสิบปีพยักหน้ารับรู้

แอนดี้เดินตรงไปยังฝั่งขวาด้านหน้าของเรือนไม้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิ

เขาหยุดยืนที่หน้าศาลพระภูมิ แล้วยกมือไหว้

"ท่านปู่ใหญ่ ! วันนี้เป็นวันสำคัญวันนึง ช่วยผมด้วยนะครับ"

เสียงที่ทุ้มใหญ่ และ กังวานของเทวดาเจ้าที่ ดังขึ้น

"เอ็งทำใจให้สบายเถอะ ! ข้าดูแลอยู่ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนในวันนี้แน่ ๆ"

เขายกมือไหว้อีกครั้ง

"ครับ ! ผมฝากท่านปู่ใหญ่ด้วยนะครับ"

แล้วหันหลังเดินตรงเข้าเรือนไม้

เสียงสหายพรหมคู่ใจดังขึ้น

"งานสำคัญ แกก็ยังใส่ชุดดำ แกจะไปงานศพใครหรือไง ?"

แอนดี้หัวเราะหึ ๆ ในใจ

"ผมไม่ได้ไหว้วานให้ท่านลุงมาช่วย ท่านจะมาออกความคิดเห็นทำไม ?"

ร่างของพรหมในชุดทรงเต็มยศพร้อมชฎา ปรากฏกายขึ้นในจิตของแอนดี้ กำลังยืนขวางประตูเรือนไม้

"มึงพูดยังงี้กับกู กูไม่ให้มึงเข้าเรือน ไอ้ลูกหมา ! แมวอะไรทำไมมันปากหมาอย่างนี้ ? ชั้นก็แค่ถามแกดี ๆ แกคิดยังไงก็ตอบมาซีวะ ทำไมต้องพูดจาแดกดันเหมือนกับชั้นเป็นลูกน้องแก ?"

แอนดี้ตั้งจิต ยกมือไหว้

"ขออภัย ท่านลุง ! ผมไม่ได้เจตนาแดกดัน แต่ผมก็ถามดี ๆ ว่า ที่ท่านออกความคิดเห็นน่ะ ท่านมีเหตุผลอะไร ก็สามารถพูดมาได้ เผื่อผมจะได้เข้าใจไงครับ"

"กูไม่เชื่อมึง ! มึงมันกะล่อน พอถูกจับได้ว่าปากหมา มึงก็เปลี่ยนมาเป็นอ้อน กูไม่ใช่สาว ๆ จะได้หลงคารมไอ้แมวหลงตัวเอง"

หนุ่มชุดดำ หยุดยืนอยู่หน้าประตูเรือนไม้

"เอาน่า ! ท่านลุง ! ถือว่าผมแหย่นิดหน่อยเป็นอาหารเช้าละกัน ไอ้ที่ผมยังแต่งชุดดำนี่ เพราะวันนี้ ผมไม่อยากให้คนที่ผมคุยด้วย เค้าดูผมจากเสื้อผ้า ใส่เสื้อมีสีสัน มันก็จะดูหล่อเกินไป ก็แต่งดำ ๆ แบบนี้นี่แหละ จะได้ดูไม่ธรรมะธรรมโม"

สหายท่านลุงยังมีสีหน้าไม่พอใจ แต่รู้ดีว่า วันนี้หลานแมวของท่าน มีนัดสำคัญ ครั้นจะชวนทะเลาะต่อไปก็จะเสียการเสียงาน

พรหมในชุดเต็มยศยกมือขึ้นชี้หน้า

"ปากดีนัก ! คอยดูไปเถอะ ! ชั้นมีเรื่องสำคัญจะบอกแก ไม่บอกซะเลยดีกว่า แกจะทำอะไรก็ไปทำ เห็นแกแล้วหงุดหงิดจริง ๆ"

ร่างของพรหมหายวับไปในพริบตา

แอนดี้ยิ้มกับตัวเอง แล้วก้าวเท้าผ่านเข้าประตูเรือนไม้

****************************************************************************************

ชั้นสองของเรือนไม้....พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องรับแขกของครอบครัวกิจบูรณา พื้นที่ส่วนที่เหลือถูกแบ่งเป็นห้องเล็ก ๆ อีก 4 ห้อง สำหรับเรียนกรรมฐาน

แอนดี้นั่งพักอยู่ที่ห้องโถงของชั้นสอง จิตที่กำลังสบายทำให้เกิดสมาธิขึ้นได้อย่างง่ายดาย

ภาพของหลวงพ่อสอนปรากฏขึ้น

"จงมีเมตตากับเขา" เสียงหลวงพ่อสอนดังตามมา

แอนดี้ตั้งจิตถาม

"แค่นี้เองหรือครับ หลวงพ่อ ?"

พระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ พยักหน้า

แอนดี้พยักหน้ารับรู้ แล้วใช้จิต ก้มลงกราบที่เท้าพระอาจารย์สามครั้ง

"อาการป่วยเมื่อคืนทำให้เช้านี้สมองผมตื้อ คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่จิตใจก็ยังสบาย ไม่ได้กังวลอะไรนัก ผมมาก่อนเวลานัดสองชั่วโมง ไม่รู้จะทำอะไรดี คงไม่มีอะไรให้เตรียมใช่มั้ยครับ ? ก็แค่มีใจเมตตากับเค้า"

"แล้วตอนเธอบวชอยู่ที่วัดชั้นน่ะ เวลาว่าง ไม่มีอะไรทำ เธอทำอะไรล่ะ ?"

เขาเลิกคิ้ว

"ครับ หลวงพ่อ ! ก็ดีเหมือนกัน"

****************************************************************************************

อาจารย์หญิงวัยเกือบอาวุโสผิวคล้ำเดินเข้ามาในห้องโถงเรือนไม้

ผมที่มีสีดอกเลาแซมประปรายของเธอ ถูกรวบมัดไว้ข้างหลัง

วันนี้เธออยู่ในชุดเสื้อขาว กางเกงขายาวสีขาว หลังจากวางเป้สัมภาระสีดำไว้ที่ริมผนังห้องโถงแล้ว เธอก็เดินเท้าเปล่าอย่างกระฉับกระเฉง ตรงผ่านห้องโถงใหญ่ ไปทางห้องเก็บของท้ายเรือน

เมื่อเปิดประตูห้องเก็บของ อาจารย์หญิงกลับไม่เจอสิ่งของที่ต้องการหา....ถังที่บรรจุอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ

ด้วยความฉงน เธอจึงเดินตรงไปที่บริเวณห้องน้ำ

มีเสียงดังมาจากข้างในห้องน้ำชาย ดูเหมือนใครบางคนกำลังทำความสะอาดห้องน้ำอยู่

เวลาแปดโมงครึ่ง.... ยังไม่ใช่เวลาที่คนทำความสะอาดจะมาถึง !

เธอถือวิสาสะเคาะประตูห้องน้ำชาย แล้วเปิดประตูเข้าไป

ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำถูกถกขึ้นมาถึงครึ่งแข้ง กำลังนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นห้องน้ำ

เขาหันมา มีสีหน้าประหลาดใจ

อาจารย์ทักขึ้น

"อ้าว ! แล้วกำไลไม่มาเหรอจ๊ะ ? น้องมาแทนกำไลเหรอ ? มาแต่เช้าเชียว !"

แอนดี้สั่นหัว

"เปล่าครับ ! ผมไม่รู้จักกำไลครับ พอดีมีเวลาว่าง ผมเลยมาทำความสะอาดห้องน้ำฆ่าเวลาครับ"

อาจารย์หญิงขมวดคิ้ว

"อ้าว ! เธอเป็นใครล่ะ ทำไมถึงมาล้างห้องน้ำล่ะ ? ประเดี๋ยวเก้าโมง กำไลเค้าก็จะมาทำความสะอาดห้องน้ำชายตามปกติอยู่แล้ว เธอจะทำทำไม ?"

แอนดี้ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มให้

"เหรอครับ ? ผมมันติดนิสัยเดิม เคยอยู่วัด ว่างเมื่อไหร่ ก็ไปทำความสะอาดห้องน้ำ มันก็ติดนิสัยน่ะครับ"

อาจารย์ได้ฟังก็มีรอยยิ้ม พยักหน้า

"อื้อ ดี ! โมทนาบุญด้วย ! เธอมาเรียนกรรมฐานเหรอ ? กว่าจะเริ่มก็สิบโมงโน่น เธอไปพักเถอะ ไม่ต้องทำต่อแล้ว ไปแย่งงานกำไลเค้า ส่งถังกับของทั้งหมดมาให้ชั้น ชั้นจะไปล้างห้องน้ำหญิง"

แอนดี้เอียงคอ

"อ้าว ! แล้วกำไลเค้าไม่ได้ล้างห้องน้ำหญิงเหรอครับ ? พี่เป็นใครถึงต้องไปช่วยล้างล่ะครับ ?"

เธอหัวเราะ

"ชั้นเหรอ ? ก็คงเหมือนเธอล่ะมั้ง วันเสาร์ชั้นจะมาเช้า เพื่อมาล้างห้องน้ำหญิงเอง มันเป็นรสนิยมส่วนตัว"

เธอแบมือเป็นสัญญาณให้แอนดี้ส่งมอบวัสดุคืนให้

เขาเริ่มเอะใจ ชี้มือไปที่คู่สนทนา

"อาจารย์ยาใจใช่มั้ยครับ ?"

คู่สนทนาพยักหน้า

เขาชี้ตัวเอง

"ผมแอนดี้ครับ อาจารย์ !" พูดแล้วก็หัวเราะ ยกมือขึ้นไหว้

ดวงตาของอาจารย์หญิงเบิกโต

"อ้าว ! คุณแอนดี้ !" เธอยกมือขึ้นไหว้รับ "คุณแอนดี้จะมาทำความสะอาดห้องน้ำทำไม ? เค้ามีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว"

"อาจารย์ก็เหมือนกันแหละครับ แปลกจัง ! เคยไฝ่ฝันอยากเป็นคนทำความสะอาดเหรอครับ ?"

ครูยาใจหัวเราะชอบใจ เธอพยักหน้า

"ไปเถอะค่ะ ! ปล่อยของไว้อย่างนั้นก่อน เดี๋ยววันนี้ครูจะบอกให้กำไลเขาทำทั้งสองห้อง เราไปหาที่นั่งคุยกันเถอะ"

แอนดี้พยักหน้ารับ

"ครับ ! วันนี้ฤกษ์ดีจริง ๆ ได้มารู้จักกันในห้องน้ำชาย รู้ถึงไหน อายไปถึงนั่น"

อาจารย์หญิงหันหลังกลับไปเปิดประตูพร้อมเสียงหัวเราะร่วน

สิงห์ชุดดำเดินออกมาจากห้องน้ำ เสื้อยืดสีดำมีร่องรอยของเหงื่อซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด

"คุณแอนดี้รอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวครูจะไปเอาเสื้อขาวในห้องเก็บของมาให้ ดูสิ ! เหงื่อโชกเลย"

แอนดี้พยักหน้ารับ

"ครับ !"

ครูยาใจเดินตรงไปยังห้องเก็บของ

แอนดี้ยืนอมยิ้มอยู่หน้าบริเวณห้องน้ำ จิตนึกถึงหลวงพ่อสอนทันที นี่เป็นเจตนาอย่างชัดแจ้งที่หลวงพ่อสอนดลใจให้เขาเลือกฆ่าเวลาโดยการทำความสะอาดห้องน้ำ

อาจารย์หญิงเดินถือเสื้อปฏิบัติธรรมสีขาวกลับมา เธอยื่นให้

"นี่จ้ะ ! หน้าตาอย่างกับดาราหนัง กลับมามีรสนิยมชอบล้างห้องน้ำซะได้ ไปเปลี่ยนเสื้อก่อน เดี๋ยวครูไปรอที่ห้องกรรมฐานใหญ่ก่อนนะ จะไปเปิดหน้าต่างรอไว้"

แอนดี้รับเสื้อมาถือไว้ แล้วยกมือไหว้

"ขอบคุณครับอาจารย์ เดี๋ยวขอเวลาดาราไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วจะตามไปครับ"

อาจารย์หญิงหัวเราะทิ้งท้าย ก่อนหันตัวเดินผละไป

****************************************************************************************

หน้าต่างบางส่วนของห้องกรรมฐานใหญ่ถูกเปิด เพื่อให้อากาศได้ระบายถ่ายเท

นอกเหนือไปจากการสร้างนักเรียนที่มีคุณภาพนับจำนวนไม่ถ้วนแล้ว เรือนอภิญญาฆราวาสนี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ครูยาใจรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วม ไม้ทุกชิ้นที่ประกอบขึ้นเป็นเรือนนี้ เปรียบเสมือนอวัยวะในร่างกายที่เธอรัก และ หวงแหน

เพราะจิตศรัทธาที่มีในปฏิปทาของหลวงพ่อสอน...พระสงฆ์แห่งแดนล้านนา ทำให้เธอยินดีมอบกายถวายชีวิตเพื่ออุปถัมภ์ค้ำชูเรือนอภิญญาฆราวาส

ครูยาใจเดินมาที่หน้ารูปหล่อพระประธานพระพุทธเจ้าองค์ปฐม คุกเข่า แล้วก้มลงกราบสามครั้ง

ชายหนุ่มซึ่งมีหน้าตาคมเข้มเหมือนนายแบบที่เธอเพิ่งรู้จักเมื่อครู่นี้ จะมาพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นไปตามความต้องการของหลวงพ่อสอนได้มากน้อยเพียงใด ?

หน้าตาดี พูดจาไพเราะ แต่ทำงานหยิบโหย่งฉาบฉวย ค้นหาความสำเร็จไม่เจอ.... นี่เป็นสิ่งที่เธอพบเห็นมาตลอดชั่วอายุของการเป็นครู

หากชายคนนี้จะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น... เป็นเช่นลูกศิษย์มากมายของเธอที่มีบุคลิกลักษณะประมาณนี้ เธอก็คงไม่แปลกใจนัก หากเขาจะทำได้แค่เพียงการสร้างภาพพจน์ที่ดี แต่ข้างในกลวงโบ๋

การตั้งความคาดหวังไว้สูง ก็จะจบด้วยการทุกข์ใจเองทีหลัง นี่คือหลักธรรมะง่าย ๆ ที่ใช้ได้ในทุกเวลา ทุกโอกาส

ประตูห้องกรรมฐานถูกเปิดออก

พนักงานรักษาความปลอดภัยหญิง เดินเข้ามาจนถึงบริเวณหน้าพระประธาน

ครูยาใจลุกขึ้นยืน

"มีอะไรเหรอจ๊ะ ?"

"อาจารย์คะ มีคนจากต่างจังหวัดมาถามหาทิดเอกค่ะ"

อาจารย์หญิงเอียงคอ ขมวดคิ้ว

"ทิดเอก ! ใครคือทิดเอก ? เป็นคนที่มาฝึกกรรมฐานหรือเปล่า ? คงต้องรอใกล้ ๆ สิบโมงล่ะมั้ง กว่าคนที่จะมาฝึกกรรมฐานจะมากัน ไม่เป็นไร เดี๋ยวครูออกไปพบเค้าเอง"

รปภ.สาวพยักหน้าเห็นด้วย

"ค่ะ ! มากันเต็มคันรถเลย รออยู่หน้าประตูเรือนค่ะ"

อาจารย์เลิกคิ้ว

"หือ ! เต็มคันรถ ! รถอะไร ? รถทัวร์เหรอ ?"

"เปล่าค่ะ ! รถกระบะค่ะ"

รปภ.หญิง หันตัวกลับ แล้วเดินนำออกไป

อาจารย์หญิงเดินผ่านห้องโถงมาถึงหน้าประตูเรือน

อาคันตุกะหกชีวิตยืนสนทนากันอยู่ที่ระเบียงชานเรือน ชายวัยสามสิบกว่าปีผิวคล้ำเหลือบมาเห็นผู้ที่เดินออกมาต้อนรับ จึงยกมือขึ้นไหว้

"สวัสดีครับ ! ไม่ทราบว่าทิดเอกอยู่ที่นี่ใช่มั้ยครับ ?"

ครูยาใจยกมือรับไหว้

"ทิดเอกไหนคะ ? เป็นคนที่มาฝึกกรรมฐานใช่หรือเปล่า ?"

หญิงอาวุโสวัยประมาณเจ็ดสิบปี ผิวคล้ำ ผอมเกร็ง เดินเข้ามาพูดแทรกด้วยภาษาเหนือ

"ไอ้พุด ! บอกเปิ้นไปเลยว่า คนตี้หล่อตี้สุดตี้นี้อยู่ตี้ได โตยมาฮื้อกำ ต้ะอี้แหละ"
("ไอ้พุด ! บอกเค้าไปเลยว่า คนที่หล่อที่สุดที่นี่อยู่ที่ไหน ตามมาให้หน่อย แค่นี้แหละ")

ไอ้พุดที่เป็นคนถามคนแรก หัวเราะ

"นี่แม่ ! ใค๋เค๋ามาถามหาคนจะอี้กั๋น ? เปิ้นมีจื่อก็ฮ้องจื่อเปิ้น นี่บ่ใจ้หมู่บ้านเฮา จะได๊ฮ้องต๋ามใจ๋ชอบ"
("นี่แม่ ! ใครเค้ามาถามหาคนแบบนี้กัน ? ท่านมีชื่อก็เรียกชื่อท่าน นี่ไม่ใช่ในหมู่บ้านเรา จะได้เรียกตามใจชอบ")

แม่หันหลังให้ลูก แล้วยกมือ

"โค๊ะ ! ยุ่งยากขนาด ! เปิ้นฮ้องพระเอกของเปิ้นจ๊ะเก่าดีกว่า"
("เชอะ ! ยุ่งยาก ! ชั้นเรียกพระเอกของชั้นตามเดิมดีกว่า")

ลูกชายเปลี่ยนมาพูดภาษากลาง

"แม่เรียกพระเอกน่ะ คนเค้าจะนึกว่าแม่บ้าดารา"

คำว่า 'พระเอก' ทำให้อาจารย์ยาใจฉุกคิดขึ้นมาได้

"พระเอก ! ใช่คุณแอนดี้หรือเปล่า ? ถ้าจะมีคนเป็นพระเอก สงสัยคงจะเป็นคุณแอนดี้ล่ะมั้ง ?"

แขกทั้งหกคน ทำหน้าเหรอหรา

คุณพ่อวัยเจ็ดสิบกว่ายังมีสติปัญญาที่ว่องไว อธิบายเพิ่ม

"พระเอกนี่ ชื่อเอก ตอนบวชเป็นพระเค้าก็เรียกกันว่าพระเอก รูปร่างสูงประมาณนี้" เขายกมือขึ้นเหนือหัว "น่าจะประมาณร้อยแปดสิบ รูปร่างดี ชายชาตรีแท้ ๆ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง หน้าตาจัดว่าหล่อมากเลยล่ะคุณ เพิ่งสึกมาได้ประมาณสองเดือน"

ครูยาใจยกมือขึ้นโบก

"รู้แล้วค่ะ คุณตา ! เป็นคุณแอนดี้แน่ ๆ เชิญทุกคนข้างในเรือนก่อนเลย ขอโทษทีนะคะคุณตาคุณยาย หนูเองก็เพิ่งรู้จักคุณแอนดี้วันนี้ ไม่เคยทราบว่าชื่อเอก"

คณะอาตันตุกะเริ่มมีรอยยิ้ม

คุณแม่ที่เปลี่ยนฐานะมาเป็นคุณยายตามคำที่ถูกเรียก จับแขนครูยาใจ

"พิโธ่เอ๊ย ! หนูเพิ่งรู้จักท่านเรอะ ? พวกเราทั้งครอบครัวเนี่ย รู้จักท่านตั้งแต่บวชใหม่ ๆ เลย"

คุณยายหันไปแนะนำ

"นี่ลูกชายชั้น เป็นคนขับรถมาจากเชียงใหม่ คนนี้เมียเค้า แล้วก็สองคนโน้นเป็นน้องสาวชั้น พวกเราหกคนเนี่ย มางานศพญาติที่กรุงเทพ ฯ แต่คิดถึงพระเอก ก็เลยพากันมาเยี่ยมท่านที่นี่ รบกวนหนูด้วยนะ"

หนูอายุห้าสิบกว่าปีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ผายมือเข้าไปในห้องโถง

"เชิญทุกคนเข้ามาข้างในเลยค่ะ ถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้นเก็บรองเท้านี้ได้ค่ะ"

****************************************************************************************

ประตูห้องกรรมฐานใหญ่ถูกเปิดออก

แอนดี้อยู่ในชุดเสื้อกุยเฮงสีขาวที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ มีสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นครูยาใจ เดินนำคณะทัวร์จากต่างจังหวัดที่ไม่ได้นัดหมายเข้ามาในห้อง

คุณยายออกเดินนำหน้าอย่างกระฉับกระเฉง

"นี่ไง พระเอกของชั้น !" แล้วชิงยกมือไหว้อดีตพระเอกทันที

ทิดเอกรีบยกมือไหว้สวนมา

"อย่าไหว้ผม คุณยาย ! ผมสึกแล้ว"

สมาชิกจากเชียงใหม่ทั้งหมด ยกมือไหว้ด้วยความเคยชิน

คุณยายหันมาพูดกับสามีเสียงดังลั่น

"นี่ ชั้นกอดท่านได้แล้วใช่มั้ยเนี่ย ? ท่านไม่ใช่พระแล้วนิ"

ไม่ทันที่คุณตาจะเออออด้วย คุณยายก็เดินอ้าแขนเข้ามากอด แอนดี้กระชับแขนกอดตอบ แสดงถึงความสนิทสนมเป็นกันเอง

ทันทีที่คุณยายผละจากตัวทิดเอก ก็รำพึงกับตัวเอง แต่เสียงก็จัดว่าไม่ได้เบา ได้ยินกันทั่วทั้งห้อง

"ชื่นใจจริงจริ๊ง ! อยากกอดท่านมาตั้งนานแล้ว มีผมขึ้นแล้วหล่อกว่าตอนเป็นพระเยอะเลย"

สมาชิกครอบครัวหัวเราะคิกคัก ครูยาใจอมยิ้มไปด้วย

แอนดี้ยกนิ้วขึ้นชี้

"แน่ะ ! คุณยาย ! คิดจะกอดพระเลยเหรอ ? จะยัดเยียดความเป็นสมีให้ผมแล้วมั้ยล่ะ ! ดีนะ ผมสึกซะก่อน ไม่งั้น ผมก็อดที่จะกอดคุณยายไม่ได้เหมือนกัน"

คำกระเซ้าของแอนดี้เรียกเสียงฮาได้จากคณะ ใบหน้าของคุณยายมีสีแดงฝาดราวกับสาวรุ่น

อดีตพระเอก หันไปพูดกับครูยาใจ

"พวกเค้าเป็นญาติโยมที่ใส่บาตรฟังธรรมที่วัดนาคโขงเป็นประจำครับ คุณตานี่เป็นอดีตกำนันเชียวนะครับ มีความรู้เรื่องการปฏิบัติดีมากครับ หลายเรื่องผมได้คุณตาคนนี้เป็นคนสอนผม"

ครูยาใจพยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปหาคุณตา

"เป็นฆราวาส แต่สอนพระได้ ไม่ธรรมดาเลยนะคะคุณตา"

คุณตาอมยิ้ม

"สอนซะที่ไหนเล่า ตาแค่เล่าเรื่องประสบการณ์ พระเอกท่านมีของเก่ามาอยู่แล้ว เรียกว่า บารมีท่านถึงจริง ๆ นะ พรรษาน้อยแต่ บารมีไม่น้อยนะ"

แอนดี้พูดขึ้น

"เลิกเรียกผมว่าพระเอกได้แล้วครับ คนเค้าจะคิดว่าผมเป็นนักแสดง เรียกผมว่าแอนดี้ดีกว่าครับ เชิญทุกคนไปกราบพระประธานก่อน แล้วค่อยมานั่งคุยกัน"

ครูยาใจทำหน้าที่เดินนำ เธอรู้สึกกระตือรือร้นทุกครั้งที่มีคนแปลกหน้ามาเยี่ยมเรือนแห่งนี้

****************************************************************************************

อ่านหน้า > 2, 3
สั่งซื้อ นิยาย 'หมอเถื่อน' รวมเล่มฉบับแรก กดที่นี่